คัดเลือก Thai Mind Awards องค์กรต้นแบบสร้างสุขภาวะจิต

เพราะ “สุขภาวะทางจิตเป็นเรื่องของทุกคนต้องร่วมมือกัน" ..เมื่อเร็วๆ นี้​ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงร่วมมือกับ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) ประกาศเปิดรับสมัครองค์กรเพื่อเข้าร่วมคัดเลือกสุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต (Thai Mind Awards) ภายใต้โครงการพัฒนากลไกวิชาการสนับสนุนการขับเคลื่อนงานด้านสร้างเสริมสุขภาพจิต โดยเปิดรับทั้งองค์กรขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ จากภาครัฐและเอกชน ที่มีการขับเคลื่อนงานด้านการส่งเสริมสุขภาวะทางจิตที่ดีให้แก่พนักงาน 

ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. เปิดเผยว่า สสส.ดำเนินการด้านสร้างเสริมสุขภาพจิต มุ่งเป้าหมายให้ประชาชนมีสุขภาพจิตดี สอดคล้องกับแผนพัฒนาสุขภาพจิตแห่งชาติฉบับที่ 1 มุ่งเน้นการสร้างเสริมและป้องกันปัญหาสุขภาพจิตทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยแรงงาน จากข้อมูลสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เมื่อเดือนมิ.ย. 2567 พบว่าวัยแรงงานอายุ 20-59 ปี เข้าขอรับบริการเรื่องความเครียด วิตกกังวล ไม่มีความสุขในการทำงาน สูงเป็นอันดับหนึ่ง รวมกว่า 6,337 สาย จากทั้งหมด 8,528 สาย สะท้อนความต้องการวิธีจัดการกับปัญหาสุขภาพจิต

ทั้งนี้ สสส.ร่วมกับ คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดกิจกรรมการคัดเลือกสุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต เพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นเชิงบวก ทั้งด้านการงานและด้านจิตใจของบุคลากร นำไปสู่การยกระดับเป็นต้นแบบองค์กรชั้นนำด้านการส่งเสริมสุขภาพจิตของประเทศ ขยายผลปรับใช้เพื่อพัฒนาสร้างเสริมสุขภาวะทางจิตให้แก่พนักงานองค์กรอื่นๆ ต่อไป “สุขภาวะทางจิตเป็นเรื่องของทุกคนต้องร่วมมือกัน ขอเชิญชวนองค์กรที่สนใจสมัครเข้าร่วมประกวดคัดเลือกเป็นสุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต (Thai Mind Awards) สร้างระบบงานที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาจิตใจของคนทำงาน

"การพัฒนากลไกทางวิชาการสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อความยั่งยืน การทำงานที่จะต้องมีสุขภาพจิตที่ดีควบคู่กับการทำงานที่ใช้ปัญญาสร้างองค์ความรู้ ให้เกิดเป็นนโยบายแพร่ขยายไปถึงคนไทยที่อยู่ในบ้าน ออฟฟิศ  ชุมชน คนที่อยู่ในวัยทำงานต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ  ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้าจนถึงปัญหาฆ่าตัวตาย ทุกองค์กรอยากให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข มีผลงาน  ลดต้นทุน มีการสร้างนวัตกรรมเครื่องมือพัฒนาคัดกรองสุขภาพจิตอย่างเป็นระบบ เรื่องสุขภาพไม่ใช่เรื่องหยูกยาเท่านั้น แต่ยังมีปัจจัยอื่นที่อยู่นอกมือหมอ สภาวะทางกายภาพ สังคม นโยบายภาครัฐที่ส่งผลกระทบทั่วหน้า เมืองไทยมีองค์กรเป็นแสน แต่ก้าวแรกเราจะขยาย 50องค์กรส่งเสริมสุขภาพจิตต้นแบบ เพื่อผลต่อเนื่องไปยังองค์กรอื่นด้วย" ดร.นพ.ไพโรจน์ตอกย้ำ 

ขณะที่ ดร.เจนนิเฟอร์ ชวโนวานิช รองคณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้ร่วมก่อตั้งสถาบัน TIMS เปิดเผยว่า การสำรวจสุขภาวะของคนทำงานและปัจจัยสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กรปี 2566 พบพนักงานมีปัญหาสุขภาพจิต 42.7% ในจำนวนนี้มีภาวการณ์ฝืนทำงานแม้มีปัญหาสุขภาพจิต 27.5% ส่วนใหญ่เกิดจาก 5 สาเหตุ

1.คิดว่าไม่มีใครทำงานแทนได้ 2.มีงานด่วน 3.กลัวผลกระทบกับผลการประเมิน 4.ความจำเป็นด้านการเงิน 5.รู้สึกว่ายังทำไหวไม่จำเป็นต้องหยุดทำงาน ที่สำคัญพบว่า พนักงานต้องการนโยบายการส่งเสริมสุขภาวะทางจิตที่ดีในการทำงาน 6 เรื่อง นั่นคือ 1.เพิ่มสวัสดิการด้านการรักษาสุขภาพกายและใจ  41.7% 2.อบรมให้ความรู้และจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมสุขภาพกายและจิตใจ 6.7% 3.เพิ่มสวัสดิการการลา 13.1% 4.ส่งเสริมการพูดคุยสื่อสารและรับฟังปัญหา 11.3% 5.สร้างบรรยากาศและวัฒนธรรมที่ดีในองค์กร 10.1% 6.เพิ่มสวัสดิการทางการเงิน (ค่าตอบแทน อาหาร โบนัส) 6%

"ประเด็นที่สำรวจคนทำงาน 40% ต้องการเข้าถึงนักจิตวิทยา จิตแพทย์ เพื่อสุขภาพกายใจ 17% อยากให้มีการจัดอบรมสร้างความตระหนักรู้ มีความเข้าใจที่ถูกต้อง 13% อยากให้มีนโยบายกิจกรรมส่งเสริม เพราะทุกวันนี้เราทำงานมากกว่า 11 ชั่วโมง/วัน แม้แต่เวลาเรานอนก็ยังฝันเรื่องงาน พนักงานส่วนหนึ่งต้องการไมโครเบรก หยุดพักในระหว่างงานเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือมีเวลางีบหลังอาหารกลางวัน การแลกเปลี่ยนรับฟังปัญหาซึ่งกันและกัน เพราะคนทำงานไม่ใช่เครื่องจักรที่ต้องทำงานตลอดเวลา การพูดจาดีบนพื้นฐานความเท่าเทียมกัน การเพิ่มเงินเดือน โบนัส หรือการให้สิทธิหลังเลิกงานที่จะไม่ต้องอ่านไลน์ หรือโต้ตอบหลังเวลางานโดยไม่ถูกตัดเงินเดือน" อาจารย์เจนนิเฟอร์เปิดเผยและกล่าวอีกว่า

ข้อที่น่าสังเกตคือ พนักงานบางคนที่ฝืนไปทำงานทั้งๆที่ป่วยทางร่างกาย 50% บางคนฝืนมากกว่า 5 ครั้งในรอบ 1 ปี บางคน 1-2 ครั้งในรอบปี ตัวเลข 20% ฝืนไปทำงานทั้งๆ ที่ร่างกายไม่ไหวแล้ว ด้วยสาเหตุที่ไม่มีใครทำงานแทนได้ บางหน่วยงานเลือก AI มาทำงานในบางเรื่อง งานสำคัญและงานที่จำเป็นต้องใช้คน ถ้าไม่มาทำงานก็จะถูกหักเงินเดือน ไม่ได้รับโบนัส ความรู้สึกที่ผิดอีกทั้งความรับผิดชอบในงาน เมื่อฝืนทำงานต่อไปก็จะส่งผลถึงการหมดไฟในอนาคตได้ ดังนั้นจึงต้องส่งเสริมองค์กรที่สร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับพนักงาน

ผศ.ดร.ประพิมพา จรัลรัตนกุล รองคณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้รับผิดชอบโครงการ Thai Mind Awards กล่าวว่า “เราต้องการให้องค์กรต้นแบบแลกเปลี่ยนข้อมูล พัฒนาการเรียนรู้ร่วมกัน นำองค์ความรู้มาแบ่งปันเพื่อพัฒนาสุขภาวะทางจิต การสร้างเครือข่ายร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้างปัจจัยทำงานมีผลต่อสุขภาวะทางจิต การเยี่ยมชมองค์กรที่มีความโดดเด่นเพื่อยกระดับองค์กรร่วมกันด้วย ยกย่องการทำงานร่วมกันเป็นทีมไม่ใช่ทำงาน One Man Show องค์กรให้ความสำคัญกับการทำงานเพื่อส่วนรวม มีการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน ทุกคนกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น หลอมรวมการทำงานให้มีความสมดุล  เมื่อทำงานอย่างมีความสุขก็ส่งผลให้ครอบครัวมีความสุขและสมดุลด้วย”

องค์กรที่สนใจสมัครเข้าร่วมประกวดคัดเลือกเป็นสุดยอดองค์กรสร้างเสริมสุขภาวะทางจิต (Thai Mind Awards)  ส่งใบสมัครและผลงานเข้าร่วมประกวดมาได้ที่เว็บไซต์ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. ถึง 15 ก.ย. 2567 จำกัดสิทธิ์การรับสมัครเพียง 50 องค์กร โดยจะคัดเลือกผู้ชนะ 5 องค์กรที่มีความโดดเด่นใน 4 มิติภายใต้แนวคิด GRACEและมีสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมสุขภาวะทางจิตที่ดีให้แก่พนักงาน ทุกองค์กรที่เข้าร่วมประกวดจะได้รับประกาศนียบัตรการเข้าร่วม และได้รับผลการประเมินสุขภาวะทางจิตของพนักงานภายในองค์กรของตนเอง ที่ผ่านการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยา ทั้งนี้จะประกาศผลวันที่ 15 พ.ย.และจัดงานรับรางวัลช่วงปลายเดือน พ.ย.


5 มิติเสริมสร้างสุขภาวะทางจิต

ผศ.ดร.ประพิมพา จรัลรัตนกุล รองคณบดีคณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้รับผิดชอบโครงการ Thai Mind Awards ชี้แจงว่าการดูแลพนักงานที่ดี ไม่เพียงเฉพาะแค่สิ่งแวดล้อมทางด้านกายภาพ (Physical Environment) เพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องดูแลสิ่งแวดล้อมทางด้านจิตใจ  (Psychological Environment) ของพนักงานควบคู่ไปด้วย

สิ่งสำคัญของการเสริมสร้างสุขภาวะทางจิตที่ดี ต้องครอบคลุมมิติทั้ง 5 ด้านที่เรียกว่า “GRACE” ประกอบไปด้วย

G : Growth & Development การสนับสนุนด้านการเติบโตและพัฒนาการ

R : Recognition การแสดงออกและการรับรู้ความสามารถและความสำเร็จ

A : All for inclusion การให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วม

C : Care for health & safety การดูแลด้านสุขภาพและความปลอดภัย

E: work-life Enrichment การมีนโยบายด้านความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน เพื่อสร้างความมั่นใจ ความรู้สึกถึงความสำเร็จ พนักงานรู้สึกว่าสามารถเติบโตได้ ถือเป็นแนวทางการพัฒนาที่เสริมสร้างสุขภาวะทางจิตที่ดีให้แก่พนักงานได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“น้ำท่วมหาดใหญ่” สสส. ไม่ทอดทิ้ง! ผนึกกำลังภาคีเครือข่ายฯ เตรียมเปิดโมเดล 3 เฟส ช่วยทันที-ฟื้นบ้าน-สร้างภูมิคุ้มกันภัยพิบัติ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่

สสส.-สถาบันยุวทัศน์ ฯ ผนึกเทศบาลนครเกาะสมุย เดินหน้า “นักเรียนปลอดบุหรี่-บุหรี่ไฟฟ้า” ผ่านสถานศึกษา 4 แห่ง

นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เทศบาลนครเกาะสมุย มียุทธศาสตร์การดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่

เด็กไทยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ถึงเวลามีสติรู้เท่าทันยุค AI

ทุกธุรกิจบนโลกใบนี้ล้วนเริ่มจาก “ความกลัว” ของมนุษย์-กลัวมืดจึงมีหลอดไฟ กลัวมองไม่เห็นจึงมีแว่นตา และในยุคที่โลกย้ายมาอยู่ในจอ ความกลัวรูปแบบใหม่ก็ผุดขึ้นเป็นรายวัน ตั

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย

ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุสมบูรณ์เต็มรูปแบบ!!! สสส. สานพลัง Rocket Media Lab เปิดข้อมูลสถานการณ์ผู้สูงอายุ เตือน 3 ปัจจัยเสี่ยง สุขภาพ-เศรษฐกิจ-ที่อยู่อาศัย ป่วย NCDs สูง ขาดเงินออม แถม 90% บ้านไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต กดดันให้สังคมไทยสู่ภาวะเปราะบาง แนะป้องกันปัญหาสุขภาพระยะยาว พร้อมส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลักดันสู่วัยสูงอายุด้วยความภาคภูมิใจ

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! 'พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT' คว้ารางวัลชนะเลิศ 'Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025'

สสส. เฟ้นสุดยอดนวัตกรรม! “พื้นรองเท้าอัจฉริยะ เพิ่มกิจกรรมทางกาย-สติ๊กเกอร์ลดบุหรี่-ระบบเฝ้าระวังการขับขี่อัจฉริยะ AI-IoT” คว้ารางวัลชนะเลิศ “Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2025” เติมเต็ม “จักรวาลสุขภาวะ” เยาวชน-สตาร์ทอัพ-ภาคีเครือข่าย-ประชาชนทั่วไป 178 ทีมทั่วประเทศ ส่งไอเดียประชันนวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ-ลดป่วย NCDs “รองนายกฯ โสภณ” ปลื้มผลงาน 7 ปี สสส. ปั้นนวัตกรไทย 1,660 ทีม พัฒนานวัตกรรมสุขภาพตอบโจทย์สังคม สร้างสภาพแวดล้อมเอื้อคนไทยมีสุขภาวะดีอย่างยั่งยืน

เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ มหกรรมแนะแนวการศึกษาและอาชีพสำหรับคนพิการแห่งเดียวในประเทศไทย

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) เปิดพื้นที่ให้เยาวชนพิการเข้าถึงข้อมูลการศึกษาต่อ ค้นพบศักยภาพ พร้อมสร้างโอกาสการมีงานทำที่มั่นคงในอนาคต ผ่านงาน เยาวชนพิการ กทม. เรียนดี มีงานทำ