กุญแจสำคัญสู่ความรู้ด้านกฎหมายปกครอง

พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ได้ตราขึ้น โดยมีเจตนารมณ์เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนต่าง ๆ สำหรับการดำเนินงานทางปกครองให้เป็นไปโดยถูกต้องชอบธรรม มีประสิทธิภาพ และอำนวยความเป็นธรรมให้แก่ประชาชน ทั้งยังเป็นการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ  ทั้งนี้ ตามหลักการเรื่องความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการปฏิบัติราชการ สำหรับพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ได้ตราขึ้น เพื่อคุ้มครองการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยกำหนดให้เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดทางละเมิดในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และกำหนดกรณีที่การละเมิดเกิดจากเจ้าหน้าที่หลายคน มิให้นำหลักเรื่องลูกหนี้ร่วมมาใช้บังคับ โดยให้เจ้าหน้าที่แต่ละคนต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนของตนเท่านั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของรัฐ

นับแต่พระราชบัญญัติทั้งสองฉบับดังกล่าวใช้บังคับจนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับหลักการของกฎหมายดังกล่าวเท่าที่ควร  ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติตามกฎหมายของหน่วยงานภาครัฐเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจึงได้จัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีการเริ่มจัดทำโครงการนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ โดยเป็นการขยายผลการปฏิบัติตามกฎหมายในเชิงรุกให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและส่งผลต่อการใช้บังคับกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่  ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมกันหาแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้สอดคล้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และเพื่อเป็นการส่งเสริมศักยภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กองกฎหมายปกครอง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ดำเนินการจัดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 16 - 17 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะช่วยให้ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการ และพนักงานส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพิษณุโลก ได้ศึกษาและนำแนวทางต่าง ๆ ที่ได้จากการสัมมนามาใช้ในการปฏิบัติภารกิจและหน้าที่ภายในกรอบความรับผิดชอบ สามารถเป็นต้นแบบการบริหารราชการทางปกครองที่มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส อำนวยความยุติธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ และสามารถบริการประชาชนให้เป็นไปตามแนวทางของกฎหมายได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังได้มีการส่งเสริมกระบวนการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองและกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและประชาชนทั่วไป ผ่านทางเพจกองกฎหมายปกครอง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (https://www.facebook.com/AdministrativelawOCS) และวารสารกฎหมายปกครอง ฉบับออนไลน์ (https://www.krisdika.go.th/th/web/guest/draft-law) ซึ่งในส่วนของเพจและวารสารจะมีเนื้อหาประกอบไปด้วย บทความทางวิชาการที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับหลักกฎหมายปกครอง ความเห็นคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองที่น่าสนใจ และอินโฟกราฟิกความรู้เกี่ยวกับกฎหมายปกครอง ซึ่งทุกท่านสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวและสาระความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้จากช่องทางดังกล่าว ซึ่งจะเป็นประโยชน์ของการปฏิบัติราชการอย่างถูกต้อง เกิดความรู้ความเข้าใจ และช่วยส่งเสริมการปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและประโยชน์ให้แก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย “สร้างความเป็นธรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำทางสังคม”

พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ได้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา โดยกฎหมายดังกล่าวมีประชาชนให้ความสนใจและได้รับการกล่าวถึงอย่างมากมาย

'กฤษฎีกา' แจงปมร้อน 'แอชตัน อโศก' ชี้ รฟม. ให้เอกชนใช้พื้นที่นอกเหนือวัตถุประสงค์การเวนคืน

นายนพดล เภรีฤกษ์ โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยว่า ตามที่มีการส่งต่อข้อมูลผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นกรณีอาคารชุดที่เป็นประเด็นอยู่ว่า การก่อสร้างสามารถทำได้ตามกฎหมายนั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขอเรียนชี้แจง

ประโยชน์ที่ประชาชนได้รับจากกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย

พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ได้กำหนดให้เปลี่ยนโทษอาญาในความผิดที่ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง

คณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัยคือใคร? มีหน้าที่และที่มาอย่างไร?

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 ได้มีผลใช้บังคับแล้วพร้อมกับการออกอนุบัญญัติอีก 3 ฉบับ ประกอบด้วย กฎกระทรวงการแสวงหาข้อเท็จจริง

ชี้แจงข่าวกรณีการวินิจฉัยว่ารัฐวิสาหกิจมิใช่หน่วยงานของทางราชการ ที่ดำเนินงานโดยทางราชการเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 นายเพชร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชกุ๊ก และนายอภิชาต หวั่งหลี กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิทองพูล หวั่งหลี

กฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย

ตามที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2550