ชี้แจงข่าวกรณีการวินิจฉัยว่ารัฐวิสาหกิจมิใช่หน่วยงานของทางราชการ ที่ดำเนินงานโดยทางราชการเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ

ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวว่า ปัญหาการวินิจฉัยว่ารัฐวิสาหกิจมิใช่หน่วยงานของทางราชการที่ดำเนินงานโดยทางราชการเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ นั้น สมควรที่รัฐวิสาหกิจจะได้รวมตัวกันขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยใหม่ให้ชัดเจนและกว้างขึ้น เพื่อให้รัฐวิสาหกิจสามารถขยายและพัฒนากิจการได้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เนื่องจากกฎหมายของหน่วยงานภาครัฐเป็นกฎหมายซึ่งมีศักดิ์เหนือกว่าคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา นั้น

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอเรียนชี้แจงว่า การให้ความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นการวินิจฉัยตามประเด็นที่มีการหารือและตามบทบัญญัติของกฎหมายแต่ละฉบับที่แตกต่างกัน  ทั้งนี้ สำนักงานฯ มีข้อสังเกตว่า สมควรมีการทบทวนการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายจัดตั้งรัฐวิสาหกิจทุกฉบับเพื่อแก้ไขหรือปรับปรุงให้เหมาะแก่กาลสมัยตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๖๒ ก็จะเป็นการพัฒนารัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งได้อย่างเป็นรูปธรรม

                จึงเรียนมาเพื่อทราบทั่วกัน

                นายนพดล  เภรีฤกษ์

                โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

                ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

๙๑ ปี สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “พัฒนากฎหมายที่ดี เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน”

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตรา “พระราชบัญญัติเคาน์ซิลออฟสเตด คือ ที่ปฤกษาราชการแผ่นดิน” ขึ้น เพื่อเป็นองค์กรถวายคำปรึกษาแก่พระองค์ในการบริหารราชการแผ่นดิน

“สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา Better Regulation for Better Life : โอกาสและความท้าทายในยุคเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)”

การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กับบทบาทในเวทีการประชุม APEC Good Regulatory Practice Conference ครั้งที่ 17

Asia-Pacific Economic Cooperation หรือ APEC เป็นการประชุมความร่วมมือของเขตเศรษฐกิจซึ่งจัดขึ้นในทุกปี มีเนื้อหาครอบคลุมเกือบทุกมิติในทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

ความเห็นของคณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัยที่น่าสนใจ เรื่อง การแจ้งคำสั่งปรับเป็นพินัย กรณีผู้กระทำความผิดปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของรัฐและยินยอมชำระค่าปรับเป็นพินัย

ตั้งแต่พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. ๒๕๖๕ มีผลใช้บังคับ คณะกรรมการว่าด้วยการปรับเป็นพินัยซึ่งมีหน้าที่ให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัยฯ

ภารกิจของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในการยกเลิกกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่น

กฎหมายคือเครื่องมือของรัฐในการกำหนดกฎเกณฑ์และแนวทางในการอยู่ร่วมกันของบุคคลในสังคม เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในสังคม