
วันที่ 22 มีนาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ การยกระดับการทำงานของคนไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจัดขึ้นโดย คณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ณ ห้องจัดประชุมสัมมนา B1-3 ชั้น B1 อาคารรัฐสภา
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับการพัฒนาแรงงานฝีมือ เพื่อรองรับและสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติตามนโยบายรัฐบาล และมาตรการส่งเสริมการลงทุน การสนับสนุนนโยบายด้านการลงทุนของประเทศไทย ในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาค ทั้งในส่วนการผลิตและประกอบยานยนต์ แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า และอะไหล่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ ในปี 2568 กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีเป้าหมายพัฒนาแรงงานฝีมือ จำนวน 10,097,015 คน การพัฒนาแรงงานนวัตกรรมเพื่อรองรับการลงทุน จำนวน 100,000 คน การเร่งติดอาวุธและพัฒนาคุณภาพแรงงาน ตั้งแต่วัยเรียนเพื่อลดการขาดแคลนแรงงานในระยะสั้น 1,000,000 คน
นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงปัจจัยที่มีผลต่อความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยว่า จำนวนแรงงานฝีมือที่มีความรู้ความเข้าใจในงานด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีอุปสงค์น้อยกว่าอุปทานของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณภาครัฐที่จะช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาแรงงานฝีมือที่ตอบสนองอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่มีจำนวนจำกัด จึงทำให้การพัฒนาแรงงานฝีมือยังคงมีจำนวนแรงงานฝีมือไม่เพียงพอต่อความต้องการของอุตสาหกรรม รวมทั้งการพัฒนาของคู่แข่งสำคัญของประเทศไทย ทั้งในส่วนการส่งเสริมการลงทุน และการพัฒนาฝีมือแรงงาน ของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนามในนาม “VIN FAST”การเร่งพัฒนาแรงงานฝีมือที่ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งในส่วน TECHNICIAN วิศวกรยานยนต์ วิศวกรไฟฟ้า นักพัฒนาซอฟแวร์ เพื่อสนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

“แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างยั่งยืน จะต้องอาศัยการพัฒนาให้ประเทศไทยจากประเทศผู้รับจ้างผลิตไปสู่ประเทศผู้ผลิต ซึ่งนำมาสู่การจ้างงานที่ยั่งยืน รวมทั้งการเร่งพัฒนาแรงงานฝีมือเพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งในส่วนระดับผู้ปฎิบัติการ อาทิ ช่างเทคนิครวมถึงวิศวกรยานยนต์ วิศวกรไฟฟ้า นักพัฒนาซอฟแวร์ เป็นต้น รวมถึงการสร้างนโยบายส่งเสริมการลงทุน จากบริษัทฯ ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลกในประเทศไทย พร้อมกำหนดข้อตกลงในการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีในการวิจัย พัฒนา รวมถึงการผลิตและประกอบยานยนต์ แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า และ อะไหล่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าให้เป็นที่แพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์สาธารณะ และยานยนต์ในองค์กรของรัฐ ตลอดจนการศึกษาอย่างจริงจังในส่วนการนำแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้ากลับมาใช้สำหรับกิจการอื่นๆ รวมถึงการรีไซเคิลชิ้นส่วน และการทำลายขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม” นายพิพัฒน์ กล่าว
“กระทรวงแรงงานจะทำงานร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ กระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะสำนักงานอาชีวศึกษา เพื่อพัฒนาหลักสูตรการอบรมที่เกี่ยวเนื่องกับ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานนานาชาติ สนับสนุนและติดอาวุธสำหรับนักเรียน นักศึกษา ที่ศึกษาในภาควิชาด้านวิศวกรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศ ผ่านการอบรมทักษะที่เป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งผลักดันโครงการ CREDIT BANK เพื่อการกระตุ้นในนักเรียน นักศึกษา มีความสนใจในการพัฒนาทักษะฝีมือ พร้อมเสริมสร้างประสบการณ์ในการทำงานตั้งแต่วัยเรียน ซึ่งนำมาสู่การลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือในระยะยาว อีกทั้งพัฒนาระบบแนะแนวอาชีพที่มีความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคต และการลงทุนในประเทศไทยช่วงระยะ 10 ปีข้างหน้า ในกลุ่มครูแนะแนวในระดับประถมศึกษา และ มัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อส่งถ่ายข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียนในการเลือกศึกษาต่อ และตรงตามแผนการพัฒนาแรงงานฝีมือ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรม และแผนส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'สส.ปชน.' จี้ ก.แรงงาน ต้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท นายจ้างไดกิ้น 'ปิดงาน' หาข้อยุติโดยเร็ว
นายเซีย จำปาทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีเกิดข้อพิพาทระหว่างบริษัท ไดกิ้น กับสหภาพแรงงานฯ ว่า นายจ้างไดกิ้น “ปิดงาน” กระทรวงแรงงานต้องประสานไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยเร็ว
“พิพัฒน์” นำทีมวางแผนฟื้นฟู–พัฒนาภาคใต้ทั้งระบบ ฟื้นเศรษฐกิจ–ดูแลคุณภาพชีวิต ชูท่องเที่ยวปลอดภัย–ฮาลาล 3 จชต. และสร้างงานระยะยาวให้คนในพื้นที่
วันที่ 4 ธันวาคม 2568 – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ และคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้ชายแดน เป็นประธานการประชุมเพื่อกลั่นกรองแผนพัฒนาจังหวัด–กลุ่มจังหวัด
ก.แรงงาน เคาะ 7 มาตรการเร่งด่วน เยียวยา 'สถานประกอบการ-ผู้ประกันตน' น้ำท่วม
รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือทุกส่วนราชการเดินหน้า เร่งฟื้นฟู เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้
TSB จับมือ ก.แรงงาน มอบข้าวสาร - น้ำดื่ม ช่วยผู้ประสบอุทกภัยใต้
ไทย สมายล์ บัส มอบข้าวสาร 5,000 ถุง น้ำดื่ม 2,400 ขวด แก่กระทรวงแรงงาน ระดมความช่วยเหลือเพื่อผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้
"พิพัฒน์" ลงพื้นที่หาดใหญ่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เข้าติดตามสถานการณ์น้าท่วม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยแสดงความเป็นห่วง

