บัตรเครดิต เพิ่มความคุ้มค่าด้วยสิทธิพิเศษที่คุณเลือกเองได้

บัตรเครดิตไม่ได้เป็นเพียงแค่บัตรสำหรับรูดจ่ายเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมคะแนนแลกของรางวัล ส่วนลดพิเศษ หรือโปรโมชันต่าง ๆ สำหรับใครที่สนใจอยากทำบัตรเครดิตสักใบ เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงทุกเรื่องที่ควรรู้ก่อนสมัครกันว่ามีอะไรบ้าง พร้อมแนะนำเทคนิคดี ๆ ในการเลือกบัตรให้ตอบโจทย์กับการใช้งานเพื่อเพิ่มความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

รู้จักบัตรเครดิตแต่ละประเภท เลือกบัตรที่ใช่ ให้คุณใช้อย่างคุ้มค่า

สำหรับมือใหม่ที่กำลังศึกษาเรื่องบัตรเครดิต อย่าเพิ่งให้ความสนใจเฉพาะสมัครบัตรเครดิตออนไลน์ที่แจ้งผลการอนุมัติเร็วเท่านั้น เพราะก่อนที่จะสมัครบัตรเครดิต เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าบัตรมีกี่ประเภท และจะเลือกบัตรอย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้จ่ายของเรามากที่สุด โดยจะขอแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 

การใช้งาน 

• บัตรสำหรับใช้งานทั่วทั้งโลก หรือ International Credit Card 

บัตรสำหรับใช้งานทั่วทั้งโลกสามารถนำไปใช้ที่ประเทศไหนก็ได้ ช่วยให้การคำนวณค่าใช้จ่ายในสกุลเงินต่าง ๆ สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องระวังค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินเช่นกัน 

• บัตรสำหรับใช้งานในประเทศ หรือ Local Credit Card 

บัตรเครดิตสำหรับใช้งานในประเทศจะช่วยให้ควบคุมการใช้จ่ายได้ง่าย เหมาะสำหรับใช้งานในประเทศเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน ค่าธรรมเนียมรายปีก็จะถูกกว่า เมื่อเทียบกับบัตรสำหรับใช้งานทั่วโลก 

• บัตรสำหรับลูกค้าเฉพาะแบรนด์ หรือ Private Label Card 

ใครที่เป็นลูกค้าประจำแบรนด์ไหนและกำลังตัดสินใจว่าจะสมัครบัตรเครดิตไหนดี ขอแนะนำให้ตรวจสอบดูก่อนว่าแบรนด์หรือร้านที่เราซื้อสินค้าเป็นประจำมีบัตรเฉพาะหรือไม่ เพราะบัตรเหล่านี้จะมีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะนั่นเอง 

สิทธิประโยชน์ 

• บัตรเครดิต Cash Back หรือบัตรเครดิตที่ได้รับเครดิตเงินคืน 

เป็นหนึ่งในบัตรเครดิตที่มีสิทธิประโยชน์ค่อนข้างได้รับความนิยม เมื่อเรามีการใช้จ่ายตรงตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด ก็จะได้รับเครดิตเงินคืนกลับเข้าสู่บัตร เหมือนกับการได้รับส่วนลดนั่นเอง 

• บัตรเครดิตสะสมแต้ม 

หากคุณยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะสมัครบัตรเครดิตใบแรกอันไหนดี แนะนำให้มองหาบัตรสะสมแต้มเอาไว้ เพราะเมื่อมีการรูดใช้จ่าย จะเปลี่ยนยอดใช้จ่ายของเราเป็นคะแนนสะสม ซึ่งนำไปแลกรับสิทธิพิเศษหรือส่วนลดที่เข้าร่วมโปรโมชันกับธนาคารได้มากมาย   

เหตุผลที่ควรมีบัตรเครดิตไว้ใช้ มีติดกระเป๋าไว้อุ่นใจกว่าชัวร์ 

เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าทำไมคนวัยทำงานส่วนใหญ่ถึงมีบัตรเครดิต เราเลยจะพาทุกคนไปดูกันว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่คุณควรมีบัตรติดกระเป๋าเอาไว้ เพื่อให้การใช้จ่ายของคุณคุ้มค่าขึ้นกว่าเดิม

1. มีคะแนนสะสม เป็นสิทธิประโยชน์ที่มีอยู่ในบัตรแทบทุกใบ โดยเมื่อมีการใช้จ่ายก็จะเปลี่ยนยอดให้กลายเป็นคะแนนสะสมเพื่อนำเอาไปแลกรับเป็นส่วนลด เครดิตเงินคืน หรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ ได้อีกมากมาย 
2. ได้รับเครดิตเงินคืน เป็นโปรโมชันที่ผู้สมัครบัตรเครดิตไม่ควรพลาด เพราะเมื่อไหร่ที่ใช้เงินตามเงื่อนไข เราจะได้เครดิตเงินคืนจากยอดใช้จ่ายกลับเข้าสู่บัญชีบัตร ทำให้ทุกการใช้จ่ายของคุณประหยัดมากขึ้นกว่าเดิม 
3. แลกไมล์สะสมได้ ใครเป็นสายเดินทางต่างประเทศ อยากประหยัดค่าใช้จ่าย นอกจากจะได้ทั้งคะแนนสะสมและเครดิตเงินคืนแล้ว บัตรเครดิตบางใบยังสามารถนำยอดใช้จ่ายมาแลกไมล์สะสมเพื่อนำไปแลกบัตรโดยสารเครื่องบินได้อีกด้วย 
4. ใช้จ่ายปลอดภัยขึ้น ถ้าต้องจ่ายเงินซื้อของก้อนใหญ่ จะโอนเงินหรือพกเงินสดติดตัวมาก ๆ ในยุคนี้ก็คงไม่ปลอดภัย คงจะดีกว่าหากเราสามารถจ่ายผ่านบัตรได้ ไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงใด ๆ ที่ไม่มีใครอยากเจอ 
5. ชำระเต็มจำนวน ตรงเวลา ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย การมีบัตรเครดิต สิ่งที่เราต้องมีควบคู่ไปด้วย คือ วินัยทางการเงิน คุณควรชำระค่าบัตรเครดิตให้ตรงเวลา และชำระเต็มจำนวน ไม่ชำระขั้นต่ำ การชำระขั้นต่ำหนี้บัตรเครดิต จะทำให้เราก่อหนี้โดยไม่รู้ตัว จากดอกเบี้ยบัตรเครดิต ซึ่งธนาคารได้มีกำหนดไว้สำหรับอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ที่ 16% ต่อปี 
6. สร้างเครดิตทางการเงิน ใครมีแผนอยากกู้เงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อบ้านหรือรถยนต์ ประวัติเครดิตบูโรถือว่ามีความสำคัญมาก หากเราใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัยก็จะเป็นการสร้างประวัติทางการเงินที่ดี ช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติเมื่อยื่นขอสินเชื่อในอนาคตได้ (การพิจารณาสินเชื่อ ขึ้นอยู่ตามเงื่อนไขและการพิจารณาของแต่ละธนาคาร)

บัตรเครดิตกับเทคนิคการเลือกให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากที่สุด 

การจะมีบัตรเครดิตสักใบ ไม่ใช่ว่าจะต้องรีบสมัครบัตรเครดิตเลย เพราะหากเราขอบัตรเครดิตที่ไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย ก็อาจใช้ได้ไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร ในหัวข้อนี้เราลองมาดูกันว่าสำหรับมือใหม่จะมีวิธีการเลือกบัตรอย่างไรให้ตอบโจทย์ เหมาะสม และคุ้มค่ากับคุณมากที่สุดกัน 

• ขั้นตอนการสมัครไม่ยุ่งยาก ควรสมัครบัตรเครดิตที่ขั้นตอนการสมัครง่าย ไม่ซับซ้อน สะดวกสบาย และรวดเร็ว อย่างเช่นการสมัครบัตรเครดิต ttb ออนไลน์ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง 
• สมัครบัตรตามไลฟ์สไตล์ หากเป็นคนเดินทางบ่อยก็ควรสมัครบัตรสายท่องเที่ยวสะสมไมล์ได้ เป็นสายกินก็ต้องเน้นบัตรที่ให้ส่วนลดหรือสะสมแต้มร้านอาหารได้ ก่อนตัดสินใจสมัครบัตรเครดิต จึงควรเลือกบัตรที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรา เพราะจะช่วยให้การใช้จ่ายคุ้มค่าขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง 
• เลือกตามประเภทสิทธิประโยชน์ของบัตร สิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตจะประกอบไปด้วย 2 ประเภทหลัก ๆ นั่นก็คือประเภทสะสมแต้มและเครดิตเงินคืน โดยต้องพิจารณาว่าบัตรประเภทไหนที่เหมาะกับเราและช่วยให้ประหยัดได้มากขึ้นกว่าเดิม 
• ตรวจสอบคุณสมบัติให้ดี โดยควรตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครบัตรเครดิตตามที่ธนาคารกำหนด เพื่อเลือกบัตรให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของตัวเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสได้รับการอนุมัติมากขึ้นกว่าเดิม
• เช็กความคุ้มค่าของโปรโมชัน นอกจากเราจะเลือกบัตรที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์แล้ว โปรโมชันสมัครบัตรเครดิตเองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องค่าธรรมเนียม ควรตรวจสอบว่ามีค่าธรรมเนียมแรกเข้าเท่าไหร่ มีค่าธรรมเนียมรายปีหรือไม่ เราจะใช้สิทธิพิเศษได้คุ้มค่ากับค่าธรรมเนียมที่เสียไปมากน้อยแค่ไหน 

อยากสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน ต้องศึกษาคุณสมบัติผู้สมัครให้ดี 

หากคุณเริ่มสนใจอยากมีบัตรเครดิตเป็นของตัวเองสักใบ สิ่งสำคัญที่เราต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจทําบัตรเครดิตก็คือ เรามีคุณสมบัติตรงตามที่สถาบันการเงินนั้น ๆ กำหนดหรือไม่ เพื่อป้องกันการสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านนั่นเอง โดยทั่วไปแล้วคุณสมบัติผู้สมัครบัตรเครดิต มีดังนี้

• มีเงินเดือนหรือรายได้ตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน 
• มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปจนถึง 70 ปี
• มีอายุการทำงานกับที่ทำงานปัจจุบันตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป 

สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่าจะสมัครบัตรเครดิตออนไลน์หรือที่สาขาธนาคาร ก็สามารถตรวจสอบเงื่อนไขและคุณสมบัติผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตนั้น ๆ ก่อนได้ 

สมัครบัตรเครดิตด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ให้ผ่านฉลุย 

สิ่งต่อมาที่เราต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการมีบัตรเครดิตก็คือขั้นตอนการสมัครเป็นยังไง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีขั้นตอนการสมัครบัตรเครดิต ดังนี้

1. เตรียมเอกสารให้พร้อม หลังจากที่เราเลือกได้แล้วว่าจะสมัครบัตรเครดิตธนาคารไหนดีหรือสมัครบัตรเครดิตอะไรดี ต่อมาก็คือศึกษาว่าสถาบันการเงินที่เราจะสมัครต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง จากนั้นก็เตรียมเอกสารให้พร้อม ลงชื่อสำเนาถูกต้องให้ครบทุกหน้า 
2. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้อง หากคุณสมัครที่สาขาธนาคารให้กรอกข้อมูลลงในเอกสารอย่างถูกต้องและครบถ้วน ส่วนใครที่สมัครบัตรเครดิตผ่านแอปก็สามารถกรอกข้อมูลตามช่องที่กำหนดเอาไว้ได้เลย อย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งก่อนส่งเอกสาร เพื่อให้ขั้นตอนการพิจารณารวดเร็วขึ้นกว่าเดิม 
3. รอผลการอนุมัติบัตร ไม่ว่าคุณจะสมัครบัตรเครดิตแบบไม่มีสลิปเงินเดือนหรือบัตรประเภทอื่น ๆ ธนาคารจะใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติประมาณ 7-14 วัน จากนั้นจะมีการโทรแจ้งผลการอนุมัติ หากได้รับการอนุมัติก็จะมีการส่งบัตรมาให้ตามที่อยู่ที่เราระบุไว้ จากนั้นก็สามารถเปิดใช้งานได้เลย 

บัตรเครดิตใบไหนดี? แนะนำบัตรเครดิตใบแรกที่น่าสนใจ มือใหม่ต้องห้ามพลาด!

สรุปแล้ว บัตรเครดิตคือบัตรที่เราสามารถใช้จ่ายแทนเงินสดได้ แล้วค่อยชำระคืนภายหลังตามระยะเวลาที่กำหนด หากชำระเต็มจำนวนก็จะไม่มีดอกเบี้ย แต่หากชำระไม่ครบหรือล่าช้าก็จะมีการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม บัตรเครดิตจึงเป็นทั้งตัวช่วยทางการเงินที่สะดวกสบาย ทำให้การใช้จ่ายง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าไม่ระวังก็อาจกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาหนี้สินได้เช่นกัน การเลือกบัตรจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก 

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะสมัครบัตรอะไรดีที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ เราขอแนะนำบัตรเครดิต ttb so fast (ทีทีบี โซ ฟาสต์) เพราะเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ทุกยอดการใช้จ่าย 10 บาท รับ 1 คะแนน สามารถสะสมเพื่อนำเอาไปแลกคะแนนรับเครดิตเงินคืนได้สุดคุ้ม สูงสุดถึง 12% กับร้านค้าโปรโมชันที่ร่วมรายการ ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถผ่อนด้วยดอกเบี้ย 0% ยาวนานสูงสุด 3 เดือนทุกรายการ เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาท/เซลล์สลิปกับบริการ ttb so goood ให้คุณได้รับความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุจากการเดินทาง ฟรี วงเงินสูงสุด 6 ล้านบาท เมื่อชําระค่าโดยสารยานพาหนะสาธารณะผ่านบัตรเครดิต ที่สำคัญคือฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี 

สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตรเครดิต ttb so fast (ทีทีบี โซ ฟาสต์) สามารถดูรายละเอียดผ่านทางเว็บไซต์ https://www.ttbbank.com/link/sebl-24/thaipost/wdec/credit-card-sofast หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ttb contact center 1428 

*เงื่อนไข และการพิจารณาบัตรเครดิตเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี