ป.ป.ช. ชวน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผู้ติดต่อราชการกับสำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมประเมิน ITA เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนสู่การพัฒนา

สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดโอกาสให้ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงาน และประชาชนที่เคยติดต่อราชการกับสำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ประเมิน ITA) ให้แก่หน่วยงานภายในสังกัดสำนักงาน ป.ป.ช. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวม 121 หน่วยงาน โดยเปิดรับการประเมินและแสดงความคิดเห็นได้ที่  https://itas.nacc.go.th/  ได้ตั้งแต่บัดนี้ – 31 กรกฎาคม 2566 เพื่อเป็นเสียงสะท้อน หรับการพัฒนาการทำงาน และสร้างความตระหนักในการปฏิบัติงานอย่างมีธรรมาภิบาล เป็นองค์กรตัวอย่างที่เน้นความสุจริต โปร่งใส สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวว่า การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ หรือ Integrity and Transparency Assessment หรือที่เรียกว่าการประเมิน ITA ถือเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐเครื่องมือหนึ่ง ที่มุ่งพัฒนาระบบราชการไทยในเชิงสร้างสรรค์  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศได้รับทราบถึงสถานะและปัญหาการดำเนินงานด้านคุณธรรมและความโปร่งใสขององค์กร ผลการประเมินที่ได้จะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และตอบสนองต่อประซาชนได้ดียิ่งขึ้น

ซึ่งเกณฑ์การประเมิน ITA นี้มีการเก็บข้อมูลจาก 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน หรือ IIT (Internal Integrity and Transparency Assessment) หรือแบบวัดโดยเปิดโอกาสให้บุคลากรภาครัฐทุกระดับที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานภาครัฐได้มีโอกาสสะท้อนและแสดงความคิดเห็นต่อคุณธรรมและความโปร่งใสของหน่วยงานตนเอง ส่วนที่ 2 แบบวัดการรับรู้ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก หรือ EIT (External Integrity and Transparency Assessment) เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการหรือผู้ติดต่อหน่วยงานภาครัฐ ในช่วงปีงบประมาณ   พ.ศ. 2566 ได้มีโอกาสสะท้อนและแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ และส่วนที่ 3 แบบวัดการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ หรือ OIT (Open Data Integrity and Transparency Assessment) ซึ่งเป็นการตรวจสอบระดับการเปิดเผยข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐที่เผยแพร่ไว้

ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ช. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เห็นชอบให้หน่วยงานภายในสังกัดสำนักงาน ป.ป.ช. จำนวน 121 หน่วยงาน เข้าร่วมการประเมิน ITA ในรอบปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อเป็นการเปิดรับฟังข้อมูลจากประชาชนที่เคยติดต่อราชการ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงาน ได้สะท้อนมุมมองที่ได้รับจากการติดต่อราชการกับหน่วยงานภายในสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แก่ กลุ่มภารกิจหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อเลขาธิการฯ, กลุ่มภารกิจป้องกันการทุจริต, กลุ่มภารกิจตรวจสอบทรัพย์สิน, กลุ่มภารกิจไต่สวนการทุจริต, กลุ่มภารกิจอำนวยการยุติธรรม, กลุ่มภารกิจสนับสนุน และกลุ่มภารกิจปฏิบัติการในพื้นที่

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวสรุปว่า สำนักงาน ป.ป.ช. เล็งเห็นว่า การประเมิน ITA หน่วยงานภายในสำนักงาน ป.ป.ช. ทุกหน่วยงานในครั้งนี้ จะเป็นกระจกสะท้อนการปฏิบัติงานที่สำคัญ เพื่อนำความเห็นที่ได้ไปสู่การปรับปรุงพัฒนาองค์กรให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนยิ่งขึ้น และขอเชิญชวนภาคประชาชนทุกท่าน ที่ติดต่อราชการกับสำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส่ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ให้กับหน่วยงานภายในสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ที่ https://itas.nacc.go.th/  ได้ตั้งแต่บัดนี้ – 31 กรกฎาคม 2566

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทนาย 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องกราวรูด ชุดทำคดีเว็บพนัน ไม่ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.

นายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ ทนายความของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางมายื่นฟ้องผู้มีคำสั่งแต่งตั้ง และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีเว็บพนัน BNk Master ของ สน.เตาปูน รวม 30 นาย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฟัน 'นครบาล' บี้ สน.เตาปูน ยุติสอบ โอนคดีไป ปปช.

ทนาย 'บิ๊กโจ๊ก' บุก สน.เตาปูน พบพนักงานสอบสวน ให้ยุติสอบคดีเว็บพนันบีเอ็นเค รวบรวมสำนวนส่ง ป.ป.ช. โวยทำไมยังออกหมายเรียก 'รอง ผบ.ตร.' จ่อฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฟันยกชุด

เปิดหนังสือ 'บิ๊กโจ๊ก' ส่งถึง 'รอง ผบช.น.' ชี้ไม่มีอำนาจ ให้ยุติการสืบสวนสอบสวน

“บิ๊กโจ๊ก” ส่งหนังสือถึง "พล.ต.ต.ทินกร" ให้ ยุติการสืบสวนสอบสวน ชี้ดำเนินคดีอาญาซ้ำ ไม่มีอำนาจสอบสวน ขัดต่อมติ ป.ป.ช.

ป.ป.ช. พร้อมฟัน 3 เจ้าหน้าที่ช่วยตกแต่งบัญชีทรัพย์สิน 'บิ๊กตำรวจ' รับเงินเว็บพนัน

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวกรณีพนักงานสอบสวนได้รับคำกล่าวโทษว่ามีนายตำรวจยศสูงได้รับเงินจากบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์