
นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง พร้อมด้วย รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบความพร้อมระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำคลองขุดวัดช่องลม ทั้งนี้ MEA ได้บำรุงรักษาและติดตั้งอุปกรณ์เสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำ อีกทั้งมีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมแผนเพื่อบูรณาการความร่วมมือกับ สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร กทม. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ณ สถานีสูบน้ำคลองขุดวัดช่องลม กรุงเทพฯ
ผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า MEA ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านระบบจำหน่ายระบบไฟฟ้าสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญกับคุณภาพการจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการรองรับเหตุฉุกเฉินและขัดข้องต่าง ๆ พร้อมบูรณาการกับหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลการจ่ายไฟฟ้าของสถานีสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ และบ่อสูบน้ำ ของ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่ MEA ดูแลด้านระบบไฟฟ้า จำนวน 382 แห่ง โดย MEA มีการเชื่อมโยงระบบจ่ายไฟฟ้าหลัก และระบบจ่ายไฟฟ้าสำรองให้กับสถานีสูบน้ำทุกแห่ง เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และสามารถบริหารจัดการโดยใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการควบคุมระบบไฟฟ้า SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) ตลอดจนได้นำระบบ DMS (Distribution Management System) มาใช้ในระบบการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยบริหารควบคุมสั่งการได้จากส่วนกลาง ทราบสาเหตุ และสั่งการอัตโนมัติ ทำให้เกิดความมั่นคงในระบบไฟฟ้า มีความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขไฟฟ้าขัดข้องได้รวดเร็ว

ผู้ว่าการ MEA กล่าวต่อว่า สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามตรวจสอบความพร้อมของระบบไฟฟ้าสถานีสูบน้ำคลองขุดวัดช่องลม ถือเป็นสถานีสูบน้ำสำคัญ ซึ่งสอดรับกับนโยบายกระทรวงมหาดไทยในการบูรณาการความร่วมมือเพื่อให้สามารถบริหารจัดการระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดย MEA จ่ายกระแสไฟฟ้าให้สถานีสูบน้ำคลองขุดวัดช่องลม ด้วยระบบแรงดันไฟฟ้า 24 กิโลโวลต์ (kV) ให้กับระบบสูบน้ำขนาด 1200 กิโลวัตต์ (kW) จำนวน 5 เครื่อง อัตรากำลังสูบน้ำรวม 45 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระบายน้ำท่วมขังในเมืองออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยสถานีสูบน้ำคลองขุดวัดช่องลมจะรับน้ำจากอาคารรับน้ำบึงมักกะสัน อาคารรับน้ำแสนเลิศ อาคารรับน้ำไผ่พิทักษ์ และอาคารรับน้ำเชื้อพระราม ซึ่งรับน้ำในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตห้วยขวาง เขตดินแดง เขตพญาไท เขตราชเทวี เขตปทุมวัน และเขตวัฒนา ครอบคลุมพื้นที่ 26 ตารางกิโลเมตร

นอกจากนี้ที่ผ่านมา MEA ยังมีแผนการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบจำหน่ายไฟฟ้าให้กับสถานีสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันปัญหาด้านระบบไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงก่อนเข้าสู่ฤดูฝน ที่จะต้องมีการตรวจสอบในลักษณะทางกายภาพ เช่น การตัดแต่งกิ่งไม้ และตรวจสอบป้ายต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้อุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งมีโอกาสที่จะถูกลมพายุพัดหลุดห้อยหรือทำให้กระทบกับระบบไฟฟ้าของ MEA ให้เกิดความเสียหายได้ รวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ส่งผลต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าภายในสถานีสูบน้ำแต่ละแห่ง รวมถึงประสานงานใกล้ชิดกับศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ เพื่อการแก้ไขเหตุไฟฟ้าดับฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจน MEA จัดเจ้าหน้าที่บูรณาการระบบไฟฟ้าประจำจุดที่สำคัญทุกแห่งพร้อมดูแลระบบไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง จากการดำเนินงานทั้งหมดนี้ MEA จึงมีความมั่นใจในการดูแลระบบไฟฟ้าสำหรับสถานีสูบน้ำเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมั่นคงและปลอดภัยอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูฝน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พิษณุโลกเร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำโมเดล
พิษณุโลก เร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำ หลังรับน้ำจากสุโขทัยอีก จนจุน้ำ 204 ล้าน เพิ่มจากเมื่อวาน 5 ล้าน ลบ.ม จากอิทธิพลของพายุคัลแมกี ชาวนาสะเทือนอกนาข้าวหอมมะลิจมน้ำหนัก
เชียงใหม่อ่วม! เจอฝนถล่มช่วงเช้า ท่วมทั้งเมือง
เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เช้าตรู่ ทำให้น้ำท่วมขังบริเวณกว้างในตัวเมืองเขียงใหม่ โดยเฉพาะจุดซ้ำซากที่ใกล้โรงพยาบาลสวนดอกไปทางคูเมือง
นายกฯ ดันเมกะโปรเจกต์ คลองระบายน้ำ 'ป่าสัก-อ่าวไทย' เร่งอนุมัติก่อนยุบสภา
"อนุทิน" ลั่นไม่ใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน เดินหน้าเข็นเมกะโปรเจกต์โครงการป่าสักอ่าวไทย ผันน้ำขนาดเจ้าพระยา ออกแก้น้ำท่วมซ้ำซาก เร่ง อนุมัติก่อนยุบสภา
เช็กเลย! ประเดิมโอนเงินเยียวยาน้ำท่วม 6.85 หมื่นครัวเรือน
'โฆษกรัฐบาล' เผยประเดิมโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมเข้าบัญชีครั้งแรก 6.85 หมื่นครัวเรือนที่ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 68 รวม 612 ล้านบาท
สมุทรปราการอ่วม! ถนนจมบาดาล รถลุยน้ำเครื่องดับระนาว
ฝนตกต่อเนื่องในจังหวัดสมุทรปราการ ตลอดทั้งวันจนถึงช่วงกลางดึก ซึ่งตกหนักเบาสลับกันไปมา ทำให้มีน้ำท่วมขังพื้นผิวการจราจร ถนนแพรกษา
เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มระบายน้ำ เตือนท้ายเขื่อนน้ำสูงอีก 20-30 ซม.
ชลประทานชัยนาทแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาอีกครั้ง หลังปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มต่อเนื่อง ส่งผลน้ำล้นตลิ่งหลายจุดท้ายเขื่อน ทั้งอ่างทอง สิงห์บุรี อยุธยา และชัยนาท ขณะที่บางพื้นที่ในอำเภอสรรพยาเจอน้ำท่วมซ้ำหลังเพิ่งลดลง


