
DAD ทุ่ม 449 ล้านบาท ปูพรมปลูกต้นไม้และพัฒนาพื้นที่กว่า 40 ไร่ จัดสวน 5 แห่ง ในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ยกระดับขึ้นเมืองสีเขียว แหล่งโอโซนแห่งใหม่ย่านถนนแจ้งวัฒนะ - หลักสี่ คาด Q4 แล้วเสร็จ และเติบโตสวยงามภายในปี 2569
ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) หรือ DAD Asset Development เปิดเผยว่า ได้เริ่มดำเนินการปรับภูมิทัศน์ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวอีก 40.9 ไร่ โดยพัฒนาเป็นสวนสวย 5 แห่งในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โดยปี 2567 ทยอยลงต้นไม้ให้แล้วเสร็จ จากนั้นจะดูแลรักษาเพื่อให้เติบโตและสวยงามภายในปลายปี 2569 ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 449 ล้านบาท
เริ่มกันที่อาคารจอดรถ D ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ อาคารนี้มีสวน 3 แห่ง รวมพื้นที่ 5.4 ไร่ ได้แก่ สวนลอยฟ้าบริเวณดาดฟ้าของอาคาร ขนาดพื้นที่กว่า 2,789 ตารางเมตร พัฒนาเป็นสวน Urban Farming หรือฟาร์มเกษตรสำหรับคนเมือง และสวนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถอาคาร A ซึ่งจะเชื่อมต่อบริเวณชั้น 2 ของอาคารจอดรถ สวนนี้จะมีขนาดพื้นที่ 5,872 ตารางเมตร พัฒนาเป็นสวนรูปแบบ Welcoming Garden พร้อมลานกิจกรรม เปรียบเสมือนสวนหน้าบ้านที่คอยต้อนรับผู้ที่จะเข้ามาภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เพราะนอกจากเป็นสวนลอยฟ้า ยังเป็นต้นทางของทางเดิน Skywalk ระยะทาง 205 เมตร ที่จะมุ่งไปสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ส่วนบริเวณชั้น 1 ด้านหน้าอาคารจอดรถ D ยังตกแต่งเป็นสวนสาธารณะขนาดพื้นที่ 1,701 ตารางเมตร
พื้นที่สีเขียวแห่งที่สอง “สวนหลังศาล” ตรงแยกพระพรหม พื้นที่ประมาณ 5.7 ไร่ โอบรอบอาคารศูนย์ประชุมทรงกลม เป็นพื้นที่สีเขียวที่ใช้เป็นสวนสาธารณะเปิดบริการให้แก่ประชาชนทั่วไป สามารถเข้ามาใช้เป็นสถานที่พักผ่อน หรือออกกำลังกาย และสวนแห่งนี้ยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น กิจกรรมประกวดภาพถ่ายภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กิจกรรมงานวันลอยกระทง และงาน Garden Food Truck เป็นต้น ซึ่งนอกจากเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวแล้วยังเป็นการส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดีให้แก่ชุมชน ตามแนวคิด Healthy City โดย DAD ได้ดำเนินการปรับปรุงเทวาลัย (ซุ้มพระพรหม) องคทาวมหาพรหม ฐานองคพระพิฆเนศ และฐานองคพระแมธรณี เปิดให้ข้าราชการ พนักงาน ผู้ปฏิบัติงานภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ฯ แจ้งวัฒนะ และชุมชนโดยรอบได้เข้ามาสักการะขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย

พื้นที่สีเขียวแห่งที่สาม บริเวณเกาะกลางถนนตั้งแต่ซอยแจ้งวัฒนะ 7 ถึง อาคารรัฐประศาสนภักดี เป็นพื้นที่แนวยาว รวมประมาณ 12.05 ไร่ โดย DAD เตรียมดำเนินการปลูกต้นไม้ใหญ่เรียงยาวเป็นทิวแถวกว่า 1,200 ต้น เพื่อเป็นร่มเงา ช่วยลดมลภาวะ อีกทั้งสีเขียวสลับสีเหลืองของดอกราชพฤกษ์ ช่วยให้สบายตาอีกด้วย
ซึ่งถนนเส้นนี้ DAD มีเป้าหมายยกระดับให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่บนถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อมองจากจุดชมวิวเหนืออาคาร C
พื้นที่สีเขียวแห่งที่สี่ คือด้านหน้าอาคารรัฐประศาสนภักดี ขนาดพื้นที่ 12.65 ไร่ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับสวนหลังศาลพระพรหม โดยเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะกลายเป็นสวนสาธารณะ ที่จะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนหย่อนใจ อยู่บริเวณประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออกของอาคารรัฐประศาสนภักดี สามารถมองเห็นอาคาร C ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ อีกด้วย และพื้นทีสีเขียวแห่งที่ 5 แห่งสุดท้าย จะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่างอาคาร B กับอาคาร C ขนาดพื้นที่ 5.1 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุง โดย DAD ได้ก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยของคนเดิน ลดความแออัดของการจราจร และพัฒนาให้พื้นที่ด้านบนเป็นสวนสวยให้ผู้คนที่เข้ามาติดต่อหรือทำงานในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ใช้พักผ่อนและช่วยลดแสงสะท้อนสายตาได้อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝุ่น PM2.5 สีส้ม มากกว่า 35 เขต กทม. ขอความร่วมมือทำงานที่บ้าน WFH
เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความว่า กทม. ขอความร่วมมือทำงานที่บ้าน WFH วันที่ 4 ธันวาคม 2568 ค่าฝุ่น PM2.5 สีส้ม มากกว่า 35 เขต
27 จังหวัด คลุกฝุ่นPM2.5 'กทม.' อ่วมสุด! ส่อพุ่งอีก
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 1 ธันวาคม 2568 ณ 07:00 น. สรุปดังนี้
กทม. ประกาศเตือน 'โรคพิษสุนัขบ้า' ระบาดเขตลาดกระบัง
กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ประกาศเตือน โปรดเฝ้าระวัง เนื่องจากพบสัตว์ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ลุ้นระทึก! ศาลปกครองสูงสุดอ่านคำสั่งมหากาพย์คดีก่อสร้างตึกสูงซอยร่วมฤดี
ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 2306/2564
คุณภาพอากาศ กทม. อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ค่าฝุ่นมีแนวโน้มลดลง
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร ขอรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในกรุงเทพมหานคร ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 07:00 น.
NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ กสทช. เปิดบริการ ‘สายด่วน 1818’
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดให้บริการ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน “1818” เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน


