31 ส.ค.2566 - นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ขับเคลื่อนกิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ภายใต้โครงการการส่งเสริม และพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของอาหารไทย อาหารท้องถิ่น ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตคนไทย เป็นการรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูล สารสนเทศ รวมทั้งสาระความรู้เกี่ยวข้อง ทั้งเป็นการต่อยอดสมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณทางเลือกใช้บรรเทาอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น ให้คงอยู่และส่งต่อเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่มีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น นำมาสร้างคุณค่าและมูลค่า รณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยได้ตระหนักเกิดความภาคภูมิใจกระตุ้นให้เกิดการยกระดับอาหารไทยพื้นถิ่น สู่อาหารจานเด็ดที่ต้องชิม ผลักดันให้เป็นเมนูซอฟพาวเวอร์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้หนุนเศรษฐกิจของท้องถิ่นและประเทศให้ยั่งยืนสืบไป
นายโกวิท กล่าวต่อว่า จากการประชุมผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการเพื่อพิจารณาคัดเลือกิจกรรม “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” ที่ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิผู้เชี่ยวชาญจากหลายด้าน อาทิ ด้านมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ด้านวิจัภูมิปัญญาและการพัฒนาชุมชน ด้านอาหารและโภชนาการ ด้านการสร้างโมเดลธุรกิจและการเติบโตการตลาดดิจิทัล ด้านเชฟชุมชนอาหารไทยและอาหารพื้นเมือง ได้ร่วมกันพิจารณาคัดเลือกเมนูอาหารที่นายกเหล่ากาชาดจังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัดและสำนักงานวัฒนธรรมทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งกรุงเทพมหานคร นำเสนอมาจังหวัดละ 3 เมนู รวม 231 รายการ เพื่อให้กรรมการได้พิจารณาคัดเลือกให้เป็นเมนูตัวแทนจังหวัด รวม 77 เมนู
เมนูอาหาร 77 เมนู ที่ผ่านการคัดเลือกนี้ นายโกวิท กล่าวว่า ถือเป็นเมนูที่เปี่ยมไปด้วยภูมิปัญญาด้านอาหาร มีสรรพคุณในทางยาสมุนไพร มีส่วนผสมหรือเครื่องปรุงที่ถูกหลักโภชนาการ ให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นมรดกที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ทั้งยังเป็นอาหารที่มีความเสี่ยงใกล้จะสูญหาย ด้วยขั้นตอนกรรมวิธีการทำที่ยุ่งยากซับซ้อน อาจจะไม่เหมาะสำหรับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบัน จึงเป็นเมนูอาหารที่ทรงคุณค่าต่อการอนุรักษ์สืบสาน และส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดให้ได้รับความนิยมต่อไป
สำหรับเมนูอาหารที่ได้รับการคัดเลือกเป็น “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” อาทิ ข้าวตอกตั้ง-กรุงเทพมหานคร แกงมัสมั่นกล้วยไข่-กำแพงเพชร ยำไกน้ำของ(สาหร่ายแม่น้ำโขง)-เชียงราย ตำจิ๊นแห้ง-เชียงใหม่ เมี่ยงจอมพล-ตาก แกงแคไก่เมือง-น่าน หลนปลาส้มพะเยา-พะเยา น้ำพริกเม็ดบัวปลาย่าง-พิษณุโลก ปิ้งไก่ข้าวเบือ-เพชรบูรณ์ น้ำพริกน้ำย้อย-แพร่ แกงฮังแลลำไย-ลำพูน ข้าวเปิ๊บสุโขทัย-สุโขทัย อั่วบักเผ็ด-อุตรดิตถ์ ปลาแดกบองสมุนไพร-ขอนแก่น คั่วเนื้อคั่วปลา-ชัยภูมิ เมี่ยงตาสวด-นครพนม เมี่ยงคำ(โคราช)-นครราชสีมา หมกหม้อปลาน้ำโขง-บึงกาฬ ขนมตดหมา-บุรีรัมย์ แจ่วฮ้อนท่าขอนยาง-มหาสารคาม ตำเมี่ยงตะไคร้ ลำข่าสดใส่มดแดง-มุกดาหาร อั่วกบ(กบยัดไส้)-ยโสธร ข้าวปุ้นน้ำยาปลาหลด-ร้อยเอ็ด ส้าปลาน้ำโขง-เลย ละแวกะตาม-ศรีสะเกษ แกงหวาย-สกลนคร เบาะโดง(น้ำพริกมะพร้าวโบราณ)-สุรินทร์ ลาบหมาน้อย-อุบลราชธานี ข้าวตอกน้ำกะทิทุเรียนนนท์-นนทบุรี เมี่ยงคำบัวหลวง-ปทุมธานี แกงคั่วส้มหน่อธูปฤาษีกับปลาช่อนย่าง-ประจวบคีรีขันธ์ แกงเหงาหงอด-พระนครศรีอยุธยา แกงรัญจวน-สมุทรสงคราม แกงบวน-สิงห์บุรี ปลาหมำสมุนไพรทอดกรอบ-สุพรรณบุรี ต้มส้มปลาแรด-อุทัยธานี ลุกกะทิชองหรือน้ำพริกชองพร้อมผักเคียง-จันทบุรี หมูหงส์-ฉะเชิงเทรา ปลาคก-ชลบุรี แกงเลียงกระแท่งหอยนางรม-ตราด แกงส้มผักกระชับ-ระยอง น้ำพริกกะสัง-สระแก้ว ปลากจุกเครื่อง-กระบี่ โกยุก-ตรัง ขนมปะดา-นครศรีธรรมราช อาเกาะ-นราธิวาส อาจาดหู-พังงา น้ำชุบเมืองหลาง 9 อย่าง-ภูเก็ต ก๊กซิมบี้-ระนอง ข้าวยำโจร(ข้าวยำคลุกสมุนไพร)-ยะลา ข้าวเหนียวเหลืองแกงแพะ-สตูล แกงขมิ้นไตปลาโบราณ-สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
หลังจากได้77 เมนูอาหารถิ่นที่ผ่านการคัดสรรแล้ว กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจะดำเนินการรวบรวมองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดพิมพ์หนังสือ “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชู อาหารถิ่น” เผยแพร่ต่อสาธารณะ และจัดทำโล่รางวัลเพื่อมอบให้แก่จังหวัด และ จัดทำเกียรติบัตร มอบให้แก่ผู้เสนอรายการ จากทุกจังหวัดที่เข้าร่วมกิจกรรม และจะมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสรุปบทเรียนการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระหว่างวันที่ 20 - 22 กันยายน 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยจะมีการจัดงานประกาศยกย่อง “1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น” สร้างการรับรู้ให้สังคมไทย ในวันที่ 21 กันยายน 2566 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจ เครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดต่าง ๆ สามารถตรวจสอบประกาศรายชื่อ เมนูอาหารทั้งหมด ได้ทาง www.culture.go.th และ เฟสบุ๊กกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เฮ!‘สงกรานต์’มรดกโลก วธ.ชวนคนไทยฉลองใหญ่
คนไทยเฮ! ยูเนสโกขึ้นทะเบียน “สงกรานต์” มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
ชมดนตรีแจ๊สเทิดพระเกียรติในหลวง ร.9
เพื่อน้อมรำลึกและดื่มด่ำบทเพลงพระราชนิพนธ์ พระอัจฉริยภาพด้านดนตรีแจ๊สของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 5 ธันวาคม 2566 กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
สัมผัส'คลองบางหลวง' ตลาดบกสานวัฒนธรรม
ชุมชนคลองบางหลวงยังคงเป็นชุมชมดั้งเดิมที่รักษาเอกลักษณ์วิถีชุมชนเห็นได้จากเรือนแถวไม้ค้าขายของสองฟากฝั่งถนนและเรือนแถวไม้จำหน่ายสินค้าต่าง ๆ แก่ผู้ที่มาท่องเที่ยวชื่นชมบรรยากาศริมคลอง ตั้ง
น้อมรำลึกอัครศิลปิน นวมินทรมหาราช
12 ต.ค.2566 - นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม “สานสัมพันธ์เครือข่าย น้อมรำลึกอัครศิลปิน นวมินทรมหาราช” เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 256
งานรำลึก ‘ถวัลย์ ดัชนี’ ที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ถือเป็นปูชนียบุคคลที่มีความสำคัญต่อวงการจิตรกรรมของไทย สร้างสรรค์ผลงานอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนเป็นที่รู้จักและยอมรับทั่วโลก ศิลปินล้านนาผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ศิลปะไว้มากมาย ด้วยการอุทิศตน มุ่งมั่น เสียสละ ถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ รวมถึงชี้แนะแนวทางให้แก่เด็ก เยาวชน ครู อาจารย์ ศิลปินรุ่นใหม่ และผู้ที่สนใจในงานศิลปะตลอดช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่