วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ต่อสายตรงวิดีโอคอลกับ 5 แรงงานไทยที่ได้รับการปล่อยตัวในอิสราเอลไปยัง รพ. Shamir Medical Center ประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นสถานที่ที่แรงงานไทยพักรักษาตัวอยู่หลังการได้รับการปล่อยตัว ในระหว่างการประชุมผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุมที่กระทรวงแรงงาน
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผมและผู้บริหารกระทรวงแรงงานขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับแรงงานไทยทั้ง 5 คน ได้แก่ นายวัชระ ศรีอ้วน จ.อุดรธานี นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา จ.บุรีรัมย์ นายเสถียร สุวรรณคำ จ.หนองบัวลำภู นายสุระศักดิ์ ลำเนา จ.อุดรธานี และนายบรรณวัชร แซ่ท้าว จ.น่าน ที่ได้รับการปล่อยตัวกลับสู่อ้อมกอดของประเทศไทย กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวที่แสนอบอุ่นของพวกเรา ซึ่งพ่อแม่ ญาติพี่น้องครอบครัว และลูกๆ คงคิดถึงพวกเราอย่างมาก และเชื่อว่าคนไทยทุกคนคงเป็นห่วงพวกเราทุกคนเช่นกัน ซึ่งถ้าทราบว่าทั้ง 5 ท่านได้กลับมาเมื่อไหร่ ผมพร้อมด้วย ปลัดกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงานจะไปรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ พวกเราชาวกระทรวงแรงงานขอให้กำลังใจและเป็นกำลังใจ หากมีอะไรที่กระทรวงแรงงานสามารถดูแลรับใช้ได้ก็ขอให้อย่าได้เกรงใจ และฝากท่านทูตแรงงาน ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ดูแลพวกเราทั้ง 5 คนให้เป็นอย่างดี
โดยระหว่างการสนทนาช่วงหนึ่ง นายพิพัฒน์ ได้ถามถึงแรงงานไทยทั้ง 5 คนว่าได้รับประทานส้มตำปลาร้าแล้วหรือยัง เพราะส้มตำเป็นอาหารที่พวกเราคนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยแรงงานไทยได้สนทนาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข และตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้รับประทานส้มตำปลาร้าแล้วและอร่อยมาก ทั้งนี้ คาดว่าแรงงานไทยทั้ง 5 คน ออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อเตรียมตัวที่จะเดินทางกลับประเทศไทยต่อไป
ด้าน นายสุรศักดิ์ ลำเนา และนายพงศักดิ์ แทนนา ได้เป็นตัวแทนกล่าวขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและทุกหน่วยงานที่ให้กำลังใจและเป็นห่วงตนและเพื่อนๆ ทั้ง 5 คน ที่ทางการไทยและอิสราเอลที่ให้การดูแลเป็นอย่างดีหลังจากได้รับการปล่อยตัวออกมา
ทั้งนี้ จากรายงานของฝ่ายแรงงานฯ ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์เงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอลที่แรงงานทั้ง 5 คนจะได้รับ โดยทางการอิสราเอลจะออกเอกสารรับรองตัวประกันที่ถูกปล่อยตัว และจะจ่ายเงินชดเชย ดังนี้ 1) บัตรเงินสด จำนวน 10,000 เชคเกล โอนเงินเข้าบัญชี 50,000 เชคเกล 2) เงินช่วยเหลือรายเดือน จนถึงอายุ 67 ปี จ่ายเงินชดเชยรายเดือน 3,300 เชคเกลต่อเดือน อายุ 67 - 80 ปี จ่ายเงินชดเชยรายปี 39,000 เชคเกล และการจ่ายเมื่ออายุ 80 ปีขึ้นไป จ่ายเงิยชดเชยรายปี 49,000 เชคเกล โดยในเดือนแรกนี้แรงงานไทยทั้ง 5 คน จะได้รับเงินชดเชยประมาณคนละ 60,000 เชคเกล หรือประมาณ 600,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“พิพัฒน์” เผย ภูมิใจไทยภาคใต้ 59 เขต คนแห่สมัครครบแล้ว ชู “พูดแล้วทำบวก” ให้ประชาชนร่วมเสนอนโยบายที่ในแต่ละพื้นที่ต้องการ คนเด่นทยอยเข้าพรรคสมัคร สส. ต่อเนื่อง "ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ - พีรพร สุวรรณฉวี - กาญจนาพร จิระพันธุ์วาณิช"
18 ธันวาคม 2568 ที่ทําการพรรคภูมิใจไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
“พิพัฒน์” เปิดชุดของขวัญปีใหม่คมนาคม 2569 มอบ3 ความสุขใหญ่ H-N-Y ให้คนไทย ครบทั้งอุ่นใจ สะดวก และปลอดภัย ทั่วประเทศ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบ “ของขวัญปีใหม่ 2569” จากกระทรวงคมนาคม ภายใต้แนวคิด “H.N.Y
ชงครม.ซื้อคืน‘รถไฟฟ้า’ กฤษฎีกาเทเงินออมหวย
“พิพัฒน์” เตรียมชง ครม. 9 ธ.ค. เคาะหัวเชื้อซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า
‘พิพัฒน์‘อัดงบซ่อมถนนน้ำท่วมใต้3,000ล้านบาท
‘พิพัฒน์‘ลงพื้นที่ชายแดนใต้ สั่งทุกหน่วยเร่งสำรวจความเสียหาย ใช้งบคงค้างซ่อมด่วน ก่อนจัดงบกว่า 3,000 ล้านฟื้นฟูซ่อมโครงสร้างพื้นฐานทั้ง‘ถนน-สะพาน-ทางน้ำ’ สั่งเร่งขุดลอกทางน้ำ พร้อมรับมือฝนยาวถึงต้นปีหน้า
‘พิพัฒน์’ ห่วงใยพี่น้องภาคใต้ตอนล่าง สั่งคมนาคมเร่งสำรวจความเสียหาย วางแผนซ่อมถนน เพิ่มประสิทธิภาพทางน้ำ รับมือฝนที่ยังยาวถึงต้นปี
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝนฟ้าอากาศในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง โดยระบุว่า พื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นภูมิภาคที่ “เข้าสู่ฤดูฝนช้าที่สุดของประเทศ” และมักมีระยะเวลาฝนตกยาวนานไม่น้อยกว่าสองเดือน แตกต่างจากจังหวัดอื่นที่เข้าสู่ฤดูแล้งแล้ว
“พิพัฒน์” ลงพื้นที่ปัตตานี ชื่นชมฟื้นตัวเร็ว ยันรัฐบาลเร่งเยียวยา–เตรียมพร้อมมาตราการรับฝนรอบใหม่
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี เพื่อติดตามสถานการณ์หลังอุทกภัย โดยการกำชับจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลพี่น้องที่ประสบภัยทุกครัวเรือนอย่างเต็มที่

