อธิบดี พช. น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปักหมุด 2566-2570 เดินหน้าขับเคลื่อน “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565  กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดกิจกรรม “พช.พบสื่อมวลชน” ในรูปแบบ Group Interview โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

นายสุรศักดิ์ อักษรกุล และนายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยผู้แทนจากทุกหน่วยงานของกรมการพัฒนาชุมชน และสื่อมวลชน ร่วมกิจกรรม ณ ห้องประชุม 5001 ชั้น 5 กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพฯ

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ในปี 2566 – 2570 กรมการพัฒนาชุมชน ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ในการดำเนินงาน  โดยมีเป้าหมายให้ชุมชนบริหารจัดการตนเองตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุขเพิ่มขึ้น ทั้งนี้หากทำให้เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งได้แล้วจะสามารถตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs Goal ขององค์การสหประชาชาติได้ โดยในปีงบประมาณ 2566 ได้กำหนดเป้าหมายหลัก “ตำบลเข้มแข็งตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” จำนวน 878 ตำบล มีกิจกรรมขับเคลื่อนงานทั้งการพัฒนาผู้นำกลุ่มองค์กรและเครือข่าย ส่งเสริมการออมและพัฒนาทักษะการบริหารจัดการทางการเงิน ส่งเสริมเครือข่ายศูนย์ผู้นำจิตอาสาพัฒนาชุมชน และส่งเสริมกิจกรรมเครือข่ายพื้นที่ต้นแบบโคก หนอง นา โมเดล รวมถึงพัฒนาองค์กรให้ทันสมัย มีสมรรถนะและมีธรรมาภิบาล ทั้งยังมุ่งเน้นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับภาคีการพัฒนาทั้ง 7 ได้แก่ ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน โดยมีพัฒนากรลงพื้นที่ทำงานเคียงข้างประชาชน ซึ่งล่าสุดมีการบรรจุ “พัฒนากร” รุ่นใหม่จำนวน 360 เพื่อลงพื้นที่ทำงานในตำบลหมู่บ้านครอบคลุมทุกจังหวัดอันเป็นจุดแข็งของกรมการพัฒนาชุมชนมาตลอดกว่า 60 ปี ที่กล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในงานหน่วยงานภาครัฐที่ทำงานใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนในชุมชนมากที่สุด

นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่อว่า ภารกิจเน้นหนักคือการส่งเสริมครัวเรือนปลูกผักสวนครัวอย่างน้อยครัวเรือนละ 10 ชนิด และการสานต่อการดำเนินงานประชารัฐรักสามัคคี หรือ SE ที่ดำเนินการในรูปแบบบริษัทประชารัฐฯ จังหวัด มุ่งเน้น 3 เรื่องหลักคือ เกษตร แปรรูป ท่องเที่ยว ตามบริบทของชุมชนที่แตกต่างกันซึ่งมีชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัติวิถีอยู่แล้วทั่วประเทศ ขณะที่การสนับสนุน OTOP ก็ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และพัฒนาช่องทางการตลาด แม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ก็มีการส่งเสริมช่องทางจำหน่ายออนไลน์ร่วมกับแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ อาทิ ช้อปปี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้ในช่วงที่ไม่สามารถจัดงานแสดงสินค้าได้ และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงแล้วก็จะมีการจัดงานใหญ่ต่างๆ อีกครั้ง เช่น OTOP City, OTOP ศิลปาชีพ, OTOP Midyear, OTOP ภูมิภาค และ OTOP สองแผ่น ยิ่งไปกว่านั้นในการการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC Thailand 2022 ในเดือนพฤศจิกายนี้ ยังได้มีการจัดเตรียมผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อเป็นของที่ระลึกมอบให้แก่ผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมอีกด้วย

นอกจากนั้นแล้ว การดำเนินโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา นับเป็นโครงการสำคัญที่ก่อให้เกิด “ดอนกอยโมเดล” ซึ่งเป็นกลุ่มผ้าทอต้นแบบของอำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ที่สามารถพัฒนาคุณภาพผ้าของชุมชนให้มีสีสันหลากหลายเกิดเป็นลวดลายใหม่และดีไซน์ทันสมัย สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน และต่อยอดสู่การเป็นโครงการต้นแบบที่ยั่งยืน ทั้งนี้ โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” สามารถสร้างยอดจำหน่ายระหว่างเดือนมกราคม 2564 - ตุลาคม 2565 ได้กว่า 32,118 ล้านบาท มีกลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์โดยตรง 12,665 กลุ่ม และสมาชิกได้รับประโยชน์โดยตรง 110,041 ครอบครัว ขณะที่กิจกรรมส่งเสริมการใช้และสวมใส่ผ้าไทยภายในกระทรวงมหาดไทยก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยขณะนี้หากไม่ใช่วันที่ต้องแต่งเครื่องแบบ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะร่วมกันสวมใส่ผ้าไทยทุกวัน

“ภารกิจของกรมฯ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 และวิสัยทัศน์ของประเทศ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หัวใจหลักของงานพัฒนาชุมชน คือมุ่งให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางและส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาทุกขั้นตอน เพราะการพัฒนาที่ยั่งยืนจะต้องเกิดจากพื้นฐานความต้องการของประชาชน ริเริ่มและขับเคลื่อนโดยประชาชนเป็นสำคัญ โดยทั้งหมดนี้จะเกิดพลังที่เข้มแข็งได้ด้วยภาคีการพัฒนาทั้ง 7 คือ ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาควิชาการ ภาคศาสนา ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคสื่อสารมวลชน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่จะช่วยกันขับเคลื่อนสื่อสารสร้างความเข้าใจไปสู่ทุกภาคส่วน รวมทั้งพัฒนากรจากกรมการพัฒนาชุมชนทุกคนที่ต้องเสียสละตนเอง รู้งาน รู้ปัญหา และทำหน้าที่เชื่อมประสานกับชุมชนหมู่บ้านทั่วประเทศ ต้องให้รองเท้าขาดก่อนกางเกง ตามพระโอวาท สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพที่อยู่ในหัวใจของบุคลากรกระทรวงมหาดไทย จึงขอฝากให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจช่วยกันขับเคลื่อนมุ่งหน้าสู่เป้าหมายเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความสุขของประชาชนอย่างยั่งยืน” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวย้ำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พช.ชูแนวคิด 'SHOP POWER ฟินเวอร์ทั่วไทย' 4 จว.ใหญ่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

พช. ลุยจัดงาน “OTOP ภูมิภาค ประจำปี 2567” แนวคิด “SHOP POWER ฟินเวอร์ทั่วไทย” 4 จว.ใหญ่ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ชุมชน ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดแสดงนิทรรศการ “โครงการพัฒนารูปแบบชุมชนภูมิปัญญาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์”

กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ ไอคอนคราฟต์ ไอคอนสยาม จัดแสดงนิทรรศการ “โครงการพัฒนารูปแบบชุมชนภูมิปัญญาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์” กิจกรรมที่ 1 พัฒนารูปแบบชุมชนภูมิปัญญาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อทดสอบตลาด ประชาสัมพันธ์

แรงไม่หยุด ! “OTOP Amazing Gift Fest” พช. ดัน OTOP ขายออนไลน์ต่อเนื่องบน Shopee

พช. หนุน “โครงการตลาดอะเมซิ่ง ของกินของใช้” ต่อเนื่อง คัดสรร OTOP ร่วมแคมเปญออนไลน์ “OTOP Amazing Gift Fest” บน Shopee เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ เรียนรู้เทคนิครูปแบบใหม่ พัฒนาช่องทางการตลาดเพิ่มยอดขาย

พช. หนุนผู้ประกอบ OTOP ต่อเนื่อง ชวนช้อป “OTOP Amazing Select” บน Shopee

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคม มุ่งเน้นสร้างรายได้และความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ