"บ้านเปลี่ยนป่า น้ำไผ่เมืองแห่งความสุข"
วันที่ 13-15 มกราคม 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ร่วมกับชุมชนตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดเวที "ถอดบทเรียนบ้านมั่นคงชนบทตำบลน้ำไผ่ บ้านเปลี่ยนป่า น้ำไผ่เมืองแห่งความสุข" เพื่อสรุปผลการดำเนินงาน พร้อมกำหนดแผนพัฒนาในอนาคตของโครงการบ้านมั่นคงชนบทที่สร้างคุณภาพชีวิตให้กับตำบลน้ำไผ่
ชุมชนตำบลน้ำไผ่ได้นำเสนอเรื่องราวของโครงการบ้านมั่นคงชนบทที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตให้กับ 378 ครัวเรือน พร้อมเปิดเผยโมเดลแห่งความสำเร็จที่ชี้ให้เห็นว่า “การพัฒนาที่ยั่งยืน เริ่มต้นจากความร่วมมือของคนในชุมชน”
พิธีมอบ “บ้านมั่นคงชนบทตำบลน้ำไผ่ 378 ครัวเรือน”
บ้านเปลี่ยนป่า น้ำไผ่เมืองแห่งความสุข” บ้านมั่นคงชนบทตำบลน้ำไผ่
ล่าสุดวันที่ 15 มกราคม 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ร่วมกับขบวนองค์กรชุมชน จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดพิธีมอบ “บ้านมั่นคงชนบทตำบลน้ำไผ่ 378 ครัวเรือน” พร้อมมอบลานอเนกประสงค์ศูนย์กลางกิจกรรมในชุมชน โดยมี นางสาวเฉลิมศรี ระดากูล รองผู้อำนวยการ พอช. นายกวิน แว่นแก้ว ปลัดอาวุโสอำเภอน้ำปาด นายเกิดพงษ์ โยหงส์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ เป็นประธานร่วมในพิธี พร้อมด้วยภาคีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องชาวชุมชนตำบลน้ำไผ่ เข้าร่วมกว่า 400 คน ณ ลานอเนกประสงค์ศูนย์กลางกิจกรรมในชุมชนหมู่1 ต.น้ำไผ่ อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์

นางสาวเฉลิมศรี ระดากูล รองผู้อำนวยการ พอช. กล่าวว่า พอช.สนับสนุนให้พี่น้องตำบลน้ำไผ่ ให้มีความมั่นคงในเรื่องที่อยู่อาศัย ชุมชนได้สํารวจข้อมูลเรื่องที่ดิน ใช้ที่ดินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะรักษาป่า พื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต จากบทเรียนนี้ทําให้เห็นว่า โครงการบ้านมั่นคงชนบท ตําบลน้ําไผ่ ได้สร้างคน ที่เห็นก็คือ เกิดแกนนําเครือข่ายสภาองค์กรชุมชน แกนนําในระดับหมู่บ้าน คนน้ำไผ่สามารถกําหนดอนาคตด้วยพี่น้องในตําบลเอง
นางสาวเฉลิมศรี กล่าวต่อ ที่เห็นการเปลี่ยนแปลงทราบว่าที่นี่เมื่อก่อนปลูกข้าวโพดร้อยเปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันเป็นการรักษาป่า ปลูกป่า ทำเกษตรอินทรีย์ ทําให้เกิดป่าผสมผสาน สามารถที่จะสร้างอาชีพสร้างรายได้ สามารถที่จะกําหนดราคาผลผลิตโดยชุมชนเองได้จากที่เราต่างคนต่างขายอันนี้คือพลังของพี่น้องที่รวมกลุ่มกัน สิ่งที่เปลี่ยนไปคือพี่น้องมีบทบาทมีอํานาจในการต่อรอง ไม่ใช่ต่างคนต่างขาย อันนี้คือพลังของการรวมกลุ่มกัน เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจเลยทําไมหนี้สินถึงลดมีทุนเพิ่ม พร้อมทั้งมีการจัดการขยะทั้ง 8 หมู่บ้าน
ระบบส่งน้ำขึ้นเขา การจัดการน้ำในชุมชน
สุดท้ายเรื่องการจัดการน้ำ น้ำที่จะใช้แต่ก่อนต้องไปใช้วิธีเข็นไปอาบ ใช้อุปโภคบริโภค แต่ปรากฏว่าตอนนี้สามารถจัดการน้ำได้ โดยการเอาน้ำ สามารถที่จะมีระบบดูแลกันเองได้ นี่คือพลังในการแก้ไขปัญหาที่ทุกคนมีส่วนร่วม อันนี้คือความสําเร็จของพี่น้องตำบลน้ำไผ่ ที่สําคัญความสําเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเราไม่ได้ความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ชุมชนเป็นหลักในการพัฒนา นางสาวเฉลิมศรี กล่าวในตอนท้าย
ถอดบทเรียน สู่แผนพัฒนาอนาคต
เริ่มต้นด้วยการถอดบทเรียน "น้ำไผ่ใจสู้ ดูแลกัน" โดยมีการย้อนรอยเรื่องราวความสำเร็จของชุมชนผ่านการเล่าเรื่องและแลกเปลี่ยนความรู้จากชาวบ้าน นอกจากนี้ยังมีการวางแผนพัฒนา 5 ปี (2568-2573) ซึ่งเน้นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในชุมชน
จัดเวที "ถอดบทเรียนบ้านมั่นคงชนบทตำบลน้ำไผ่
จาก “ป่ารกร้าง” สู่ “บ้านมั่นคง”: จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง
กว่า 10 ปีที่แล้ว พื้นที่ตำบลน้ำไผ่เคยเป็นป่ารกร้างที่มีชุมชนกระจัดกระจายและขาดโอกาสในการพัฒนา แต่ด้วยความมุ่งมั่นของชาวบ้านและการสนับสนุนจาก พอช. ทำให้โครงการบ้านมั่นคงชนบทเกิดขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อจัดการที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้มั่นคง “การเปลี่ยนแปลงเริ่มจากการรวมตัวของคนในพื้นที่ เราร่วมกันวางแผน ตั้งเป้าหมาย และทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาชุมชนของเราให้ดีขึ้น”
เกษตรอินทรีย์วิถีตำบลน้ำไผ่
ทัวร์ “บ้านเปลี่ยนป่า” สัมผัสโมเดลแห่งความสุข
"โคกหนองนาฟาร์ม สุดเขต" สถานที่ที่แสดงถึงแนวคิดการพัฒนาที่ดินอย่างยั่งยืน ชาวบ้านได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการจัดการที่อยู่อาศัยและที่ดิน พร้อมทัวร์สำรวจจุดสำคัญในชุมชน ได้แก่ ถนนร่องล้อ (ม.6): การพัฒนาถนนที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่น กลุ่มอาชีพตรงใจ (ม.3): แนวทางพัฒนาอาชีพที่ตอบโจทย์ตลาดและศักยภาพของชุมชน ระบบส่งน้ำขึ้นเขา (ม.1): ตัวอย่างความสำเร็จของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ช่วงเย็นยังมีงานสานสัมพันธ์พี่น้องเครือข่ายที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ผ่านกิจกรรมแลกของขวัญและการแสดงจากชุมชน
ทัวร์ “บ้านเปลี่ยนป่า”
บทเรียนจากน้ำไผ่: ความสำเร็จที่เกิดจากการมีส่วนร่วม "น้ำไผ่ใจสู้ ดูแลกัน" ที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังความร่วมมือใน 5 ด้านหลัก ได้แก่:
- การพัฒนาที่อยู่อาศัย: บ้านมั่นคง 378 หลัง ถูกสร้างขึ้นจากความร่วมมือของชาวบ้าน
- การจัดการทรัพยากรน้ำ: ระบบส่งน้ำขึ้นเขา (ม.1) ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่สูง
- การพัฒนาทางเศรษฐกิจ: กลุ่มอาชีพตรงใจ (ม.3) ผลิตสินค้าชุมชนที่มีคุณภาพและตลาดรองรับ
- การพัฒนาสาธารณูปโภค: ถนนร่องล้อ (ม.6) เป็นตัวอย่างของโครงสร้างพื้นฐานที่ชาวบ้านพัฒนาร่วมกัน
- การสร้างพื้นที่สีเขียว: โคกหนองนาฟาร์ม สุดเขต แสดงถึงการฟื้นฟูป่าให้กลับมาอุดมสมบูรณ์
กลุ่มอาชีพตรงใจ
บทสรุป: น้ำไผ่ คือต้นแบบของการพัฒนาที่แท้จริง
โครงการบ้านมั่นคงชนบทตำบลน้ำไผ่ไม่เพียงเปลี่ยนชีวิตของผู้คนในชุมชน แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้กับพื้นที่อื่นๆ ที่กำลังเผชิญความท้าทายในลักษณะเดียวกัน “น้ำไผ่ไม่ใช่แค่ชุมชนแห่งความสุข แต่คือตัวอย่างของการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ทุกพื้นที่สามารถเรียนรู้และต่อยอดได้”
ถนนร่องล้อ
นี่คือการพิสูจน์ว่าความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยใช้พื้นที่เป้นตัวตั้งคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่แท้จริง และน้ำไผ่เป็น1ในพื้นที่ต้นแบบที่ชัดเจน สำหรับการสร้างชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน!
ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยใช้พื้นที่เป้นตัวตั้งคือหัวใจสำคัญของการพัฒนา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต
นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน
“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”
รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง
คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’
‘แพทองธาร’ ชิงพื้นที่นำทีม ลงอุตรดิถต์ ดูปัญหาน้ำท่วม
‘แพทองธาร’ นำทีมเพื่อไทยลงอุตรดิถต์จุดแรก อ.ทองแสนขัน ลุยน้ำท่วมช่วยเหลือประชาชน พร้อมพูดคุยให้กำลังใจพร้อมผลักดันช่วยเหลือและเยียวยาผ่าน สส. ในพื้นที่ให้ถึงที่สุด
‘มท.3’ ลงพื้นที่อุตรดิตถ์ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
"มท.3 ศักดิ์ดา" ลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ติดตามการช่วยเหลือและให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ย้ำ รัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชนในยามยากลำบาก
เจ็ตสกีทีมชาติจิตอาสา ยกทีมขึ้นอุตรดิตถ์ 'แชมป์-แบงค์'ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
ทีมเจ็ตสกีจิตอาสา ทีมแรกรุดด่วนเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์แล้ว นำโดย “เจ้าแชมป์” กษิดิศ ธีระประทีป ที่มีประสบการณ์เข้าช่วยเหลือสถานการณ์ภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง และ “แบงค์แชมป์โลก” นายพิตติพงศ์ เกียรติกมลกุล ทีมกู้ภัยบางแก้ว โดยมีนายสมบัติ เนียมพาง เป็นผู้บัญชาการงานในพื้นที่ พบชาวบ้านรอความช่วยเหลือแจ้งเหตุเข้ามาตลอดเวลา เพราะเดือดร้อนหนักและบางคนเสียขวัญ ทีมพยายามสุดความสามารถทำงานหนักถึงตี 5 ปัญหาที่ต้องระวังตลอดคือเรื่องไฟฟ้า


