วิจัยพบสังคมไทยเหลื่อมล้ำทุกมิติ สื่อสารในครอบครัวลดช่องว่างได้

ผลสำรวจเด็กและเยาวชนไทยปลอดภัยจากความรุนแรงออนไลน์ รั้งท้ายโลกเป็นอันดับที่ 29 เหนือกว่าอุรุกวัยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบ 30 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2022 เด็กและเยาวชนไทยอายุ 9-18 ปี ร้อยละ 26 เคยถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ และร้อยละ 11 เคยถูกคุกคามทางเพศทางออนไลน์ เด็กประถมศึกษาตอนปลายร้อยละ 12 เคยมีประสบการณ์ถูกตีสนิทโดยมีเจตนาเพื่อละเมิดทางเพศ (ผลสำรวจมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทยปี 2022)

นอกจากนั้น ผลสำรวจมูลนิธิเพื่อยุติการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากเด็ก องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ และกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ พบว่าเด็กและเยาวชนอายุ 12-17 ปี ร้อยละ 9 เคยถูกแสวงประโยชน์และละเมิดทางเพศออนไลน์ ได้รับข้อความภาพทางเพศโดยไม่ยินยอม และถูกข่มขู่เพื่อให้มีกิจกรรมทางเพศ  ผู้ถูกละเมิดทั้งหมดมีเพียงร้อยละ 1-3 เท่านั้นที่แจ้งเรื่องต่อตำรวจ กว่าครึ่งหนึ่งไม่เล่าเรื่องการถูกละเมิดให้คนอื่นได้รับทราบ และกลุ่มนี้ร้อยละ 47 ไม่ทราบว่าจะขอความช่วยเหลือได้จากที่ใด อีกทั้งผู้ละเมิดเป็นบุคคลใกล้ชิด เด็กและเยาวชนเผชิญความท้าทายในการรับมือและเปราะบางต่อภัยคุกคามอย่างยิ่ง

ปัญหาความวุ่นวายของโลกออนไลน์ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของคนในสังคมไทย จึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้อีกต่อไป

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ Data Hatch จัดกิจกรรมThaiHealth WATCH The Series  2024 เล่นให้เป็นเรื่อง ครั้งที่ 1 ตอน “เล่นเรื่องรุ่น” :  ความวุ่นของโลกหลายใบบนโจทย์ของคนต่างรุ่น เพื่อต่อยอดขยายผลการรับรู้ต่อผู้นำการสื่อสาร ในประเด็นครอบครัวข้ามรุ่น ปัญหาเด็กและครอบครัวไทยในสองแพร่ง เด็กและเยาวชนเติบโตในครัวเรือนเปราะบางทับซ้อนและยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤต ครอบครัวที่รายได้น้อย เงินออมต่ำ หนี้สินท่วม บั่นทอนขีดความสามารถของเด็กและเยาวชนที่จะเติบโตและเติมเต็มความฝันท่ามกลางโลกที่ท้าทายได้ เงินไม่เพียงพอเป็นอุปสรรคสำคัญที่จะจบการศึกษา เยาวชนมีงานที่ดีและสอดคล้องกับความฝันได้ยากขึ้น เด็กและเยาวชนไม่ได้รับการฟื้นฟูภาวะการเรียนรู้ถดถอย ปิดโอกาสทางการศึกษาและเผชิญปัญหาความเครียดและซึมเศร้า เข้าถึงบริการสุขภาพจิตได้ไม่ทั่วถึง อีกทั้งเผชิญความรุนแรงในชีวิตประจำวันในรูปแบบซ่อนเร้นมากขึ้น

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. เปิดเผยเรื่องของคนต่างรุ่นกับความวุ่นวายของโลกหลายใบว่า “แม้คนต่างรุ่นจะใช้เครือข่ายทางสังคมที่แตกต่างกันและมีความไม่เข้าใจกัน แต่จุดร่วมสำคัญของคนต่างรุ่นมีปัญหาเดียวกันคือ การประเมินความน่าเชื่อถือของข่าวสาร ทางออกคือเราต้องพยายามสร้างพื้นที่ในโลกออนไลน์ให้เกิดการโต้เถียงด้วยเหตุผลมากขึ้น ลดข้อความเสียดสี ล้อเลียน หรือตำหนิด้วยถ้อยคำรุนแรง เพื่อให้บรรยากาศในการถกเถียงเอื้อต่อการเรียนรู้สำหรับทุกคนในกลุ่ม”

ความสำคัญของครอบครัวข้ามรุ่นในสังคมต่างวัย นิยามครอบครัวแตกต่างกันไป เมื่อสังคมไทยเปลี่ยนแปลงหลังโควิด พ่อแม่ที่เคยทำงานนอกบ้านต้องเปลี่ยนเป็น Work  from home ทำให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น ได้พูดคุยและมีกิจกรรมร่วมกัน ส่งผลให้วิธีคิดเปลี่ยนไป ไม่อยากทำงานนอกบ้าน อยากทำงานออนไลน์มีเวลาให้คนในครอบครัวมากขึ้น

นายฉัตร คำแสง ผู้อำนวยการ 101 PUB และศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์) เปิดเผยว่า 101 PUB ทำงานกับสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชนและครอบครัว (สำนัก 4) สสส.มากว่า 2  ปี ในการแก้ไขปัญหาพ่อแม่และเด็กในเบื้องต้นเพื่อการปรับตัวไปพร้อมกัน พบปัญหาสังคมไทยเหลื่อมล้ำในทุกมิติติดอันดับTop 10 ของโลก ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางความมั่งคั่งสูงสุดในโลก ถ้าเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศอาเซียน ไทยติดอันดับเกือบรั้งท้ายความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รองจากประเทศกัมพูชา โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจการซื้อสินค้าเป็นการกระจายให้กลุ่มที่ร่ำรวยยิ่งขึ้นไปอีก เงินต่อเงินส่งผลให้เศรษฐกิจเหลื่อมล้ำมากขึ้นอีก ความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษาของไทย ไม่ใช่ทุกคนจะเลือกเรียนได้ตามความต้องการ สังคมไทยยังไม่เอื้ออำนวยในการสร้างเด็กที่มีคุณภาพเพื่อแข่งขันบนโลกไร้พรมแดน คนไทยที่มีฐานะที่ดีจะส่งบุตรหลานไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่ยังเป็นเด็กเพื่อสร้างโอกาสที่ดีสำหรับอนาคต

“อำนาจไม่เท่ากันนำไปสู่ความขัดแย้ง คนมีอำนาจต่อรองไม่เท่ากัน รู้สึกว่าถูกกีดกันในทุกมิติ เมื่อสังคมเหลื่อมล้ำ  ความมั่งคั่งกระจุกตัว กลุ่มคน 1% ครองความมั่งคั่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ (ร้อยละ 44.4) ขณะที่กลุ่มยากจนที่สุดร้อยละ 50 ถือครองรวมกันเพียงร้อยละ 1.5 เท่านั้น เกิดเป็นคำถามจากคน 40% ว่ามีคนอีกกลุ่มที่รวยกว่าเรา 10% เขาร่ำรวยมาจากไหน? คน 1% มีความมั่งคั่งเหลื่อมล้ำ ทำให้สังคมไม่ตอบโจทย์ นำไปสู่ปัญหาคนอีกกลุ่มหนึ่งเข้าไม่ถึงปัจจัยสี่” 

การเปิดเวทีนำเสนอข้อมูล “ช่องว่างระหว่างวัย ภาพสะท้อนความห่างกันทางอำนาจของคนต่างรุ่น” เป็นการมองที่แตกต่างกันไม่ใช่เป็นเรื่องแปลก แต่จะทำอย่างไรให้ผู้คนทำความเข้าใจในบริบทของความแตกต่าง และสร้างสังคมที่อยู่ร่วมกันได้ท่ามกลางความหลากหลาย ทำช่องว่างระหว่างวัยให้เป็นพื้นที่ของการพูดคุย ยอมรับความแตกต่างทางสังคมให้ทุกคนมีโอกาส.


 คน 7 Gen ในบ้านหลังเดียวกัน

1.Gen Greatest (อายุ 100 ปีขึ้นไป) (เกิด พ.ศ. 2444-2467) เกิดในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 คนรุ่นนี้เป็นกำลังสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

2.Gen Silent (เกิด พ.ศ. 2468-2488) (อายุ 79-99 ปี) กลุ่มคนที่เกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  มีชีวิตความเป็นอยู่ยากลำบาก ทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ  เคร่งครัดต่อระเบียบแบบแผนมาก จงรักภักดีต่อนายจ้างและประเทศชาติสูงมาก เคารพกฎหมาย

3.Gen B หรือ Baby Boomer (เกิด พ.ศ.  2486-2503) (อายุ 64-81 ปี) เป็นกลุ่มคนที่ได้รับอิทธิพลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เติบโตท่ามกลางความยากลำบาก จึงให้คุณค่ากับการทำงานหนัก อดทนเพื่อประสบความสำเร็จ มีชีวิตเรียบง่ายผสมผสานความอนุรักษนิยมและความทันสมัย รักครอบครัวและมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับครอบครัว

4.Gen X (เกิด พ.ศ. 2504-2524) (อายุ 43-63 ปี) ได้รับอิทธิพลจาก Gen B มีความมุ่งมั่นในการทำงาน อดทน ให้ความสำคัญกับ work-life-balance ทั้งเรื่องการทำงานและครอบครัว คน Gen นี้แต่งงานช้า รักอิสระ มีความต้องการเป็นนายตัวเองสูง

5.Gen Y (เกิด พ.ศ. 2525-2548) (อายุ 19-42 ปี) เติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจเฟื่องฟูและเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนา คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันอย่างสูง มีความมุ่งมั่นสามารถทำงานหลายสิ่งในเวลาเดียวกันได้ ไม่ค่อยอดทนและไม่ชอบเสี่ยง

6.Gen Z (เกิด พ.ศ. 2549-2552) (อายุ 18-15 ปี) เติบโตในยุคที่มีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก  รับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เปิดกว้างทางความคิดและยอมรับความแตกต่างได้เป็นอย่างดี    7.Gen Alpha (เกิด พ.ศ. 2553-ปัจจุบัน) (อายุ 14 ปี-วัยแรกเกิด) เป็นคนรุ่นลูกของ Gen Y และ Gen Z เกิดมาในยุคอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิต  คิดและมีพฤติกรรมที่อยากประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย นิยมความรวดเร็วทันใจ อยากมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น มีความคิดเชิงวัตถุนิยม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่

สสส.-สถาบันยุวทัศน์ ฯ ผนึกเทศบาลนครเกาะสมุย เดินหน้า “นักเรียนปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” ผ่านสถานศึกษา 4 แห่ง

นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุย มียุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่

เด็กไทยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ถึงเวลามีสติรู้เท่าทันยุค AI

ทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มจาก “ความกลัว” ของมนุษย์-กลัวมืดจึงมีหลอดไฟ กลัวมองไม่เห็นจึงมีแว่นตา และในยุคที่โลกย้ายมาอยู่ในจอ ความกลัวรูปแบบใหม่ก็ผุดขึ้นเป็นรายวัน ตั

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย ป่วย NCDs สูง ขาดเงินออม แถม 90% บ้านไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต กดดันให้สังคมไทยสู่ภาวะเปราะบาง แนะป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว พร้อมส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันสู่วัยสูงอายุด้วยความภาคภูมิใจ

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! 'พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT' คว้ารางวัลชนะเลิศ 'Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025'

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! “พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT” คว้ารางวัลชนะเลิศ “Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025” เติมเต็ม “จักรวาลสุขภาวะ” เยาวชน-สตาร์ทอัพ-ภาคีเครือข่าย-ประชาชนทั่วไป 178 ทีมทั่วประเทศ ส่งไอเดียประชันนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ-ลดป่วย NCDs “รองนายกฯ โสภณ” ปลื้มผลงาน 7 ปี สสส. ปั้นนวัตกรไทย 1,660 ทีม พัฒนานวัตกรรมสุขภาพตอบโจทย์สังคม สร้างสภาพแวดล้อมเอื้อคนไทยมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน

เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ