อุทยานวิทยาศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ โชว์ผลงานผู้ประกอบการที่มารับการถ่ายทอดเทคโนโลยี ทั้งชากัญชา เครื่องแกงใต้พร้อมปรุง สะตออบแห้งชนิดคืนรูป ขณะที่เลขานุการ รมว.อว.ทึ่งเครื่องแกงใต้พร้อมปรุงส่งขายไกลถึงตะวันออกกลาง

ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่เยี่ยมชมผลการดำเนินงานของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.)จ.นครศรีธรรมราช โดยมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเกษตรผู้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเครื่องอบแห้งประสิทธิภาพสูง มาจัดแสดงผลงานที่ได้รับการสนับสนุนจากอุทยานฯ อาทิ ขนมลาแปรรูป สะตออบแห้งชนิดคืนรูป ข้าวเกรียบป๊อบ เครื่องแกงพร้อมปรุง ชากัญชา เป็นต้น โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

ทั้งนี้ ดร.ดนุช กล่าวว่า ผลงานที่นำมาจัดแสดงมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะเทคโนโลยีไมโครเวฟ สู่กระบวนการผลิตเครื่องแกงพร้อมปรุง ของบริษัท ไทย เซ้าเทิร์น ฟู๊ด อินดัสตรี จำกัด ตั้งอยู่ ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล ที่ผลิตเครื่องแกงสำเร็จรูปโดยใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรในพื้นที่เป็นหลัก เช่น เครื่องแกงไตปลา เครื่องแกงส้ม เครื่องแกงผัดเผ็ด เครื่องแกงกะทิ (แกงเผ็ดใต้) เครื่องแกงคั่วกลิ้ง เครื่องแกงน้ำยาขนมจีน เครื่องแกงเขียวหวาน ที่สำคัญบริษัทได้รับรอง มาตรฐาน HALAL GHPs และ HACCP

เลขานุการ รมว.อว.กล่าวต่อว่า กระบวนการผลิตของบริษัทน่าสนใจ หลังจากลองผิดลองถูกมาระยะหนึ่ง ก่อนที่จะมาขอคำปรึกษาอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มวล. และร่วมกัน “พัฒนาเครื่องอบแห้งไมโครเวฟและศึกษากระบวนการผลิตเครื่องแกงปักษ์ใต้แบบผงพร้อมปรุง” ภายใต้แผนงานพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและวิจัยของภาคเอกชนในพื้นที่ (IRTC - 2565) และแผนงานการยกระดับการวิจัยและพัฒนาของผู้ประกอบการด้วยเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (P6 - 2563) เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องแกงผงปรุงสำเร็จรูปด้วยเครื่องอบไมโครเวฟ จากเดิม ใช้เวลา 48 ช.ม./รอบการผลิต เป็นใช้เวลา 2 ช.ม./รอบการผลิต ทำให้มีกำลังการผลิตต่อวันเพิ่มขึ้นจากเดิม 4.8 ก.ก./วัน เป็น 72 ก.ก./วัน  สามารถลดค่าไฟฟ้าจากเดิม 100 บาท/ก.ก. เป็น 10 บาท/ก.ก. และได้ผลิตภัณฑ์เครื่องแกงใต้ผงพร้อมปรุงที่มีสี กลิ่น รสชาติมีคุณภาพดีขึ้น จำหน่ายได้ราคาสูงขึ้น สามารถสร้างยอดขายในผลิตภัณฑ์เครื่องแกงผงสำเร็จรูปได้มากยิ่งขึ้นจากเดิม 800,000 บาท เป็นมากกว่า 4,000,000 บาท บริษัทมีแผนขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศจะเจาะกลุ่มตลาดโมเดิร์นเทรด ที่ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้ากึ่งสำเร็จสูงมากขึ้นในตลาดปัจจุบัน ในส่วนตลาดต่างประเทศ กลุ่มประเทศเป้าหมาย คือ มาเลเซีย ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน !! "ศุภมาส" สั่งการหน่วยปฏิบัติการ “DSS วศ.อว” พร้อมลงพื้นที่ กรณีแคดเมียมสมุทรสาคร

วันที่ 5 เมษายน 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า

“ศุภมาส” ลุย ! ปฏิรูปอุดมศึกษาไทย ประกาศนโยบาย “2 ลด 2 เพิ่ม” ลดภาระ-ลดเหลื่อม ล้ำ-เพิ่มทักษะ-เพิ่มโอกาส

เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) จัดงาน "BETTER THAILAND การปฏิรูปอุดมศึกษา เพื่ออนาคตประเทศไทย" โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว. เป็นประธานเปิดงาน

รัฐมนตรี “ศุภมาส” ชื่นชมความสำเร็จ วศ.อว. วิจัยพัฒนานวัตกรรมเซรามิก “แร่หินผุ” เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจชุมชนกว่า 1 พันล้านบาท ทดแทนแร่ดินขาวที่กำลังจะหมดไป

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า กระทรวง อว. ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการผลิตตามยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

องคมนตรี ย้ำ “การศึกษาช่วยสร้างคนดีให้บ้านเมือง” เร่งแก้ปัญหาเด็กพื้นที่ห่างไกล ขณะที่ "ศุภมาส" รมว.อว. ส่งเครือข่ายมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยงลงพื้นที่ช่วยจัดการเรียนการสอน ผลิตสื่อการเรียนรู้

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) จัดการประชุมโครงการการแสดงผลการดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาท้องถิ่นโดยมีสถาบันอุดมศึกษาเป็นพี่เลี้ยง โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี

ด่วน! รมว. ”ศุภมาส“ สั่งการ “ทีม DSS” วศ.อว. ลงพื้นที่หาสาเหตุคลองน้ำเป็นสีชมพู พบแบคทีเรียซัลเฟอร์และพยาธิ…อื้อ

วันนี้ 19 มีนาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้สั่งการด่วนระหว่างการประชุม ครม.

“อว. For EV” เดินหน้า 23 หน่วยงาน MOU “ศุภมาส” ประกาศขับเคลื่อนประเทศสู่ Go Green

เมื่อวันที่ 18 มี.ค. น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนนโยบาย อว. For EV ของ 23 หน่วยงานสังกัดกระทรวง อว. เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปเป็น EV HUB