ปลดล็อก!! กรมส่งเสริมสหกรณ์ หารือผู้แทนชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์ออมทรัพย์ เร่งแก้ไขกฎกระทรวงการฝากเงินและการลงทุนฯ หลังเกิดผลกระทบกับสหกรณ์ที่มีเงินล้นระบบ

ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกฎกระทรวงการฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ.2567 ซึ่งมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2567 ทำให้เกิดความกังวลต่อสหกรณ์ประเภทออมทรัพย์ ถึงความเดือดร้อนที่เกิดจากผลกระทบของกฎกระทรวงเรื่องการจำกัดการลงทุน ส่งผลต่อการบริหารงานสหกรณ์คือทำให้สหกรณ์ที่มีสภาพคล่องที่เหลือจากการกู้ยืมของสมาชิกต้องระงับเงินรับฝากและการถือหุ้นของสมาชิกเนื่องจากติดข้อจำกัดเรื่องเพดานการลงทุนตามกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ไม่สามารถสร้างายได้และคืนผลตอบแทนแก่สมาชิกได้

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า หลังรับทราบข้อทักท้วงจากสหกรณ์ออมทรัพย์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ตระหนักถึงผลกระทบและมีความยินดีที่จะพิจารณาข้อเสนอของชุมนุมสหกรณ์ และจะทบทวนแก้ไขกฎกระทรวงฯบางส่วนที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์มากเกินไป ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ประชุมหารือเรื่องกฎกระทรวงเกี่ยวกับการฝากและการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำกัด และสหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้านครหลวง จำกัด ภายหลังจากที่ได้มีการประกาศใช้กฎกระทรวงการฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ.2567 เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา

“ที่ผ่านมา สหกรณ์ได้รับผลกระทบในเรื่องของเงินที่สหกรณ์ที่ลงทุนอยู่ประมาณ 8 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่เกินความต้องการของสมาชิกในการกู้ ทั้งนี้การแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อเปิดโอกาส ปลดล็อกให้สหกรณ์สามารถลงทุนได้เพิ่มเติม โดยจะไม่ส่งผลกระทบกับสหกรณ์ ซึ่งเรื่องนี้ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นห่วงในเรื่องดังกล่าว จึงได้ให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ มาหารือสหกรณ์เพื่อปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าว คาดจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินเข้าไปหมุนเวียนนระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำปีละ 30,000-50,000 ล้านบาท”
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติม

โดยการหารือระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์และผู้แทนสหกรณ์ได้ข้อสรุปดังนี้  1) การกำหนดนิยามคำว่ารัฐวิสาหกิจจะพิจารณาเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประกาศรัฐวิสาหกิจที่สหกรณ์สามารถลงทุนเพิ่มเติมได้ 2) ปรับปรุงกฎกระทรวง ข้อ 3 การกำหนดเพดานการลงทุนในนิติบุคคลที่เป็นรัฐวิสาหกิจกับนิติบุคคลอื่น
ให้แยกกัน 3) การกำหนดสัดส่วนเพดานการลงทุนของสหกรณ์ไม่เกินทุนเรือนหุ้นรวมกับทุนสำรองโดยพิจารณาให้นำทุนเรือนหุ้น ทุนสำรอง และเงินรับฝากจากสมาชิก และต้องเป็นเงินที่เหลือจากการบริหารสมาชิกแล้วมาลงทุนได้

“ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของสหกรณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตนั้น ในการกำกับดูแลแต่ละสหกรณ์นั้นจะมีคณะกรรมการความเสี่ยง และคณะกรรมการลงทุนดูแลในการพิจารณาเบื้องต้น ตามกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้ตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ และกฎกระทรวง โดยจะวิเคราะห์ทั้งความเสี่ยง และการกระจายตัวในการลงทุนตามเกณฑ์ที่กำหนด และขอยืนยันกับสมาชิกสหกรณ์ว่าเมื่อมีการแก้กฎกระทรวงแล้ว จะไม่มีผลกระทบต่อสมาชิก แต่จะมีผลดีที่จะเกิดขึ้นกับตัวสหกรณ์และสมาชิกเอง” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กษ. เตรียมมอบโฉนดต้นยาง 1 เม.ย.นี้ ชู เพิ่มมูลค่ายางกว่า 500,000 ล้าน ผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ตั้งเป้า 11 ล้านไร่ทั่วประเทศ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมจัดพิธีมอบโฉนดต้นยางพารา 1 เม.ย.นี้ ตั้งเป้า 11 ล้านไร่ภายในปีนี้  เตรียมชงรัฐบาลผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ

“รมว.นฤมล” หารือ รมต.จีน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้การบริหารการจัดการน้ำระหว่างกัน มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มี รายได้เพิ่มขึ้น

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายหลี่ กั๋วอิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (H.E. Mr. Li Guoying) โดยมี นายพรเทพ ศรีธนาธรผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ม็อบปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด เทปลาหน้าทำเนียบ หลังนายกฯไม่ออกมารับข้อเรียกร้อง

เครือข่ายประชาชน 19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำ นัดรวมตัวกันบริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1.ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบหาผู้กระทำกระทำความผิด

2 รมต.โต้เดือดกลางครม. 'นายกฯอิ๊งค์' หย่าศึก ให้ไปคุยนอกรอบหาข้อยุติ

การประชุมครม.วันนี้ได้มีการหยิบยกประเด็นการส่งออกทุเรียนของไทยที่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการของประเทศจีน  เกี่ยวกับการตรวจจับสารย้อมสี หรือ Basic yellow2

“รมว.นฤมล”เปิดงาน“New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ”หวังยกระดับเกษตรกรรุ่นใหม่ สู่การแข่งขันระดับโลก

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดและกล่าวปาถกฐาพิเศษ หัวข้อ “เกษตรผสานธุรกิจ: ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคต” ภายในงาน “New Engine for New S-curve พลิกโฉมเกษตรไทย สู่เครื่องยนต์เศรษฐกิจ”ว่า

'รมว.นฤมล' นำกระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ จ.หนองคาย ติดตามการบริหารจัดการน้ำช่วงหน้าแล้ง ย้ำ มีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของเกษตรกรไทยเป็นหลัก

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย แห่งที่ 2 ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดหนองคาย ช่วงฤดูแล้ง