จากเคมีสู่เกษตรอินทรีย์ WALHI องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซีย เผยกรณีศึกษาโรงเรียนสอนปลูกกาแฟภาคสนาม (Coffee Field School) กับการทำเกษตรอินทรีย์ที่ช่วยพลิกฟื้นวิถีชีวิตเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ อย่างยั่งยืนในการปรับปรุงคุณภาพดินและดูแลสิ่งแวดล้อม ช่วยลดรายจ่ายจากการงดใช้ปุ๋ยเคมี เพิ่มรายได้จากการจำหน่ายกาแฟออร์แกนิคที่ผู้บริโภคถวิลหา
ความดื่มด่ำในรสชาติของกาแฟในอาเซียนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ตลาดกาแฟพร้อมดื่มจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ความหลงไหลในกาแฟสดก็ยังคงเป็นวัฒนธรรมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกันที่ผ่านมาตลาดกาแฟของไทยและในตลาดโลก ยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการเติบโตดังกล่าวไม่ได้สะท้อนว่า คุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจะดีขึ้น
สำหรับภูมิภาคอาเซียนนั้น กาแฟเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจท้องถิ่น ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็นวิถีชีวิตของเกษตรกร กลิ่นหอมของการคั่วเมล็ดกาแฟ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์ของเกษตรกร ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา กาแฟออร์แกนิค ผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์ เป็นหนึ่งในแนวทางยกระดับภาพลักษณ์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในอาเซียน รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากกาแฟออร์แกนิค สามารถจำหน่ายในราคาที่สูงกว่ากาแฟทั่วไปหลายเท่าตัว ส่งผลให้กาแฟออร์แกนิคเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น
การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ของผู้ปลูกกาแฟในอินโดนีเซีย
“คาซิโม” เป็นหนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟจำนวนมากที่เมืองนากิริ ลูเบ็ก กาเดง (Nagari Lubuk Gadang) ในเกาะสุมาตราตะวันตก ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟโซลก (Solok) ที่ขึ้นชื่อของอินโดนีเซีย ที่ผ่านมาพวกเขาทำการเกษตรแบบพึ่งพาสารเคมี และยาฆ่าแมลง จึงมีภาระรายจ่ายและต้นทุนการเกษตรที่สูง ประกอบกับในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ราคาเมล็ดกาแฟตกต่ำเหลือเพียง 9.09 บาทต่อกิโลกรัม เกษตรกรต้องประสบปัญหาค่าครองชีพอย่างรุนแรง
คาซิโมและเกษตรกร 24 คนตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ “Kopi Rakyat” หรือกาแฟประชาชน โดยร่วมกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมของอินโดนีเซียที่ชื่อ WALHI (Wahana Lingkungan Hidup Indonesia) เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟให้ดีขึ้น
WALHI พัฒนาเกษตรอินทรีย์ให้ผู้ปลูกกาแฟ
แวงกี เพอวันโต้ (Wengki Purwanto) กรรมการบริหารของ WALHI สุมาตราตระวันตก กล่าวว่า WALHI ได้เปิดโรงเรียนสอนปลูกกาแฟภาคสนาม (Coffee Field School) ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ด้านอาหารอย่างยั่งยืนในเมืองลูเบ็กกาเดงเมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการปรับปรุงสภาพของดินและพื้นที่เพาะปลูกผ่านการแก้ไขปัญหาด้วยนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ เช่น การเพาะเมล็ดพันธุ์กาแฟ การทำปุ๋ยอินทรีย์ การควบคุมแมลงศัตรูพืช และสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด โดยโรงเรียนสอนปลูกกาแฟนี้ได้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในเมืองโซลก และเพิ่มองค์ความรู้ในการปรับปรุงสภาพดินและพื้นที่เพาะปลูก ให้เกษตรกรตามแนวทางของเกษตรอินทรีย์
โครงการโรงเรียนสอนปลูกกาแฟของ WALHI ให้ความสำคัญกับการทำเกษตรอินทรีย์ มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีต้นทุนต่ำกว่าปุ๋ยเคมี แต่ ให้คุณค่าที่ดีกว่าในสองประการ คือ ทำให้สุขภาพ และชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนดีขึ้น ควบคู่กับการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพราะปุ๋ยอินทรีย์สามารถอุ้มน้ำได้ดีกว่าถึง 5 เท่า จึงช่วยฟื้นฟูพื้นที่เพาะปลูกที่แห้งแล้ง ปรับปรุงความสมบูรณ์ของดิน ช่วยการดูดซึมสารอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และรับประกันความยั่งยืนทางการเกษตร ซึ่ง ตรงกันข้ามกับปุ๋ยเคมีที่ทำให้ดินเสื่อมโทรม
คาซิโม กล่าวว่า การปลูกกาแฟแบบเกษตรอินทรีย์ ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ส่งผลให้คุณภาพกาแฟดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตลาดมีความต้องการเพิ่มขึ้น และยังช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แม้จะยังไม่ได้รับรางวัลระดับ prestigious label ใดๆ แต่ คาซิโม มั่นใจว่าทุกสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เพราะปัจจุบัน Kopi Rakyat ได้รับการประเมินคุณภาพในระดับ 80 คะแนน และได้รับการยกย่องให้เป็นกาแฟออร์แกนิคระดับพรีเมี่ยมของโซลกอย่างภาคภูมิใจ
“การทำเกษตรอินทรีย์ เพาะปลูกกาแฟแบบเกษตรอินทรีย์ ไม่เพียงแต่ทำให้เรามีผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาผืนดิน รักษาสิ่งแวดล้อม และต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เรามุ่งมั่นที่จะรักษาการเติบโตและดึงดูดการเงินทุน ภายใต้แนวคิด จากฟาร์มสู่ตลาด เรามุ่งมั่นแสวงหาการลงทุนในด้านอุปกรณ์ เพื่อยกระดับคุณภาพของกาแฟให้ดีขึ้น เพื่อให้กาแฟของเราได้รับการยอมรับ เป็นที่รู้จักทั้งในระดับประเทศและระดับโลก” คาซิโม กล่าว
WALHI ไม่เพียงแต่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำเกษตรอินทรีย์แก่เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้เกี่ยวกับความซับซ้อนของการเพาะปลูกและการแปรรูปกาแฟ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจ การตลาด การค้า และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาแฟ ทำให้ เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น
แวงกี เพอวันโต้ กล่าวว่า WALHI มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม ผ่านแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืน ควบคู่กับการจ่ายค่าตอบแทนที่เป็นธรรมกับผู้เพาะปลูก เพื่อให้แน่ใจว่ากาแฟทุกแก้วจะบอกเล่าเรื่องราว คุณค่า วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ความเสมอภาค แหล่งกำเนิด และสิ่งแวดล้อมได้อย่างครบถ้วน
________
เกี่ยวกับ WALHI
WALHI (Wahana Lingkungan Hidup Indonesia) เป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซีย ประกอบด้วยสมาชิก 487 องค์กรจากองค์กรพัฒนาเอกชนและองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติ พร้อมด้วยสมาชิก 203 รายที่กระจายอยู่ใน 28 เมืองของอินโดนีเซีย นับตั้งแต่ปี 2523 WALHI ได้ขับเคลื่อนการปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในอินโดนีเซีย มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการยอมรับสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม การคุ้มครองสิทธิเหล่านี้ และการปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชน ซึ่งสะท้อนถึงความรับผิดชอบของรัฐในการปกป้องทรัพยากรที่จำเป็น
WALHI ตระหนักถึงความท้าทายที่เพิ่มขึ้น ในการสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม และ ความท้าทายจากอิทธิพลของระบบทุนนิยม การเมือง อุตสาหกรรม และเศรษฐกิจโลก รวมถึงผลกระทบของการสะสมทุนที่มีต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงทรัพยากรที่สำคัญ ที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม ความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของสังคม เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้และส่งเสริมความยุติธรรมทางเศรษฐกิจ สังคม และระบบนิเวศสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต การเคลื่อนไหวทางสังคมที่เข้มแข็งเป็นสิ่งสำคัญ และ WALHI มีบทบาทสำคัญในความพยายามนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ปันหยี I Sea You' ปังข้ามประเทศ เข้าฉายเทศกาลหนังที่อินโดนีเซีย
"ปันหยี I Sea You" ภาพยนตร์ไทยคุณภาพเยี่ยมที่ถ่ายทอดวิถีชีวิตและจิตวิญญาณอันงดงามของชาวประมงมุสลิมบน เกาะปันหยี หมู่บ้านลอยน้ำกลางอุทยานแห่งชาติพังงา ก้าวสู่เวทีระดับนานาชาติ โดยล่าสุดได้รับการคัดเลือกอย่างเป็นทางการให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ Madani International Film Festival 2025 ที่เมื่อวันที่ 11-14 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย
'ก้อง'คว้า3แต้มสำคัญ ที่อินโดนีเซีย 'มาร์ค'โชคร้ายโดนชนเจ็บหนัก
“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยหมายเลข 35 สร้างผลงานในศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 18 รายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ หลังออกตัวจากกริดที่ 19 ทะยานเข้าป้ายอันดับ 13 เดินหน้าเก็บแต้มต่อเนื่องโดยคว้าเพิ่ม 3 แต้ม ขณะ “ลูก้า มารินี” นักบิดทีมโรงงานฮอนด้าบู๊คว้าอันดับ 5 จากเรซสุดหินที่ เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา
'สดมภ์-ภูมิ'จี้กลุ่มนำสโตรคเดียว ลุ้นแชมป์'อินเตอร์ฯซีรีส์'ที่อินโดฯ
สดมภ์ แก้วกาญจนา และ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ ทำสกอร์รวมสามวันเท่ากันที่คนละ 10 อันเดอร์พาร์ 200 รั้งอันดับ 4 ร่วม ในการแข่งขันกอล์ฟรายการ “จาการ์ต้า อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ” ที่สนามดาไม อินดาห์ กอล์ฟ พาร์ 70 ในกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา มีโอกาสลุ้นแชมป์โดยมีสกอร์ตามหลังสามผู้นำร่วมเพียงสโตรคเดียว
'ก้อง'ยังมุ่งมั่น'โมโตจีพี' พร้อมลุยต่อที่อินโดฯ หวังซิวแต้มสนามแห่งความทรงจำ
"ก้อง" สมเกียรติ จันทรา หมายเลข 35 สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ตั้งใจมุ่งมั่น พร้อมลุยศึก โมโตจีพี 2025 สนาม 18 อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ สุดสัปดาห์นี้ หวังเก็บแต้มที่ เปอร์ตามิน่า มันดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศอินโดนีเซีย สนามที่เคยคว้าชัยชนะมาครองในรุ่น โมโตทู
ทัพโปรหนุ่มไทยพร้อม ลุยศึก'อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์' ที่อินโดนีเซียสัปดาห์นี้
เอเชียน ทัวร์ จัดการแข่งขันอินเตอร์เนชันแนล ซีรีส์ รายการที่ 5 จาก 10 รายการของอินเตอร์เนชั่นเนล ซีรีส์ 2025 ศึก “จาการ์ต้า อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ” ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 64 ล้านบาท ที่สนามดาไม อินดาห์ กอล์ฟ ระยะ 7,124 หลา พาร์ 71 ในกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีนักกอล์ฟลงชิงชัยทั้งสิ้น 150 คน เป็นนักกอล์ฟชาวไทย 28 คน นำโดย รฐนน วรรณศรีจันทร์ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ที่ไต้หวัน เมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่แชมป์จะได้รับเงินรางวัล 360,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 12 ล้านบาท เปิดฉากดวลวงสวิงรอบแรกวันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคมนี้
'ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์' จัดทัพใหญ่นำโดย'ชิพ-นครินทร์' ลุย'2ล้อเอเชีย2025'ที่อินโดฯ
“ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ลงแข่งขันในนามทีมแข่งไทย 100 เปอร์เซ็นต์ นำทัพโดย “ชิพ-นครินทร์” ควบรถแข่ง Honda CBR - Series เพื่อพัฒนาศักยภาพนักบิดและการทำงานของทีมแข่งไทย ควบคู่ไปกับการมอบโอกาสและสนับสนุนดาวรุ่งนักบิดของไทยในการพัฒนาสู่การเป็นนักบิดอาชีพระดับโลก สร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยในอนาคต พร้อมเดินหน้าทำผลงานต่อเนื่องในการแข่งขันรายการ Idemitsu FIM Asia Road Racing Championship 2025 สนามที่ 4 สนามเปอร์ตามิน่า มัลดาลิกา อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ประเทศอินโดนิเซีย


