ประกันสังคม เตือนนายจ้าง อย่าลืม!! ชำระเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนประจำปี 2568 ภายในวันที่ 31 มกราคม 2568 และรายงานค่าจ้างประจำปี 2567 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานประกันสังคมมีการจัดเก็บเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนจากนายจ้างเป็นรายปี โดยได้จัดส่งใบประเมินเงินสมทบประจำปี 2568 พร้อมแบบแสดงเงินค่าจ้างประจำปี 2567 ให้นายจ้างทั่วประเทศ เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งนายจ้างมีหน้าที่ชำระเงินสมทบดังกล่าว ภายในเดือนมกราคม 2568 พร้อมรายงานค่าจ้างที่จ่ายจริงของปีที่ผ่านมา ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 หากผลการรายงานค่าจ้างที่จ่ายจริงทั้งปีรวมกัน สูงกว่า ค่าจ้างที่ประเมินไว้ต้นปี นายจ้างจะต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่มเติมภายในเดือนมีนาคม 2568 หากผลการรายงานค่าจ้างที่จ่ายจริงทั้งปีรวมกัน ต่ำกว่า ค่าจ้างที่ประเมินไว้ต้นปี สำนักงานประกันสังคมจะดำเนินการตรวจสอบและคืนเงินสมทบหรือนำไปหักกับเงินสมทบที่ต้องชำระในครั้งต่อไป



ทั้งนี้ นายจ้างสามารถชำระเงินสมทบประจำปี 2568 ได้หลายช่องทาง ได้แก่ 1. ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารและหน่วยบริการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เคาน์เตอร์เซอร์วิส 2.ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) บนเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม (www.sso.go.th) ผ่านธนาคาร/หน่วยบริการ ที่สามารถรับชำระเงินสมทบพร้อมเงินเพิ่มตามกฎหมาย (ถ้ามี) ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคารดอยซ์แบงก์ ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส และที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11) 3. ชำระเป็นเงินสด หรือส่งเช็คเงินสด ทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนตอบรับ หรือส่งธนาณัติสั่งจ่ายไปที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา

นอกจากนี้ นายจ้างจะต้องรายงานค่าจ้างประจำปีกองทุนเงินทดแทน ปี 2567 ต่อสำนักงานประกันสังคม โดยกรอกข้อมูลจำนวนลูกจ้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 และจำนวนค่าจ้างที่จ่ายจริงให้กับลูกจ้างทั้งปีรวมกัน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งปัจจุบัน สำนักงานประกันสังคมมีช่องทางการรายงานค่าจ้างกองทุนเงินทดแทนประจำปี ถึง 2 ช่องทาง ได้แก่ 1. รายงานค่าจ้างกองทุนเงินทดแทน (กท.20 ก) ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา หรือส่งทางไปรษณีย์ 2.รายงานค่าจ้างกองทุนเงินทดแทน (กท.20 ก) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-wage) โดยนายจ้างสามารถลงทะเบียนขอทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ต และเข้าสู่ระบบบริการสถานประกอบการ (e-Service) บนเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม (www.sso.go.th) เลือกเมนูกองทุนเงินทดแทน และเลือกหัวข้อ e-wage ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยไม่ต้องส่งแบบแสดงเงินค่าจ้างประจำปีกองทุนเงินทดแทน (กท.20 ก) ประจำปี 2567 ไปยังสำนักงานประกันสังคม ทั้งนี้ นายจ้างสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาที่ท่านสะดวก หรือโทรสายด่วน 1506 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกันสังคม ย้ำ นายจ้างอย่าลืม “รายงานค่าจ้าง” ของปี 2567 ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นี้

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมกล่าวเตือนนายจ้างถึงหน้าที่ที่ห้ามละเลยเพื่อสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง คือ การรายงานค่าจ้างประจำปีกองทุนเงินทดแทน เป็นการรายงานค่าจ้างที่จ่ายจริงให้กับลูกจ้างทั้งหมดในปีที่ผ่านมาต่อสำนักงานประกันสังคม ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี หากค่าจ้างที่รายงานสูงกว่าที่ประเมินไว้ต้นปี

ประกันสังคม เผยความสำเร็จการดำเนินงานบริหารการลงทุนกองทุนเงินทดแทน ปี 2567 เพิ่มผลตอบแทนถึง 8 หมื่นกว่าล้าน สร้างเสถียรภาพการจ่ายประโยชน์ทดแทนที่มั่นคง - ยั่งยืน เพื่อลูกจ้าง

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เผยผลการดำเนินงานการบริหารลงทุนกองทุนเงินทดแทนในปี 2567 ว่า ภายใต้นโยบายสำคัญของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งเน้นการจัดการบริหารงานเพิ่มผลตอบแทนของกองทุนเงินทดแทน เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงินและรองรับการจ่ายประโยชน์ทดแทนให้กับลูกจ้าง

"สิรภพ" ลุยเบตง เปิดงานสมโภชและแห่เจ้า มูลนิธิอำเภอเบตงประจำปี68 เสริมศิริมงคลพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน

นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานสมโภชและแห่เจ้ามูลนิธิ อ.เบตง ประจำปี68 โดยมีนายอิสสะมาแอ ยาโกะ นายอำเภอเบตงจ.ยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง หัวหน้าส่วนราชการ ประธาน คณะกรรมการ ตัวแทนสมาคมต่างๆ

“พิพัฒน์”ใส่ใจความปลอดภัย จับมือ 18 สถานประกอบกิจการยักษ์ใหญ่ ขับเคลื่อนแคมเปญ “Safety Culture Together”

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามปฏิญญาความปลอดภัยว่าด้วยการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย ระหว่างกระทรวงแรงงาน กับผู้บริหารสถานประกอบกิจการ 18 แห่ง ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 เพื่อร่วมขับเคลื่อนแคมเปญ “Safety Culture Together”

“พิพัฒน์” ตั้งเป้า ส่งแรงงานไทยทำงานต่างประเทศ 200,000 คน 150 ประเทศทั่วโลก

วันที่ 31 มกราคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายด้านการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศ ประจำปี 2568 โดยมีนายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์