
นายซาการียา สะอิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวอภิปรายงบประมาณ ของกระทรวง อว. ซึ่งประกอบไปด้วย 5 นโยบายด้วยกัน คือเรียนดีมีความสุข มีรายได้ ซึ่งใช้งบประมาณประมาณ 5,500 ล้านบาท ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้การเรียนมีความยืดหยุ่น สามารถที่จะเรียนและทำงานควบคู่กันได้ ซึ่งจะตอบโจทย์การเรียนการศึกษาในปัจจุบัน
นโยบายที่ 2 คือ วิจัยนวัตกรรมดี ตอบโจทย์ความต้องการ ใช้เงินประมาณ 19,000 ล้านบาท ซึ่งถ้ามีการส่งเสริมงานวิจัยอย่างถูกจุด เชื่อว่าสามารถที่จะผลักดันให้ชาวบ้านสามารถลืมตาอ้าปากได้
นโยบายที่ 3 คือ สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีงบประมาณประมาณ 1,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบเพื่อที่จะส่งเสริมการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อสร้างองค์ความรู้และเทคโนโลยี และนวัตกรรมขั้นแนวหน้า และกระตุ้นให้สังคมไทยเห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อการพัฒนาประเทศ
นโยบายที่ 4 คือ ชุมชนผู้ประกอบการและประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นการกระจายรายได้ กระจายความเจริญโดยใช้เงินเพียง 778 ล้านบาท และ
นโยบายสุดท้าย คือ ประเทศไทยเติบโตด้วยแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มุ่งเน้นคุณค่าในการสร้างความยั่งยืน คือใช้ Soft Power เพื่อสร้างรายได้และสร้างมูลค่าเพิ่ม
.
นายซาการียา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวง อว. ทำงานหลายอย่าง โดยประเด็นหลัก คือ 1) เปิดให้นักศึกษาสามารถลงทะเบียนข้ามสถาบันได้ 2) ธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการศึกษาทำงานควบคู่กับการเรียน ได้ใช้ประสบการณ์แปลงเป็นหน่วยกิตได้ 3) การให้ทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาแก่ภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชน โดยเฉพาะ SME และ startup สามารถที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมของตัวเองได้ และอีกหนึ่งโครงการ ซึ่งเป็นโครงการที่ดีมาก คือโครงการห่วงโซ่การผลิตปูทะเลในภาคใต้ จากมอ. ปัตตานี นี่ถือเป็นไฮไลท์ แม้ว่าโครงการจะใช้เวลาหลายปีแต่สามารถที่จะสร้างผู้ประกอบการมากกว่า 40 คน และคาดว่าจะสามารถทำรายได้มากกว่า 500 ล้านบาท
.
นอกจากนี้ นายซาการียา ได้เสนอแนะเพิ่มเติมคือ เรื่องเรียนดีมีความสุข มีรายได้ การกระจายงบด้านการพัฒนาให้แก่คนในมหาวิทยาลัยในภูมิภาคต่างๆ โดยให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่มีศักยภาพสูงในพื้นที่ เพื่อให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาคนในพื้นที่ พัฒนาตนเอง และอนาคต, วิจัย นวัตกรรมดีตอบโจทย์ความต้องการ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของมหาวิทยาลัยภูมิภาคให้รองรับกับมหาวิทยาลัยระดับสากล สำหรับการพัฒนาพื้นที่ต้องใช้องคาพยพของ อว. เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ดังนั้น จึงขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต เป็นสไตล์ส่วนตัวไม่ชอบตอบโต้ ขอเอาเรื่องอธิปไตยให้จบก่อน
"อนุทิน" แจงเหตุไม่ร่วมดีเบต ภารกิจแน่น มองเรื่องความมั่นคงสำคัญกว่า เอาเรื่องอธิปไตยก่อน ยอมรับพูดไม่เก่ง ไม่ชอบตอบโต้ พยายามหลีกเลี่ยงทะเลาะกัน เผยจุดอ่อนให้พูด 3 ชั่วโมง ทำได้ แต่ให้พูด 2 นาที ทำไม่ได้
'เท้ง' โวย 'อนุทิน' สร้างวาทกรรม ปชน. แก้ ม.112 ทั้งที่พูดเรื่องนิรโทษกรรมคดีหมิ่นสถาบัน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ต้องบอกว่าการยกมือในวันนั้น ไม่ใช่การเห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 112 แต่เป็นการผลักดันเรื่องนิรโทษกรรมของนักโทษที่โดนคดีทางการเมือง
โฆษกรัฐบาล ยัน 'ศุภจี' ไม่ขาดคุณสมบัติ ไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่ทำหนังสือแจ้งเหตุแล้ว
"สิริพงศ์" ระบุ "ศุภจี" มีเหตุไม่ไปเลือกตั้งท้องถิ่นจริง แต่แจ้งเหตุแล้ว ยันไม่ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งการเมือง วอนอย่าสร้างความสับสน ให้คนทำงานเสียกำลังใจ
'เท้ง' ลั่นเลือกตั้งครั้งนี้ แข่งกันจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคประชาชนกับภูมิใจไทย
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ในเมื่อคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชน
’อนุทิน‘ ชัด ไม่ร่วมรัฐบาลพรรคประชาชน ปมยังเดินหน้าแก้ ม.112
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุจุดยืนชัด ไม่จับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่ยังมีนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หลังดีเบตไทยรัฐทีวี ย้ำต่างอุดมการณ์ แต่ยังทำงานร่วมกันได้ หากเป็นเรื่องแก้ปัญหาประชาชน
'อนุทิน' เผย 'สีหศักดิ์' ตอบรับแคนดิเดตนายกฯ เหมาะสมสถานการณ์ชายแดน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงเหตุผลที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยลำดับที่สอง

