"เสมา1" มอบ สพฐ. ใช้ระบบไอทีทำใบ ปพ.5 ช่วยลดขั้นตอนเอกสารของครูผู้สอน ใบสำคัญด้านการศึกษา หวังก้าวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ ได้มีนโยบายลดภาระครู ซึ่งจะเร่งผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หลุดกรอบการทำเอกสารของครูผู้สอนแบบเดิม สู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบโดยเร็วที่สุดนั้น จากที่ได้รับเสียงสะท้อนในโลกออนไลน์ เรื่องภาระครูที่มีความซ้ำซ้อนอยู่มากในหลายเรื่องที่ยังคงแบบเดิมอย่างเห็นได้ชัดคือ การที่ครูต้องกรอกรายละเอียดด้วยลายมือใน ปพ.5 เป็นเอกสารที่ผู้สอนจัดทำขึ้น เพื่อใช้บันทึกผลการเรียนเป็นรายวิชา แสดงผลการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ข้อมูลการวัดและประเมินผลการเรียน เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบยืนยันสภาพการเรียน และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยจำนวนนักเรียนแต่ละชั้นเรียนทำให้ใช้เวลานานและล่าช้า และด้วยแนวปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งบางประการทำให้ไม่สามารถก้าวข้ามสู่ระบบดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
.
โฆษก ศธ. กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ รมว.ศธ. มีความห่วงใยเรื่องดังกล่าวจึงต้องการนำ Digital Transformation มาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองการลดภาระครู ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยของโลก โดยมอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ดำเนินการในส่วนนี้เพื่อลดภาระครู ก้าวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ใช้เทคโนโลยีพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดทำใบ ปพ.5 และทุกเอกสารที่เป็นใบสำคัญทางด้านการศึกษา เพื่อลดขั้นตอนของครูผู้สอนอย่างเป็นระบบ และในอนาคตจะต้องตรวจสอบและติดตามข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 100% ซึ่งขณะนี้องค์การค้าของ สกสค. ได้จัดทำระบบจัดเก็บเอกสารหลักฐานทางการศึกษาแบบอิเล็กทรอนิกส์เรียบร้อยแล้ว โดยดำเนินการผ่าน Block chain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัย ไม่สามารถปลอมแปลงหรือแก้ไขได้ เป็นประโยชน์ในระยะยาว
.
ทั้งนี้ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สพฐ. ได้ดำเนินการพัฒนาระบบจัดทำและจัดเก็บเอกสารหลักฐานทางการศึกษาแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจัดทำคำสั่งที่ลงนามโดย รมว.ศธ. และร่างแนวทางในการ Transform แปลงโฉมจากระบบเดิมที่ครูต้องบันทึกการผลการเรียนด้วยลายมือ ให้เกิดเป็นการลงระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อลดงานด้านเอกสารที่ซ้ำซ้อนของครูผู้สอน คาดว่าจะเสร็จสิ้น และให้สถานศึกษาเปิดใช้ได้อย่างเป็นทางการในปีการศึกษา 2567 เป็นต้นไป และนอกจากจะเริ่มจาก สพฐ. แล้ว หน่วยงานอื่นในสังกัด ก็จะทยอยปฏิบัติตามให้เป็นมาตรฐานเดียวกันด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาล อำนวยความสะดวกปชช.เดินทางวันหยุดยาวปีใหม่ เปิดใช้ทางหลวงพิเศษฟรี!หลายเส้นทาง

รัฐบาล อำนวยความสะดวกปชช.เดินทางกลับภูมิลำเนา-ท่องเที่ยว วันหยุดยาวปีใหม่ เปิดใช้ทางหลวงพิเศษฟรี!หลายเส้นทาง

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอิเหนาร่วมมือปราบสแกมเมอร์

นายกฯ หารือเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือเหยื่อสแกมเมอร์ชาวอินโดนีเซียกลับประเทศ พร้อมเดินหน้าร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและต่อต้านลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย

เริ่มแล้ว! ไทย- UNODC จัดประชุมระดับโลกปราบสแกมเมอร์

เริ่มแล้ววันนี้! การประชุมระดับโลกปราบสแกมเมอร์ ไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับ UNODC พร้อมผนึกกำลังกับ 39 ประเทศ สร้างความร่วมมือระดับโลกรับมือปัญหาอาชญากรรมออนไลน์

รัฐบาลเตือนผู้รับสิทธิ์คนละครึ่งพลัสกว่า 14 ล้านรีบใช้สิทธิให้หมดในสิ้นปี!

รัฐบาลย้ำเตือนได้รับสิทธิ์ 'คนละครึ่งพลัส' กว่า 14 ล้านคน รีบใช้สิทธิใช้จ่ายเงินผ่านโครงการฯ ให้หมดภายใน 31 ธ.ค. นี้ เชิญชวนร้านค้าถุงเงินในโครงการคนละครึ่งพลัส รีบพัฒนาทักษะสำเร็จ ภายใน 19 ธ.ค.นี้

'รมว.ศธ.' สั่งปิด 641 โรงเรียน พื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา

'นฤมล' สั่งปิดโรงเรียน 641 แห่ง ใน 5 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ย้ำความปลอดภัยเด็กและครูต้องมาก่อน รอดูสถานการณ์ก่อนเปิดเรียนอีกครั้ง