“วราวุธ” เผย พม. จ่อเปิดอบรมหลักสูตร 18 ชม. ให้เยาวชนดูแลผู้สูงอายุในบ้าน-ชุมชน หวังลด ช่องว่างระหว่างวัย-ปัญหาความรุนแรง-ถูกทอดทิ้ง

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุในทุกมิติ โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการดูแลผู้สูงอายุ ทางคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จึงผลักดันให้เกิดมาตรฐานหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้เป็นมาตรฐานกลางของประเทศไทย ในการจัดอบรมดูแลผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามมาตรฐานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้นจึงผลักดันให้เกิด “โครงการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นเบื้องต้น 18 ชั่วโมง” โดยมีจุดประสงค์หลักคือให้ผู้เข้ารับการอบรมนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน โดยที่ไม่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ จึงวางกลุ่มเป้าหมายไว้ ได้แก่ ผู้สูงอายุ สมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุ อาสาสมัคร หรือผู้สนใจที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี สำหรับระยะเวลาการอบรม คือ 18 ชั่วโมง หรือประมาณ 3 วัน ซึ่งทางกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวง พม. จัดวิทยากรโดยขอความร่วมมือสนับสนุนจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายอื่น อาทิ กระทรวงสาธารณสุข สภากาชาดไทย

โดยเน้นหลักสูตร 6 หมวดวิชา ได้แก่ 1.ความรู้ทั่วไปของผู้สูงอายุ (เรียน 2 ชั่วโมง) ประกอบด้วยวิชา การเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ, สิทธิและสวัสดิการผู้สูงอายุ การรักษาพยาบาล เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยยังชีพคนพิการ, เจตคติต่อผู้สูงอายุ, การอยู่ร่วมกัน และความเข้าใจซึ่งกันและกัน(การสื่อสารที่เหมาะสม ทักษะการฟัง)

2.การส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ (เรียน 3 ชั่วโมง) ประกอบด้วยวิชา การส่งเสริมสุขภาพ ( 8อ. อาหารและโภชนาการ ออกกำลังกาย อารมณ์ อนามัย อากาศ อุจจาระ อุบัติเหตุ อดิเรก) (สุขสนุก สุขสง่า สุขสบาย สุขสบาย สุขสงบ) การจัดการสิ่งแวดล้อม

3.ทักษะพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุ (เรียน 8 ชั่วโมง) ประกอบด้วยวิชา การดูแลส่วนบุคคล การวัดสัญญาณชีพ การฟื้นฟูสมรรถภาพและกายภาพบำบัดเบื้องต้น การเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุและการใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน การใช้ยา (หลักการใช้ยาที่ถูกต้อง7R) การชะลอความเสื่อมถอย การป้องกันการติดเชื้อ ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการพัฒนา ผู้สูงอายุระยะท้าย/พินัยกรรมชีวิต

4.การปฐมพยาบาลและการส่งต่อ (เรียน 2 ชั่วโมง) ประกอบด้วยวิชา การดูแลที่พบบ่อย (ฟกช้ำ แผลถลอก แผลไฟไหม้ มีดบาด สัตว์กัดต่อย การทำแผล), การประเมินภาวะวิกฤตเบื้องต้น, การส่งต่อ

5.โรคที่พบบ่อยและกลุ่มอาการผู้สูงอายุ(เรียน 2 ชั่วโมง) ประกอบด้วยวิชา โรคที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ กลุ่มอาการผู้สูงอายุ

6.ผู้ดูแล (เรียน 1 ชั่วโมง) ประกอบด้วยวิชา การจัดการความเครียดของผู้ดูแล การดูแลทดแทน การดูแลตนเอง บทบาทของผู้ดูแล จริยธรรมผู้ดูแล

สำหรับปี 2568 กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) วางรูปแบบการจัดอบรมไว้แบบออนไซต์ , แบบออนไลน์ , e-Learningผ่านระบบเว็บไซต์ www.thaielderlycare.org โดยตั้งเป้าจัดอบรมให้กับกลุ่มเยาวชน สมาชิกในครอบครัว อาสาสมัคร หรือผู้สนใจที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีขึ้นไป เป็นจำนวนรวม 6,600 คน โดยมุ่งหวังว่าจะช่วยส่งเสริมเจตคติที่ดีให้เยาวชนมีความเข้าใจในการเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ รวมถึงเสริมสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว ลดช่องว่างระหว่างวัย สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเข้าใจ ลดปัญหาผู้สูงอายุถูกการกระทำความรุนแรง ถูกทอดทิ้ง และที่สำคัญ เพื่อเป็นเยาวชนต้นแบบในการสื่อสารประชาสัมพันธ์หลักสูตรดังกล่าวให้แก่เพื่อนวัยเดียวกัน

กระทรวง พม. กำหนดจัด “โครงการอบรมมาตรฐานหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นเบื้องต้น จำนวน 18 ชั่วโมง” ในวันที่  3 - 4 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ที่โรงเรียนสงวนหญิง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี มีนักเรียนเข้าร่วมอบรม จำนวน 250 คน ซึ่งจะได้รับฟังการบรรยายพิเศษจากวิทยากรหลากหลายสาขา อาทิ ทีมสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ทีมตำรวจไซเบอร์ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา จากรายการ “อย่าหาว่าน้าสอน”  กิจกรรมฐานการเรียนรู้มีชีวิตที่น่าสนใจ ประกอบด้วย นโยบาย 5 x 5 ฝ่าวิกฤติประชากร กิจกรรมบทบาทสมมติการเป็นผู้สูงอายุ นวัตกรรมการดูแลผู้สูงอายุ และกิจกรรมป้องกันสมองเสื่อม เพื่อให้เยาวชนมีความเข้าใจในความเป็นผู้สูงอายุ และอยู่ร่วมกันด้วยความรักและเข้าใจกันและกันมากขึ้น

และในช่วงต่อๆไป จะมีการจัดอบรมในรูปแบบออนไซต์ และผ่านระบบออนไลน์ ให้นักเรียนในพื้นที่อื่นๆ อาทิ โรงเรียนพื้นที่กรุงเทพมหานคร และขยายไปถึง อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ลพบุรี สระบุรี สระแก้ว นครราชสีมา อุบลราชธานี หนองบัวลำภู ขอนแก่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ กำแพงเพชร พิษณุโลก สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา สุราษฎร์ธานี ระนอง สงขลา พัทลุง และปัตตานี นอกจากนี้จะมีการอบรมผ่านระบบออนไลน์ให้กับประชาชนทั่วไปที่สนใจอีกด้วย