วันที่ 9 ธันวาคม 67 เวลา 13.30 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น “การเพิ่มสิทธิประโยชน์เมื่อปรับเพดานค่าจ้าง” โดยมี นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน คณะกรรมการประกันสังคม นักวิชาการ ผู้แทนพรรคการเมือง ผู้แทนสื่อมวลชน และผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วม ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน อาคารกระทรวงแรงงาน เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กองทุนประกันสังคมจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นทุนใช้จ่ายสําหรับให้ผู้ประกันตนได้รับประโยชน์ทดแทนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ซึ่งเป็นเวลา 34 ปีแล้ว ที่กองทุนประกันสังคมอยู่เคียงข้างผู้ประกันตน เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตน ดังตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ สิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ในปัจจุบันมีผู้ได้รับบำนาญจากสำนักงานประกันสังคม จำนวน 792,149 คน ซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญตลอดชีวิต ทั้งนี้ การจัดเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมได้กำหนดเพดานค่าจ้างขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 33 ไว้ไม่เกิน 15,000 บาท ตั้งแต่ พ.ศ. 2534 และไม่เคยมีการแก้ไขถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 34 ปี สำนักงานประกันสังคมได้ตระหนักถึงความเพียงพอและความมั่นคงของสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกันตน จึงได้ดำเนินการ จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น “การเพิ่มสิทธิประโยชน์เมื่อปรับเพดานค่าจ้าง” ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา ผู้บริหารกระทรวงแรงงานและผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้แทนสภาองค์การนายจ้าง – องค์การลูกจ้าง ผู้แทนจากพรรคการเมือง นายจ้างและลูกจ้างทั่วไป ผู้แทนสื่อมวลชน ถึงการปรับเพดานค่าจ้างในรูปแบบขั้นบันได 3 ครั้ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อนายจ้างและผู้ประกันตน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ในปี 2569 – 2571 ปรับเป็น 17,500 บาท
- ในปี 2572 – 2574 ปรับเป็น 20,000 บาท
- และขั้นสุดท้าย ในปี 2575 เป็นต้นไป ปรับเป็น 23,000 บาท
ด้าน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมได้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ ที่ไม่ได้อิงกับฐานเพดานค่าจ้าง ให้แก่ผู้ประกันตนตลอดมา เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ เช่น กรณีคลอดบุตร ในปี พ.ศ. 2538 ได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินจำนวน 4,000 บาท/ครั้ง ในปัจจุบันเพิ่มเป็นเงินจำนวน 15,000 บาท/ครั้ง เงินสงเคราะห์บุตร ในปี พ.ศ. 2541 ได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินจำนวน 150 บาท/เดือน/บุตร 1 คน สูงสุด 2 คน ในปัจจุบันเพิ่มเป็น 800 บาท/เดือน/บุตร 1 คน สูงสุด 3 คน และในกรณีตาย เงินค่าทำศพ ในปี พ.ศ. 2538 จ่ายเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท ปัจจุบันเงินเพิ่มเป็นค่าทำศพ 50,000 บาท เป็นต้น ส่วนสิทธิประโยชน์ที่อิงกับฐานเพดานค่าจ้าง ไม่ว่าจะเป็น เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ กรณีว่างงาน เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร เงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต และเงินบำเหน็จ – บำนาญชราภาพ เมื่อไม่มีการปรับฐานเพดานค่าจ้าง ทำให้ผู้ที่มีค่าจ้างมากกว่า 15,000 บาท ถูกจำกัดสิทธิประโยชน์ไว้ และไม่สอดคล้องกับค่าจ้างจริงในปัจจุบัน จึงสมควรปรับปรุงฐานเพดานค่าจ้างให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ อันเป็นที่มาของการประชุมรับฟังความคิดในวันนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ประกันตนต่อไปในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประกันสังคม โชว์เจ๋ง!! การบริหารการลงทุนกองทุนประกันสังคม ปี 2567 ภายใต้นโยบายเชิงรุกของ รมว.แรงงาน “พิพัฒน์” เพิ่มผลตอบแทนที่มั่นคงเพื่อผู้ประกันตน
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานการบริหารการลงทุนกองทุนประกันสังคมในปี 2567 ภายใต้นโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนให้กองทุนประกันสังคม
‘ประกันสังคม’ แจงขั้นตอน ‘เงินชราภาพ’ เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน โพสต์ข้อความว่า ใครมีคำถามคาใจ สำนักงานประกันสังคม พร้อมตอบทุกข้อสงสัย
ประกันสังคม แจงผลงานบอร์ดแพทย์ ยกระดับการรักษา - เพิ่มสิทธิดูแลผู้ประกันตน
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวถึงการดำรงตำแหน่ง รวมถึงผลงานในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคมว่ากระทรวงแรงงานได้แต่งตั้งคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคม ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533
ประกันสังคม เข้ม นายจ้าง แจ้งเข้า-ออกลูกจ้าง ล่าช้า ระวังโทษ!ตามกฎหมายทั้งจำทั้งปรับ
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า มีนายจ้างแจ้งลูกจ้างเข้าทำงานและแจ้งออกจากงานล่าช้าไม่เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้ลูกจ้างไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ เสียสิทธิที่พึงได้รับ
ประกันสังคม เตือนนายจ้าง อย่าลืม!! ชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนประจำปี 2568 ภายในวันที่ 31 มกราคม 2568 และรายงานค่าจ้างประจำปี 2567 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานประกันสังคมมีการจัดเก็บเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนจากนายจ้างเป็นรายปี โดยได้จัดส่งใบประเมินเงินสมทบประจำปี 2568 พร้อมแบบแสดงเงินค่าจ้างประจำปี 2567 ให้นายจ้างทั่วประเทศ เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา
ประกันสังคม มอบเงินช่วยเหลือ ผู้รับเหมา ผู้ประกันตนที่เสียชีวิตเหตุอาคารถล่ม ปราจีนบุรี แล้ว “พิพัฒน์” กำชับดูแลสิทธิประโยชน์ให้ทายาท
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ เหตุการณ์อาคารโรงงานถล่มในนิคมอุตสาหกรรม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ทับคนงานของผู้รับเหมาที่กำลังปฏิบัติงาน เสียชีวิต 5 ราย พร้อมมอบให้สำนักงานประกันสังคม