
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โพสต์ Facebook ส่วนตัวเปิดมุมมองถึงมูลค่าเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร( กทม.) นับเป็น 1 ใน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ของไทย สัดส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมค้าส่งและค้าปลีก (24%) และอุตสาหกรรมโรงงาน (21%) อุตสาหกรรมขนส่งและสื่อสารและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและร้านอาหาร มีสัดส่วนเพียง 14% และ 9% ตามลำดับ
หากจะขยายขนาดเศรษฐกิจของ กทม. ด้วยความพร้อมของสภาพแวดล้อม บุคลากร และโครงสร้างพื้นฐานของ กทม. อุตสาหกรรมที่เหมาะเป็นพระเอกคือ อุตสาหกรรมสื่อสารและดิจิตอล ที่เติบโตในอัตราเร่งทั่วโลก และในไทยเองก็ถูกคาดการณ์ว่าจะโตได้ถึง 25% ของจีดีพีไทยภายในปี 2027
การส่งเสริมให้ กทม. เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสื่อสารและดิจิตอลในภูมิภาคเอเชีย จะดึงเม็ดเงินลงทุนของอุตสาหกรรมนี้และอุตสาหกรรมอื่นที่เชื่อมโยงตามมาด้วย เช่น อุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นไปที่คุณภาพมากกว่าปริมาณของนักท่องเที่ยว กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพที่หลายเมืองใหญ่ในโลกพยายามดึงดูดคือ พวก digital nomad ซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงานยุคดิจิทัลแบบไร้ออฟฟิศ นิยมย้ายไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อท่องเที่ยวไปด้วย และประมาณ 75% ของคนกลุ่มนี้เป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็กที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพราะต้องการใกล้ชิดชุมชน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน
ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการสำหรับกลุ่ม digital nomad จึงเป็นโอกาสสร้างรายได้ใหม่ของ กทม. ด้วยจุดเด่นเรื่องระยะเวลาเข้าพักเฉลี่ยที่สูงกว่ากลุ่มท่องเที่ยวทั่วไป คนกลุ่มนี้จำนวนมากอาจพักระยะยาวเป็นปีก็ได้ ธุรกิจที่รองรับคนกลุ่มนี้จึงไม่ต้องเผชิญความผันผวนเหมือนการพึ่งพิงนักท่องเที่ยวทั่วไป
หลายประเทศต่างออกแคมเปญเพื่อดึงดูดกลุ่ม digital nomad เช่น โครเอเชีย “Croatia your new office” หรือโปรตุเกส “It Works for You” ในขณะที่ไทย แม้ว่ารัฐบาลยังไม่มีนโยบายในเรื่องนี้เลย แต่ปรากฏว่า กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของเหล่า digital nomad ทั่วโลกไปแล้ว จาก https://nomadlist.com/ และเว็บอื่น ๆ ปรากฎว่ากรุงเทพเป็นหมุดหมายอันดับหนึ่งของกลุ่ม digital nomad ด้วยองค์ประกอบของค่าครองชีพที่รับได้ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโดดเด่น มีกิจกรรมที่สนุกหลากหลาย คนไทยเป็นมิตรกับคนต่างชาติ มีอาหารและแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก แถมมีระบบอินเตอร์เน็ตที่ถือว่าอยู่ระดับที่ดี
เราพูดกันถึงนโยบายแจกแถมกันมามาก วันนี้ จำเป็นต้องคิดถึงนโยบายขยายขนาดเศรษฐกิจที่ยั่งยืนกันแล้ว “Go Nomad in Thailand” จะเป็นแคมเปญที่รัฐบาลกับภาคเอกชนสามารถร่วมรณรงค์ไปด้วยกัน เริ่มจากเมืองหลัก กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต แล้วขยายไปยังเมืองรองอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต ส่งต่อรายได้ลงไปยังเศรษฐกิจชุมชนผ่านธุรกิจท่องเที่ยวและบริการอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วัน อยู่บำรุง' ส่งสัญญาณส่อทิ้งลุงป้อม ซบ 'โอกาสใหม่'
'วัน อยู่บำรุง' โพสต์ส่งสัญญาณชีวิตถึงจุดเปลี่ยน จับตาย้ายซบ 'โอกาสใหม่' ด้าน 'จตุพร' รับได้คุยกัน เจ้าตัวสนใจนโยบายพรรค
“รมว.ศธ.นฤมล” เฝ้าฯ รับเสด็จ กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเปิดเวทีวิชาการ Thailand-Japan Student Science Fair 2025 หนุนเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นโชว์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์ สร้างนักวิจัยรุ่นใหม่สู่เวทีโลก
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.68 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานประชุมวิชาการ Thailand-Japan Student Science Fair 2025 (TJ-SSF2025) โดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
“รมว.นฤมล”เคาะร่างประกาศ กช. หลักเกณฑ์ฯ กู้เงิน-ยืมเงิน พัฒนาคุณภาพผู้เรียน รร.ในระบบ-รร.สอนศาสนา
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ครั้งที่ 4/2568 โดยมีคณะกรรมการและผู้บริหารการศึกษาที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ
'นฤมล' สั่งปิดสถานศึกษาชายแดนเพิ่มเป็น 1,168 แห่ง
'รมว.นฤมล' สั่งปิดสถานศึกษาชายแดนเพิ่มเป็น 1,168 แห่ง เปิดโรงเรียน 102 แห่งเป็นศูนย์พักพิง พร้อมส่งเด็กอาชีวะช่วยเหลือ ปชช.ในพื้นที่ เตรียม Fix It Center หลังสถานการณ์คลี่คลาย
“รมว.นฤมล”เร่งสำรวจความเสียหายโรงเรียน หลังน้ำท่วมหาดใหญ่ เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติงบฟื้นฟูให้กลับมาเปิดเรียนโดยเร็ว ชี้ เด็กสามารถมาเรียนได้ โดยไม่ต้องใส่ชุดนักเรียน หลังทรัพย์สินเสียหายจากน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เวลา 15.40 น.ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจสภาพความเสียหายบริเวณวงเวียนสายสงขลา–หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
Fix It Center เต็มกำลัง! “รมว.นฤมล”ตระเวนทั่วหาดใหญ่ตรวจความพร้อม กำชับ เร่งงาน รวดเร็ว ปลอดภัย และทั่วถึง ช่วยชาวบ้านซ่อมของเสียจากน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุเทพ แก่งสันเทียะ

