ประสบผลสำเร็จ ! พิพัฒน์ เยือนเกาหลี เจรจา 5 เอกชนยักษ์ใหญ่อู่ต่อเรือ เพิ่มการจ้างแรงงาน ทันที 3 พันคน

วันที่ 13 มีนาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน ผู้แทนสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย และสมาคมการจัดหางานไทยไปต่างประเทศ หารือร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบกิจการอู่ต่อเรือภาคเอกชน เพิ่มการจ้างงาน 3,000 อัตรา พร้อมเตรียม MOU ฝึกทักษะแรงงานไทยส่งทำงานอู่ต่อเรือเกาหลีใต้ ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 31 โรงแรม LOTTE HOTEL SEOUL โดยมีนายบัญชา ยืนยงจงเจริญ อัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศ สาธารณรัฐเกาหลี
นายนิธิพัฒน์ วัฒนสุวกุล อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบกิจการอู่ต่อเรือจำนวน 5 บริษัท ซึ่งประกอบด้วย บริษัท HD Hyundai Heavy Industry บริษัท Hyundai Mipo Dockyard บริษัท Hyundai Samho บริษัท Samsung Heavy Industries และบริษัท Hanwha Ocean ที่ได้พบในวันนี้เป็นภาคเอกชนขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง และศักยภาพในการจ้างงานของสาธารณรัฐเกาหลีอย่างยิ่ง ซึ่งทั้งหมดชื่นชมแรงงานไทยว่าฝีมือดี และแจ้งว่ามีความต้องการจ้างแรงงานอย่างน้อย 3,000 อัตรา ในตำแหน่งช่างเชื่อม ช่างเครื่องกล และเครือบริษัทฮุนไดทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ บริษัท HD Hyundai Heavy Industry บริษัท Hyundai Mipo Dockyard บริษัท Hyundai Samho ยังต้องการให้เกิดการลงนามความร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน เพื่อรับแรงงานไทยทุกคนที่ผ่านการอบรมทักษะช่างเชื่อม จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานและการอบรมทักษะภาษาเกาหลี เพื่อทำงานในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ ณ สาธารณรัฐเกาหลี โดยฝ่ายไทยได้เสนอจัดส่งแรงงานทักษะในสาขาวิศกรรมอู่ต่อเรือ วิศกรรมสมุทรศาสตร์ วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์สื่อสาร ที่มีความพร้อมในเรื่องทักษะภาษาอังกฤษ และสามารถเรียนรู้ทักษะภาษาเกาหลีเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ยังได้รับฟังปัญหาและอุปสรรคในกระบวนการจัดส่งแรงงาน ซึ่งหลังจากชี้แจง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันแล้ว กลุ่มผู้ประกอบการเกาหลีรู้สึกมีความเชื่อมั่นในกระบวนการจัดส่งแรงงานมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ความต้องการจ้างแรงงานไทยที่เพิ่มขึ้นด้วย

ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลีในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มโอกาสการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ ตามนโยบายที่ท่านรัฐมนตรีฯ พิพัฒน์มอบไว้ให้กรมการจัดหางาน ซึ่งตลาดแรงงาน E-7 เป็นตลาดที่จะเติบโตขึ้น และดึงดูดแรงงานต่างชาติ สาขางานช่างจากหลายประเทศ เนื่องจากให้ค่าตอบแทนสูงและมีความต้องการแรงงานจำนวนมาก และเป็นตลาดเดียวของเกาหลีใต้ที่เปิดโอกาสให้มีบริษัทจัดหางานมาเป็นตัวกลางในการจัดส่ง โดยไม่จำเป็นต้องเป็นระบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งกรมการจัดหางานพร้อมให้การสนับสนุนและส่งเสริมให้คนไทยได้ไปทำงานในเกาหลีใต้มากขึ้น โดยจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามภารกิจการจัดส่งแรงงานไทย และทำงานร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในการพัฒนาฝึกอบรมฝีมือก่อนการเดินทาง เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดส่งแรงงานไทยวีซ่าทักษะฝีมือ (E- 7) ไปทำงานในอุตสาหกรรมต่อเรือตามความต้องการของเกาหลีใต้ต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โลกเดือด !!! “พิพัฒน์” ห่วงใย “ผู้ใช้แรงงาน” แนะ 6 ข้อ ช่วงอากาศร้อนจัด 40-43 องศา

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานวันความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสากล ประจำปี พ.ศ.2567 ภายใต้หัวข้อ

นายกฯ ร่วมผู้นำ 17 ประเทศ แถลงเรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "วันนี้ ผมร่วมกับผู้นำ 17 ประเทศที่มีตัวประกันที่ยังอยู่ในกาซา ออกถ้อยแถลงร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด

ผู้ใช้แรงงานเฮ! 1 พ.ค.2567 วันแรงงาน "พิพัฒน์" ย้ำชัดประกาศแน่ ทำเร็วขึ้น ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ทั่วประเทศ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันถึงการประกาศบิ๊กเซอร์ไพรส์ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ว่า

"พิพัฒน์" เตรียมเปิดบิ๊กเซอร์ไพรส์ มอบของขวัญวันแรงงาน ค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 400 บาท

วันที่ 22 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงาน กล่าวถึงของขวัญสำหรับผู้ใช้แรงงาน ในวันแรงงาน 1 พ.ค.2567 นี้ว่า

รถไฟ JR ญี่ปุ่น พบ ”พิพัฒน์” ขยายโอกาสแรงงานรุ่นใหม่ มีทักษะ พร้อมดันอาชีวะโกอินเตอร์ เข้าทำงาน

วันที่ 12 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน

ข่าวดี!! “พิพัฒน์” รมว.แรงงาน จัดให้บริการตรวจเช็คสภาพรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย ใส่ใจทุกเส้นทาง ก่อนเดินทางช่วงสงกรานต์ 2567

วันที่ 11 เมษายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 นี้ ตนมีความห่วงใยพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และพี่น้องประชาชนทั่วไปที่เดินทางกลับภูมิลำเนา รวมทั้งผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันนั้น