นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กรจาก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
กรุงเทพฯ – 27 กุมภาพันธ์ 2568 – เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นางกลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมเสวนา "Brand Norway in Thailand - Norwegian Sustainability Business Ethics" ณ โรงแรมอมารี กรุงเทพฯ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 120 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-นอร์เวย์ พร้อมแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติด้าน ESG และเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG)
ในงานเสวนานางกลอยตาได้ให้สัมภาษณ์ถึงโอกาสจากความร่วมมือไทย-นอร์เวย์ โดยเน้นย้ำว่านอร์เวย์เป็นประเทศชั้นนำด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับนอร์เวย์ จะช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานไทยไปสู่พลังงานสะอาดและยั่งยืน
กลุ่มบริษัทบางจากได้ขยายการลงทุนธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติเข้าไปในประเทศนอร์เวย์ต่อเนื่อง ผ่าน OKEA ASA ที่บางจากฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยสาเหตุที่เลือกเข้าไปลงทุนที่ประเทศนอร์เวย์เพราะเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด รวมถึงเทคโนโลยีในอนาคตที่สามารถตอบโจทย์เรื่องของสภาวะโลกร้อนได้ ซึ่งจะส่งผลให้บางจากฯ สามารถเข้าไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน เพื่อการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
นางกลอยตา ณ ถลาง บรรยายเรื่องความร่วมมือด้านความยั่งยืนระหว่างไทย-นอร์เวย์
"บางจากฯ มองเห็นโอกาสในการร่วมมือของธุรกิจไทยกับนอร์เวย์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน การจัดการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมพลังงาน เพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาวะภูมิอากาศ" นางกลอยตากล่าว
นอกจากนี้ นางกลอยตายังได้กล่าวถึงทิศทางของธุรกิจพลังงานในประเทศไทย โดยคาดการณ์ว่าแนวคิด ESG จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของภาคอุตสาหกรรม"ESG ไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นสิ่งที่ธุรกิจพลังงานต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นปัจจัยที่ผู้บริโภค นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม" นางกลอยตาเสริม
ขณะเดียวกันกระแสของ ESG ก็กำลังผลักดันให้สังคมไปสู่การทำธุรกิจอย่างโปร่งใสมากขึ้นมีธรรมาภิบาลในการกำกับดูแลธุรกิจที่ดีมีความยั่งยืนในเรื่องของการลดการปล่อยคาร์บอนและการปรับเปลี่ยนไปสู่พลังงานที่สะอาดอีกทั้ง ESG จะทำให้แต่ละบริษัทต้องมีส่วนในการดูแลห่วงโซ่อุปทานของตนเอง เช่น การจัดอบรมให้ความรู้ถึงแนวทางที่จะไปสู่การลดคาร์บอน ซึ่งบางจากฯ ก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดูแลห่วงโซ่ธุรกิจของตนเองอย่างครบวงจรด้วย
ทั้งนี้ นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีกรอบนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนการลงทุนด้านพลังงานสะอาด โดยให้ความสำคัญกับพลังงานลม พลังงานน้ำ และไฮโดรเจนสีเขียว รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการลดคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งบางจากฯ มองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนำมาประยุกต์ใช้กับบริบทของประเทศไทย
"นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีกรอบนโยบายที่ชัดเจน โปร่งใส และให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาลในการกำกับดูแล ส่งเสริมการลงทุนในพลังงานสะอาดอย่างเป็นระบบและยั่งยืน นอกจากนี้ นอร์เวย์ยังมีแนวทางการวางแผนระยะยาวที่ชัดเจน และมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน Carbon Capture and Storage (CCS) ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การร่วมมือกับนอร์เวย์จึงเป็นโอกาสสำคัญในการนำแนวทางเหล่านี้มาประยุกต์ใช้ในไทย เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานด้วยมาตรฐานที่เป็นสากลและยั่งยืน"
เธอระบุว่าการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและนอร์เวย์จะช่วยให้ภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศสามารถพัฒนาแนวทางที่ยั่งยืนร่วมกัน และสนับสนุนให้เกิดระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลก
งานเสวนา "Brand Norway in Thailand - Norwegian Sustainability Business Ethics" ถือเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและนอร์เวย์ ตอกย้ำถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่างสองประเทศ และเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สปสช.จับมือ 'บางจาก' ยกระดับปั๊มน้ำมันให้บริการสุขภาพครบวงจร!
รัฐบาลเดินหน้าเพิ่มช่องทางให้บริการสาธารณสุข จับมือบางจากฯ ยกระดับปั๊มน้ำมันเปิดจุดบริการสุขภาพครบวงจร ร่วมขับเคลื่อน 30 บาทรักษาทุกที่
2 วันติด 'ปตท.- บางจาก' ขึ้นเบนซินและแก๊สโซฮอล์อีก 40 สต.มีผลพรุ่งนี้
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน
บางจาก ปิดดีลประวัติศาสตร์จ่ายหุ้นกว่า 2.3 หมื่นล้านบาทซื้อเอสโซ่
บางจาก ปิดดีลประวัติศาสตร์ จ่ายหุ้นกว่า 2.3 หมื่นล้านบาทซื้อเอสโซ่ พร้อมขึ้นแท่นเป็นผู้นำในธุรกิจโรงกลั่น มีกำลังการผลิตรวม 3 แสนบาร์เรล/วัน และเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง ลั่นไม่เกิน 5 ปี คืนทุน พร้อมยังลุยนวัตกรรมใหม่จ่อเปิดปั๊มชาร์จอีวีเพิ่ม 840 หัวจ่ายในปีนี้


