มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ เดินทางไปยังอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่เพื่อสาธิตวิธีการใช้เครื่องต้นแบบ Torrefactor และ Pyrolyzer นำทีมโดย ศาสตราจารย์ ดร.นคร ทิพยาวงศ์ อาจารย์สังกัดภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสำหรับทดลองใช้เป็นระยะเวลา 15 วันโดยประมาณให้คนในชุมชนสามารถเรียนรู้การใช้เครื่อง เพื่อลดปัญหาการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567
การดำเนินงานภายใต้การมีส่วนร่วมของชุมชนมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการลงพื้นที่จริงเพื่อถ่ายทอดความรู้ พร้อมสาธิตวิธีใช้ เครื่องต้นแบบ Torrefactor และ Pyrolyzer ให้กับทางองค์การบริหารส่วนตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยในครั้งนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ สถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ (ERDI CMU) โดยการนำซังข้าวโพดซึ่งเป็นชีวมวลที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดที่พบได้มากในพื้นที่อำเภอแม่แจ่มและอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้เกษตรกรมักจะเผาเศษเหลือทิ้งส่วนลำต้น และซังข้าวโพดหลังจากการเก็บเกี่ยวเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ
ทั้งนี้ เครื่องต้นแบบ Pyrolyzer เครื่องต้นแบบในการช่วยลดหมอกควันนี้เป็นนวัตกรรมที่พัฒนา และคิดค้นงานวิจัยจากสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ (ERDI) ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน ในการสร้างรถต้นแบบ Pyrolysis Mobile Unit ที่มีคุณสมบัติเป็นหน่วยรถเคลื่อนที่ผลิตถ่านชีวภาพ เป็นการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ไม้ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง มะพร้าว มาแปรสภาพเป็นผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงที่ให้ค่าความร้อนสูงขึ้นในรูปแบบถ่าน และน้ำมันชีวภาพ โดยไล่สารระเหย ควบคุมการให้อากาศ ระยะเวลาและอุณหภูมิให้คงที่ คงเหลือเฉพาะส่วนที่เป็นคาร์บอนหรือตัวถ่านคุณภาพดี ถือเป็นการพัฒนาชีวมวลเพื่อมาทดแทนถ่านหิน โดยน้ำมันชีวภาพที่ได้จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ น้ำส้มควันไม้ และน้ำมันดิน (Tar) ซึ่งถ่านและน้ำมันชีวภาพที่ได้จะสามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร ช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งช่วยลดปัญหาหมอกควันได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
จากการศึกษาวิจัยดังกล่าว นำสู่ห้องปฏิบัติการจริง ในพื้นที่บ้านนาฮ่อง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีชาวบ้านนำซังข้าวโพดมาแปรรูปเป็นถ่านอัดแท่ง ถือเป็นการกำจัดซังข้าวโพดถูกวิธี ไม่ได้เผาทิ้งแต่กลับมีคุณค่าขึ้นมา อีกทั้งเป็นการนำวิธีการรีไซเคิลมาประยุกต์ใช้ ทำให้สิ่งที่ไร้ค่ากลับมีมูลค่า และยังประโยชน์แก่ชาวบ้านในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ใช้เป็นถ่านหุงต้ม เป็นปุ๋ย หรือขายเพื่อสร้างรายได้ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มช. โทรศัพท์ 053-942007-9, 053-948195-8 เพื่อขอข้อมูลและคำปรึกษาด้านเทคโนโลยีรวมถึงสาธิตวิธีการแก่ผู้สนใจ เกษตรกร หรือองค์กรเอกชนที่ต้องการนำไปต่อยอดหรือลงทุนทางธุรกิจได้ตลอดเวลาทำการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่ม ปตท. และกลุ่มฯ โรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ส.อ.ท. พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศไทย ด้วยพลังงานสะอาด และคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 68
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า งานสัมมนา The Annual Petroleum Outlook Forum
กัลฟ์ จัดกิจกรรม “GULF Sparks Energy ชวนน้องท่องโลกพลังงาน” ปลูกฝังเรื่องพลังงานสะอาด และการแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
กลุ่มบริษัทกัลฟ์ จัดกิจกรรม “GULF Sparks Energy ชวนน้องท่องโลกพลังงาน” เพื่อเป็นการอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งที่มาของพลังงานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
‘พิชัย’ เร่งเครื่องเจรจาเอฟทีเอ อาเซียน-แคนาดา
‘พิชัย’ จับมือทูตแคนาดา เร่งเครื่องเจรจาเอฟทีเอ อาเซียน-แคนาดา พร้อมนัดถกรัฐมนตรีการค้าแคนาดาช่วงประชุมเอเปคที่เปรู ขยายโอกาสการค้าในตลาดอเมริกาเหนือ
GPSC แข็งแกร่งรับการสนับสนุนเงินกู้ระยะยาว จาก 3 แบงค์รัฐ-เอกชน มูลค่า 7 พัน ลบ. รุกพลังงานสะอาด ตอบโจทย์ Net Zero รองรับแผนพัฒนาพลังงานชาติ
GPSC ลงนามในสัญญาเงินกู้กับธนาคารทีเอ็มบีธนชาต ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย วงเงินรวม 7,000 ลบ. มุ่งธุรกิจพัฒนาพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างเสถียรภาพความมั่นคงด้านพลังงาน สอดรับกลยุทธ์องค์กรจากบทบาทในการ Decarbonization ให้กับกลุ่ม ปตท. เดินหน้ามุ่งสู่แผนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ไฮโดรเจนความหวังใหม่ของวงการพลังงานสะอาด
แม้อาจมองไม่เห็นได้ด้วยตา แต่มีอยู่จริงรอบตัวเรา และนี่คือความหวังใหม่ของพลังงานสะอาดในอนาคต ‘ไฮโดรเจน’ ธาตุที่มีอยู่มากที่สุดในจักรวาล และมีอย่างไม่จำกัด