43 ปี "อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" สร้างสุข สู่รอยยิ้ม และความยั่งยืน

โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศนั้น มีส่วนสำคัญต่อการเสริมแผนงานต่าง ๆ ของรัฐบาลและเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง อันเป็นผลจากพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงวางรากฐาน จวบจนปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ครอบคลุมทุกด้าน เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน

ในการดำเนินงานเพื่อสนองพระราชดำริของหน่วยงานต่างๆนั้นหากต่างฝ่ายต่างทำขาดการประสานงานความซ้ำซ้อนอาจเกิดขึ้นเพื่อความสอดคล้องซึ่งกันและกันอันจะบรรลุผลตามแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้รัฐบาลจึงได้จัดระบบการสนองพระราชดำริขึ้นในปพ.ศ.2524โดยออก “ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พ.ศ. 2524” มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2524 โดยกำหนดให้มีองค์กรระดับชาติที่ทำหน้าที่รับผิดชอบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเรียกโดยย่อว่า “สำนักงาน กปร.”

นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครอบคลุมในทุกด้านทั้งแหล่งน้ำ คุณภาพชีวิตของพสกนิกร การสาธารณสุข การศึกษา การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพ และพระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ขึ้น จำนวน 6 แห่ง ในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อทำหน้าที่ศึกษา วิจัย ทดลอง ภายใต้บริบทภูมิประเทศและภูมิสังคม จนประสบความสำเร็จแล้วนำไปขยายผลสู่ประชาชน โดยให้ประชาชนเข้าไปเรียนรู้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ทั้งด้านการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ การแปรรูปผลผลิต ตลอดจนการพัฒนาด้านต่าง ๆ ทั้งดิน น้ำซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลิตเหล่านั้นไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิต

ปัจจุบันมีการขยายผลศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริมากถึง 221 แห่ง กระจายในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2567) เพื่อเป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่หลากหลาย นับตั้งแต่เกษตรผสมผสาน เกษตรทฤษฎีใหม่ การประมง ปศุสัตว์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปจนถึงการแปรรูปและหัตถกรรม และในปี 2567 สำนักงาน กปร. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พัฒนาต่อยอดผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ศูนย์สาขาฯ เกษตรกรขยายผลฯ และผลิตภัณฑ์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้ได้รับเลขที่จดแจ้งมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อย. จำนวนกว่า 70 รายการ ทำให้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น

นอกจากการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการตลาดในภาพรวมทั้งห่วงโซ่คุณค่าแห่งการพัฒนาแล้ว สำนักงาน กปร. ยังได้สนับสนุนด้านช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาฯ ศูนย์สาขาฯ และเกษตรกรขยายผลในพื้นที่ โดยการจัดตั้งอาคารร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตรราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย อาคารสิริพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ จ.จันทบุรี ร้านเลิศพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ จ.สกลนคร ร้านบวรพัฒนภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ จ.เพชรบุรี ร้านพิกุลเกษตรภัณฑ์ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จ.นราธิวาส และร้านพวงคราม ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนฯ จ.ฉะเชิงเทรา

นอกจากนี้สำนักงาน กปร. ยังร่วมมือกันระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา มูลนิธิทันตนวัตกรรมในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการต่อยอดการใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝก และพืชสมุนไพรในการส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟูประชาชนผู้มีปัญหาด้านทันตกรรม อีกด้วย

ในโอกาสครบรอบวันสถาปนา 43 ปี สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ในการประสานงานกับหน่วยงานที่ร่วมสนองงานพระราชดำริ ขอสืบสานพระราชปณิธานด้วยความจงรักภักดี และจักมุ่งมั่นเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท เพื่อร่วมกันพัฒนา ส่งเสริมสร้างโอกาสขยายผลองค์ความรู้ สร้างสุข เปลี่ยนแปลงชีวิตให้มั่นคง สู่รอยยิ้ม ด้วยก้าวย่าง อย่างก้าวหน้า เพื่อความเจริญของสังคมไทยสืบไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธ สถิตในใจไทย ตราบนิจ นิรันดร์

ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรม “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” เพื่อให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่

สานต่อความรู้ตามแนวพระราชดำริ พร้อมส่งมอบรถโมบาย สื่อการสอนสมัยใหม่ มุ่งขยายผลองค์ความรู้สู่เยาวชน และการประยุกต์ใช้ให้เห็นผลอย่างยั่งยืน

สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดพิธีมอบทุนการศึกษา โครงการสานต่อความรู้ตามแนวพระราชดำริ ภายใต้โครงการความร่วมมือเพื่อขยายผลองค์ความรู้ตามแนบพระราชดำริสู่เยาวชน ประจำปี 2568

ต่อยอด “อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” สืบสาน พระราชปณิธาน 198 โครงการ พระมหากรุณาธิคุณ เพื่อปวงชนชาวไทย

พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว นับแต่ทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ตั้งแต่ 13 ตุลาคม 2559 พระองค์ทรงสืบสานพระราชปณิธานบาทพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขอาณาราษฎรมาอย่างต่อเนื่อง

“สายน้ำแห่งพระเมตตา” พลิกชีวิตชาวลุ่มน้ำยม จังหวัดสุโขทัย

พื้นที่ลุ่มน้ำยม หนึ่งในพื้นที่ที่เคยเผชิญทั้งน้ำหลากและแล้งซ้ำซาก ชาวบ้านต่างเฝ้ารอคำตอบจากธรรมชาติว่าจะให้ปีนี้ “รอด”หรือ“ร่วง”ทว่าวันนี้พวกเขาไม่ต้องรอคำตอบจากธรรมชาติอีกต่อไป เพราะ

กปร. เปิดคู่มือ One Plan ยกระดับโครงการพระราชดำริ 17 จังหวัดเหนือ

สำนักงาน กปร. เดินหน้ายกระดับการบริหารและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเชิงพื้นที่ เปิดตัว“คู่มือ One Plan” นำร่อง 3 จังหวัดภาคเหนือ น่าน พิษณุโลก และเชียงใหม่ มุ่งสร้างกลไกการทำงานแบบบูรณาการจากระดับพื้นที่ ลดความซ้ำซ้อน

พระเมตตาพระราชทานฝายวังจระเข้บรรเทาทุกข์ให้ราษฎรในเวลารวดเร็ว

หลายปีที่ผ่านมา เกษตรกรจะทำนาหรือพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ น้ำไม่เพียงพอใช้ เพราะไม่มีฝาย ลำห้วยก็ตื้นเขิน พอได้ยื่นฎีกาเข้าไป หลายหน่วยงานก็ร่วมกันเข้ามาทำงาน ใกล้ประสบความสำเร็จแล้วครับ และช่วงทำนาก็ได้ใช้น้ำ ตอนนี้เห็นผลเลยครับ พี่น้องประชาชนบ้านเราก็มีความดีใจ ยินดีที่ในหลวงของเรามาช่วย นี่คือที่มาของคำว่า พระเจ้าแผ่นดินไม่ทอดทิ้งประชาชนครับ ผมดีใจมากครับ