
ประเทศไทยกำลังจะมีร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ เพื่อเป็นกฎหมายรองรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวของกลุ่มหลากหลายทางเพศ...ท่ามกลางความกังขาว่า ประเทศของเรามีคนกี่เพศกันแน่?!?
ประชากรเพศหลากหลาย (LGBTQ+) หมายถึง หญิงรักหญิง, เลสเบี้ยน, ทอม, ดี้, ชายข้ามเพศ, ชายรักชาย, เกย์, คนรักสองเพศ, กะเทย, สาวประเภทสอง, คนข้ามเพศ, หญิงข้ามเพศ, เควียร์, คนมีสองเพศ, เพศกำกวม, คนไม่ฝักใฝ่ทางเพศ, คนนอกกล่องเพศ หรือคนนอกระบบสองเพศ บางเสียงระบุว่ามี 16 เพศ บางเสียงระบุมากถึง 100 เพศ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดโครงการคาดประมาณขนาดประชากรหลากหลายทางเพศ และสถานการณ์ชีวิตและสุขภาพของ LGBTQ+ ครั้งแรกในไทย เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ โดยเชิญภาครัฐ ภาคประชาชน กลุ่มตัวแทน LGBTQ+ มาแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประชากรกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อพัฒนาฐานข้อมูล ขับเคลื่อนนโยบายไปสู่สังคมที่มีสุขภาวะ

นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ เปิดเผยว่า สสส.ให้ความสำคัญกับการทำงานเรื่องสุขภาวะคนทุกกลุ่มที่อยู่ในไทย แต่ยังขาดข้อมูลประชากรและสถานการณ์ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศที่ชัดเจนและทันสถานการณ์ ซึ่งการไม่ถูกมองเห็นทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาวะในหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะความรอบรู้เรื่องสุขภาพ (Health Literacy) ทั้งนี้การมีข้อมูลด้านประชากรของคนกลุ่มนี้ที่ชัดเจนจะเอื้อให้ สสส.ภาคีเครือข่าย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานสร้างเสริมสุขภาพให้คนกลุ่มนี้ได้อย่างตรงจุด สอดคล้องกับความต้องการ หรือช่วยแก้ไขปัญหาของคนกลุ่มนี้ได้
“เป็นงานออกแบบในเชิงลึกเพื่อนำมาขยายผล ก่อนที่เมืองไทยจะบังคับใช้ พ.ร.บ.คู่ชีวิต เนื่องจาก สสส.ทำงานกับประชากรกลุ่มเฉพาะ เป็นประโยชน์ในการจัดทำข้อมูล การสำรวจขนาดประชากรของกลุ่ม LGBTQ+ ครั้งนี้เป็นเฟสแรกสำรวจเยาวชนในโรงเรียน จ.นครปฐม และ จ.ราชบุรี เพื่อดูว่าตัวเลขน่าตกใจหรือไม่? มั่นใจว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้ถูกสำรวจ เพราะถือเป็นโอกาสทองของข้อมูลที่จะมีการเปิดใจในการออกแบบความหลากหลายทางเพศ เพื่อรวบรวมข้อมูลสุขภาวะ ด้านร่างกาย จิตใจ ชีวิตความเป็นอยู่ รูปลักษณ์ ความสัมพันธ์ การติดตามและการถูกเลือกปฏิบัติที่น่าเชื่อถือ แม่นยำ สามารถใช้เป็นฐานข้อมูลพัฒนานโยบาย และมาตรการทางสังคม เศรษฐกิจ และสุขภาพ หรือใช้ทำความเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับ LGBTQ+ ในแง่มุมต่างๆ เช่น ความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพและเศรษฐกิจ อัตราความชุกของการเลือกปฏิบัติ และผลกระทบทางเศรษฐกิจหากมีการออกกฎหมายเกี่ยวกับสมรสเท่าเทียม เพื่อให้ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมได้นำชุดข้อมูล และตัวเลขกลาง ไปอ้างอิงในการทำงานขับเคลื่อนตามลักษณะเฉพาะ ทั้งสามารถวางแผนจัดสรรทรัพยากร ออกแบบโครงการ และบริการที่ตรงความต้องการ ให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิ สวัสดิการ สร้างหลักประกันชีวิตและสุขภาพที่เป็นธรรม ที่ผ่านมาค่อนข้างมีอุปสรรคจึงได้ข้อมูลที่เลือนราง ได้เพียงการตั้งสมมติฐานที่สังคมตีตราว่ากลุ่มชายรักชาย หญิงรักหญิง คนข้ามเพศเหล่านี้เป็นกลุ่มเสี่ยงมีโอกาสติดเชื้อ HIV สูงกว่าคนปกติ ดังนั้นจะต้องมีการออกแบบนวัตกรรมด้วยการให้ความสำคัญ” นางภรณีชี้แจง

รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ที่ปรึกษาโครงการ ตั้งข้อสังเกตว่า ชายจริงหญิงแท้ไม่มีในโลกนี้ เพราะทุกอย่างในโลกนี้ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะเรื่องเพศ สังคมไทยผู้ชายอยากเป็นหญิง ผู้หญิงอยากเป็นชาย เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน อีกทั้งไม่ใช่เป็นพยาธิสภาพโรคแต่อย่างใด เคยมีการจัดเป็นหัวข้อเสวนา Gender Talk Series ดังนั้นในแบบสอบถามจะมี 3 คำถาม เพศกำเนิด อัตลักษณ์ทางเพศ เพศวิถี เน้นกลุ่มเยาวชนอายุ 15-25 ปี
ไทยยังไม่เคยมีการคาดประมาณขนาดประชากรกลุ่มเพศหลากหลายอย่างเป็นระบบมาก่อน ในฐานะที่สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล มีความเชี่ยวชาญด้านคาดประมาณประชากร ได้เห็นความจำเป็นที่ต้องมีข้อมูลพื้นฐาน โดยจะใช้การสำรวจ 2 ลักษณะ คือ สำรวจประชากรทั่วไปอย่างเป็นระบบใน จ.ราชบุรี 2,400 ครัวเรือน และการสำรวจเชิงพื้นที่นำร่องในสถานศึกษา 3 ระดับ ใน จ.นครปฐม 1,100 คน อายุระหว่าง 15-25 ปี โดยพิจารณาจากความพร้อม และศักยภาพพื้นฐานของจังหวัด ที่มีลักษณะทางสังคมเศรษฐกิจในระดับกลาง ไม่มีลักษณะเฉพาะที่บ่งชี้ว่าอาจเป็นพื้นที่ที่มีประชากร LGBTQ+ มากหรือน้อยไปจากจังหวัดอื่นๆ และจะเปิดการสำรวจออนไลน์ให้ประชาชนทั่วไป อายุ 15 ปีขึ้นไป เข้าไปตอบแบบสำรวจด้วยตัวเอง จำนวน 1,500 คน ซึ่งทั้งหมดจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ย.นี้
“เราควรสำรวจข้อมูลความหลากหลายทางเพศมานานแล้ว ไม่ถือว่าล้ำสมัยแต่อย่างใด การสำรวจครั้งนี้ประเทศไทยเป็นครั้งแรกในกลุ่มอาเซียน การสำรวจทั้งออนไลน์และเข้าถึงครัวเรือน ทั้งนี้ระมัดระวังไม่ให้มีการนับซ้ำ การสำรวจเสมือนเป็นการถ่ายภาพ One Time เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลหลัก คือแบบสอบถามในแท็บเล็ต สามารถเลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ โดยเฉพาะอัตลักษณ์ทางเพศ เกย์ ทอม มีเพศวิถีอย่างไร แนวโน้มดึงดูดทางเพศกับเพศเดียวกันหรือต่างเพศ ดังนั้นคนสัมภาษณ์จะต้องผ่านการอบรมเข้ม 3 วันเพื่อเข้าใจทฤษฎีทางเพศ ไม่มีอคติทางเพศ ผู้ถูกสัมภาษณ์อาจจะไม่ตอบ ก็ต้องอธิบายถึงความมุ่งหมายในการสำรวจครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัว ก่อนหน้านี้มหิดลเคยสำรวจเรื่องความรุนแรงของผู้หญิงในชีวิตคู่ พบว่ามีสูงถึง 40%”
โดยจะสำรวจครัวเรือนเพื่อทำการแจงนับบุคคลทุกคนในครัวเรือน และครัวเรือนใดที่พบว่ามีบุคคลเป็นคนหลากหลายทางเพศ จะขอสัมภาษณ์ด้วยแบบสอบถามรายบุคคล ที่มีคำถามครอบคลุมถึงสถานการณ์ชีวิตด้านต่างๆ ทั้งความรอบรู้ด้านสุขภาพ ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตด้านเพศ ทั้งในด้านอัตลักษณ์ทางเพศ เพศสภาพ รสนิยม และความรู้สึกดึงดูดใจด้านเพศ (Sexual Orientation) การมีข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับประชากร LGBTQ+ เป็นความจำเป็นข้อแรกๆ ของการสร้างสังคมที่ครอบคลุม ลดความเหลื่อมล้ำ และเท่าเทียมกันมากขึ้น” รศ.ดร.กฤตยาเปิดเผย

นางกาญจนา ภู่มาลี ผู้อำนวยการกองนโยบายและวิชาการสถิติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้แจงว่า ไทยไม่มีตัวเลขประชากรกลุ่มนี้ที่เป็นทางการ เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้ส่วนมากยังถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ต้องการเปิดเผยต่อสาธารณะ จึงไม่มีข้อมูลที่ชี้ชัดนำไปใช้อ้างอิง หรือขับเคลื่อนเชิงนโยบายต่างๆ สำนักงานสถิติแห่งชาติเคยพยายามสำรวจผู้มีความหลากหลายทางเพศในปี 2562 ร่วมกับสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล โดยเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาในโครงการนำร่องศึกษาแนวทางการเก็บข้อมูลผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดยเพิ่มข้อถามเรื่องเพศ 1 ข้อ ในแบบสำรวจภาวะการทำงานของประชากร โดยสอบถามหัวหน้าครัวเรือน หรือสมาชิกในครัวเรือน ตอบคำถามถึงลักษณะทางประชากร สังคม เศรษฐกิจของสมาชิกในครัวเรือนทุกคน จึงได้ตัวเลขประชากรกลุ่ม LGBTQ+ 0.7% และในกลุ่มอายุ 15-20 ปี คำตอบสูงขึ้นเป็น 1.5% ทั้งนี้ตัวเลขที่ได้จากการสำรวจต่างกันมาก ความพยายามทำการสำรวจ หรือประเมินขนาดกลุ่ม LGBTQ+ จึงมักต้องเผชิญกับข้อจำกัดและความไม่แม่นยำ แต่เป็นเรื่องจำเป็นที่สังคมไทยควรขยายความเข้าใจต่อกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ชีวิตและสุขภาพ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่
สสส.-สถาบันยุวทัศน์ ฯ ผนึกเทศบาลนครเกาะสมุย เดินหน้า “นักเรียนปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” ผ่านสถานศึกษา 4 แห่ง
นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุย มียุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่
เด็กไทยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ถึงเวลามีสติรู้เท่าทันยุค AI
ทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มจาก “ความกลัว” ของมนุษย์-กลัวมืดจึงมีหลอดไฟ กลัวมองไม่เห็นจึงมีแว่นตา และในยุคที่โลกย้ายมาอยู่ในจอ ความกลัวรูปแบบใหม่ก็ผุดขึ้นเป็นรายวัน ตั
ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย
ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย ป่วย NCDs สูง ขาดเงินออม แถม 90% บ้านไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต กดดันให้สังคมไทยสู่ภาวะเปราะบาง แนะป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว พร้อมส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันสู่วัยสูงอายุด้วยความภาคภูมิใจ
สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! 'พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT' คว้ารางวัลชนะเลิศ 'Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025'
สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! “พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT” คว้ารางวัลชนะเลิศ “Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025” เติมเต็ม “จักรวาลสุขภาวะ” เยาวชน-สตาร์ทอัพ-ภาคีเครือข่าย-ประชาชนทั่วไป 178 ทีมทั่วประเทศ ส่งไอเดียประชันนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ-ลดป่วย NCDs “รองนายกฯ โสภณ” ปลื้มผลงาน 7 ปี สสส. ปั้นนวัตกรไทย 1,660 ทีม พัฒนานวัตกรรมสุขภาพตอบโจทย์สังคม สร้างสภาพแวดล้อมเอื้อคนไทยมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน
เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ


