พื้นดินส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย
ตำบลหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ชุมชนชาวประมงเล็กๆ เป็นชุมชนชายฝั่งชายแดน อยู่ทะเลด้านตะวันออกสุด และมีพื้นดินส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย บนเส้นทางสายตราด-คลองใหญ่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 81-82 ซึ่งสามารถวัดระยะความกว้างจากชายฝั่งทะเลถึงเส้นแบ่งเขตแดนทิวเขาบรรทัดไทย–กัมพูชา จุดที่แคบที่สุดวัดจากชายฝั่งทะเลจรดทิวเขาได้เพียง 450 เมตร ต.หาดเล็ก เป็นหมู่บ้านที่มีพื้นที่ราบวัดจากขอบถนนถึงชายฝั่งทะเลเพียง 200 เมตร ด้านฝั่งภูเขาก็ไม่สามารถอยู่ได้เพราะเป็นเขตหวงห้ามตามแนวเขตเส้นพรมแดนประเทศ จึงทำให้ประสบกับปัญหาความแออัดของที่อยู่อาศัย ชุมชนต้องรุกล้ำลงไปในทะเลซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมเจ้าท่า
ชุมชนชาวประมงตำบลหาดเล็ก
มารู้จักกับหาดเล็กดินแดนตะวันออกสุดของประเทศ
ตำบลหาดเล็กประกอบด้วย 5 หมู่บ้านที่อยู่รวมกัน แต่ละหมู่บ้านมีจุดเด่นและปัญหาแตกต่างกันไป ด้านเหนือสุดของหาดเล็ก มีลักษณะเป็นป่าชายเลนอยู่แล้ว แต่ด้วยการสร้างบ้านเรือนและสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ป่าเลยหายไปมาก บริเวณกึ่งกลางหาดเล็ก มีปัญหาเรื่องคลื่นซัดแรงและลมพัดแรง เป็นหมู่บ้านที่บ้านเรือนเสียหายหนักที่สุด สิ่งแรกที่ต้องแก้ไขจึงเป็นการออกแบบแนวกันคลื่นโดยใช้ไม้ไผ่ คอนกรีต และป่าชายเลนเป็นตัวกรองแรงคลื่นรวมกัน 3 ชั้น ถัดลงมาด้านใต้เป็นหมู่บ้านที่ยังทำประมงเรือเล็กอยู่อย่างชัดเจน และยังมีวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวหาดเล็กหลงเหลืออยู่มาก จึงเน้นการชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้ชีวิต อยู่โฮมสเตย์ กินอาหารทะเล และเรียนรู้วิถีชาวประมงด้านใต้สุดแหลม ติดชายแดนกัมพูชา จึงเป็นที่ตั้งของตลาดสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้า หมู่บ้านนี้มีตลาดและลานกิจกรรมให้คนได้ออกมานัดเจอพบปะกัน ถัดลงมาด้านใต้ เป็นบริเวณที่มีคนอยู่เยอะที่สุด ทำให้เกิดปัญหาความเป็นอยู่ที่แออัด มีขยะเยอะ รวมถึงมีทั้งคนไทยและกัมพูชา เวลาจะคุยอะไรก็ต้องใช้เวลามากหน่อย แต่ข้อดีคือที่นี่มีประเพณีดั้งเดิมน่ารักๆ หลายอย่าง เช่น ลอยกระทง 2 แผ่นดิน ไทย-กัมพูชา และงานแข่งเรือ สิ่งที่พวกเขาต้องการจึงเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับส่งเสริมให้กิจกรรมเหล่านี้เข้าถึงง่าย ปลอดภัย และเหมาะกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
สภาพบ้านเรือนของตำบลหาดเล็ก
ผลกระทบจาก พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560
หลังจากรัฐบาล ออก พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 17) พ.ศ.2560 ส่งผลให้ผู้ที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในน้ำต้องแจ้งขออนุญาตกับกรมเจ้าท่า ในเวลากำหนด หากเพิกเฉยจะมีความผิด มีโทษปรับย้อนหลัง ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่ว จึงมีการสั่งชะลอการบังคับใช้กฎหมายไว้ก่อนพื้นที่ ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ถือเป็นชุมชนชาวประมง ปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่ในพื้นที่กรมเจ้าท่ามาช้านาน จำนวน 738 ครัวเรือน พื้นที่ครอบคลุมทั้งหมด 5 หมู่บ้าน จึงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หากจะให้ย้ายขึ้นบนบก ย่อมไม่มีพื้นที่ราบ เพราะอยู่ติดภูเขา เทศบาลตำบลหาดเล็ก จึงร่วมกับผู้นำชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)-กรมเจ้าท่า ลงพื้นที่ทำการสำรวจพบบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำ-ในน้ำ 504 ครัวเรือน ตามวิถีชุมชนดั้งเดิมมีสภาพชำรุดทรุดโทรมใกล้พัง เจ้าของบ้านต่างได้รับความเดือดร้อนและวิตกกังวล ไม่สามารถซ่อมแซมด้วยตัวเองได้ เนื่องจากฐานะยากจน และติดข้อกฎหมาย
ด้วยความร่วมมือของชุมชนในการช่วยกันดูแลรักษาพื้นที่อย่างเต็มที่ จึงทำให้ได้รับการปลดล็อกจากกรมเจ้าท่าในการอนุญาตให้อยู่ในพื้นที่ได้โดยมีข้อตกลงในการรักษาความสะอาดและห้ามบุกรุกเพิ่มเติม ปัจจุบันพื้นที่นี้กำลังกลายเป็นพื้นที่ตัวอย่างในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติริมทะเล และถูกยกให้เป็นพื้นที่นำร่องในการจัดการที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ของกรมเจ้าท่า ภายในชื่อ “หาดเล็กโมเดล”

พอช.ทุ่ม 31 ล้าน พัฒนา “หาดเล็กโมเดล” เป็นต้นแบบการพัฒนาชุมชนบนที่ดินกรมเจ้าท่า
จากการสำรวจข้อมูลผู้เดือดร้อนในที่ดินรัฐเพื่อซ่อมแซมปลูกสร้างที่อยู่อาศัยใน ต.หาดเล็ก ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. พบว่า จำเป็นต้องมีการปรับปรุงที่ดินใหม่และที่ดินเดิมภายใต้งบประมาณกว่า 31 ล้านบาท ทั้งการจัดซื้อที่ดินสร้างบ้านใหม่ เพื่อลดการแออัดของจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ชุมชน และการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ทรุดโทรม สร้างตลาดชุมชน พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน นอกจากการทำประมงของชาวบ้านตำบลหาดเล็ก
ปัญหาการบุกรุกที่ดินรัฐทั่วประเทศพบว่ามีทั้งที่ดินกรมเจ้าท่า ป่าไม้ และป่าชายเลน ที่ถูกประชาชนบุกรุกเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ซึ่งรัฐมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง ขณะที่ ต.หาดเล็กเอง จะเป็นต้นแบบของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาด้วยการไม่รื้อบ้านของผู้บุกรุก แต่กำหนดให้ไม่มีการรุกล้ำเพิ่ม รวมทั้งพัฒนาบ้าน พัฒนาชุมชนให้ดีขึ้นตามนโยบาลของรัฐบาล
พอช.จึงสนับสนุนงบประมาณจำนวน 31 ล้านบาทเศษ ใช้ซ่อมแซมบ้านเรือน วงเงิน 2.5 หมื่นบาท/หลัง และพัฒนาสาธารณูปโภค 2.5 หมื่นบาท ภายใต้ชื่อ “หาดเล็กโมเดล” ถือเป็นการเดินหน้าพัฒนา “โครงการบ้านมั่นคงในพื้นที่กรมเจ้าท่า”

ชูหาดเล็กต้นแบบบ้านมั่นคงในที่ดินกรมเจ้าท่า
ความไม่มั่นคงในที่ดินที่อยู่อาศัยของประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านเรือนในที่ดินกรมเจ้าท่าเป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานหลายสิบปี เนื่องจากที่ดินริมแม่น้ำและชายฝั่งทะเลที่กรมเจ้าท่าดูแลอยู่ทั่วประเทศ มีประชาชนเข้าไปปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยต่อเนื่องมานาน แต่ส่วนใหญ่ปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง เมื่อบ้านเรือนทรุดโทรมก็ไม่สามารถซ่อมแซมหรือปรับปรุงสภาพให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากติดขัดกฎระเบียบของกรมเจ้าท่า เช่น พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย,พ.ร.บ.การประมง ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รัฐบาลชุดปัจจุบันได้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยใช้ชุมชนในเขตเทศบาลตำบลหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เป็นพื้นที่นำร่องในการแก้ไขปัญหาที่ดินกรมเจ้าท่า โดยกรมเจ้าท่าออกใบอนุญาตให้ปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำแม่น้ำแก่ชาวบ้านเพื่อซ่อมสร้างบ้าน รวมทั้งหมด 738 หลัง และจะร่วมกับกรมท่าแก้ปัญหาทั่วประเทศ

นาย ศุรศักดิ์ คุ้มปลี รองนายกเทศมนตรีตำบลหาดเล็ก กล่าวว่า ชาวชุมชนหาดเล็กได้ร่วมกันพิจารณาวางหลักเกณฑ์ กำหนดกติกา หลักเกณฑ์และจัดระบบการบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกัน และป้องกันการปลูกสร้างอาคารล่วงล้ำลำน้ำขยายเพิ่มขึ้น เกิดการปรับปรุง ซ่อมแซมหรือก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคงแข็งแรงเหมาะสม ในการอยู่อาศัย ควบคู่กับการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม การพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชน สนับสนุนการพัฒนาตามแผนงานของชุมชน บูรณาการการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์คุ้มค่า เกิดรูปธรรมการพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆ ส่วนการซ่อมแซมบ้านจะซ่อมแซมบ้านเรือนที่ทรุดโทรมทั้งหมด ใช้แรงงานจากสมาชิกในชุมชน ช่างชุมชนอาสา และทหารเรือ มาช่วยซ่อมสร้างบ้านให้กับชุมชน

จะเห็นว่าตำบลหาดเล็ก มีมีความโดดเด่นและหลากหลาย ชาวบ้านมีการสร้างบ้าน อยู่ในน้ำและจอดเรือไว้ บริเวณที่อยู่อาศัย ในอดีตที่นี้เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการปลูกบ้านในน้ำ แต่ชาวบ้านรวมทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ดูแลรักษาผืนน้ำผืนป่าและระบบนิเวศน์ จึงทำให้กรมเจ้าท่าเห็นถึงความตั้งใจและการรวมพลังเพื่อพัฒนาชุมชนให้ดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลและนำมาสู่การอนุญาต ให้มีการสร้างที่อยู่อาศัยในน้ำภายใต้ชื่อ "หาดเล็กโมเดล" ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านมั่นคงในพื้นที่ของกรมเจ้าท่าและในที่สุดทำให้ "หาดเล็กโมเดล" ชุมชนในน้ำ ต้นแบบบ้านมั่นคงในที่ดินกรมเจ้าท่าแห่งแรกในประเทศไทย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตราดผนึกพลัง คนไทยพลัดถิ่น-ชาวบ่อไร่ ระดมของขึ้นรถ 12 ล้อ ส่งช่วยน้ำท่วมใต้
เครือข่ายคนไทยพลัดถิ่นฯ เทศบาลบ่อพลอย และชาวบ่อไร่ รวมกำลังจัดข้าวสาร-อาหารแห้ง-น้ำดื่ม ส่งสมาคมกู้ภัยสว่างฯ ลำเลี
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต
นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน
“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”
รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง
นาวิกโยธินตราด คุมเข้มชายแดน หลังพบบางหน่วยงานนำชาวกัมพูชาเข้า-ออกโดยไม่แจ้ง
ผบ.นย. สั่งห้ามนำคนไทยและกัมพูชาเข้าออกชายแดนโดยไม่ได้รับคำสั่ง หลังพบมีการลักลอบออก ขณะชด.บ้านชำรากและบ้าน3หลังตรึงกำลังแน่น
ฉก.นย.ตราดตรึงกำลังชายแดน 'บ้าน 3 หลัง' เตรียมปักธงไทยทวงคืนอธิปไตย
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่จังหวัดตราดตึงเครียด หลังหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดตรึง
สว.จี้รัฐบาลบูรณะอนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง!
สว.เรียกร้องรัฐบาลเร่งบูรณะพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ไทย 'อนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง' หลังอยู่สภาพทรุดโทรม แนะผลักดันเป็น 'อนุสรณ์สถานมีชีวิต' เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ การศึกษา และการท่องเที่ยว


