“รักจังสตูล” รวมพลังคนสตูล บูรณาการความรู้ สร้างเครือข่ายหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคมให้ยั่งยืน

ภาพหมู่เวที

สตูล / 11 มีนาคม 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. จัดเวทีคืนข้อมูลโครงการวิจัยบูรณาการภาคีร่วมพัฒนาเพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย ที่มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมจากผู้นำชุมชน หน่วยงานภาคีภาครัฐ ภาคเอกชน จากจังหวัด ตราด สตูล จำนวนกว่า 50 คน ณ ชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล

เวทีคืนงานวิจัยฯจังหวัดสตูล ซึ่งจัดโดยสำนักพัฒนาองค์ความรู้และสื่อสารองค์กร เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักวิจัย นักพัฒนา และภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นำเสนอผลการศึกษาที่สามารถนำไปใช้จริง และร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนโดยโครงการวิจัยบูรณาการภาคีร่วมพัฒนานี้ ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.)ปีงบประมาณ 2567 โดยมีพื้นที่การศึกษาครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสตูล และจังหวัดยะลา ภายใต้กรอบแนวคิดที่ว่าด้วยการใช้ข้อมูลและงานวิจัยในการพัฒนา โดยทีมวิจัยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูล วิเคราะห์ และสังเคราะห์ผลลัพธ์ เพื่อสะท้อนภาพรวมของสถานการณ์การพัฒนาชุมชนในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เป็นแนวทางในการออกแบบแผนพัฒนาชุมชนในระดับพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

มีวัตถุประสงค์เพื่อ บูรณาการองค์ความรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง นำเสนอผลวิจัยที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในภาคประชาสังคม การศึกษา และเศรษฐกิจชุมชน เปิดเวทีอภิปราย แลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างนักวิจัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่ตอบโจทย์ปัญหาสังคมจริง  ยกระดับหุ้นส่วนการพัฒนาสังคม ส่งเสริมการร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผลักดันนวัตกรรมและแนวคิดใหม่จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายนักพัฒนาในพื้นที่

นางสาวสุทธิดา บัวสุขเกษม หัวหน้าโครงการวิจัยบูรณาการภาคีร่วม  กล่าวว่า ตำบลนาทอนและตำบลละงู จังหวัดสตูล ที่เป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษาวิจัย ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าจังหวัดที่เราลงพื้นที่ศึกษา งานวิจัยครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากการศึกษารูปแบบและองค์ประกอบของชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งทาง พอช. มุ่งหวังให้ชุมชนสามารถจัดการตัวเองได้ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเสริมพลัง การศึกษานี้จึงต้องการทำความเข้าใจว่ากลไกที่ช่วยสนับสนุนชุมชนมีอะไรบ้าง รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อความเข้มแข็ง เช่น การสนับสนุนจาก พ.ร.บ. งบประมาณ หรือการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ

นางสาวสุทธิดา กล่าวต่อ งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "วิจัยบูรณาการภาคีร่วมพัฒนาเพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย" ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการศึกษารูปแบบการบูรณาการงานพัฒนาชุมชน ข้อมูลจากการวิจัยจะช่วยให้เราเข้าใจแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาอย่างเป็นระบบ และช่วยให้หน่วยงานภาคประชาสังคม รวมถึงองค์กรชุมชนสามารถใช้ข้อมูลนี้ไปออกแบบกลไกสนับสนุนที่เหมาะสม สตูลถือเป็นพื้นที่ที่มีภาคประชาสังคมเข้มแข็ง เช่น เครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม และสภาองค์กรชุมชน ซึ่งสามารถนำข้อมูลจากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้ ปีหน้าเรามีแผนศึกษากองทุนสวัสดิการชุมชนเพิ่มเติม และหวังว่างานวิจัยครั้งนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาชุมชนต่อไป

รูปธรรมตำบลนาทอน

 รวมพลังฅนนาทอน สร้างความสุขเพื่อทุกคน

ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นชุมชนที่มีการบริหารจัดการตนเองอย่างเข้มแข็ง โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการพัฒนา ชุมชนเผชิญปัญหาด้านการเข้าถึงแหล่งทุนและความขาดแคลนด้านสวัสดิการในอดีต จึงได้รวมตัวกันจัดตั้ง กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลนาทอน ตั้งแต่ปี 2549 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการออม ช่วยเหลือสมาชิก และสร้างระบบสวัสดิการที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย กองทุนเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิก 3,681 คน และมีเงินทุนสะสมกว่า 18 ล้านบาท

จุดเด่นของตำบลนาทอนคือการจัดสวัสดิการครอบคลุมกว่า 20 ด้าน เช่น สวัสดิการเด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วย และครอบครัวที่ประสบภัยพิบัติ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ เช่น พอช. พมจ. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้ตำบลนาทอนเป็นต้นแบบของชุมชนที่เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

บทบาทสวัสดิการชุมชน

บทบาทของกองทุนสวัสดิการชุมชน

กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลนาทอนเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน โดยดำเนินงานบนพื้นฐานของหลักการ "รวมพลังคนในชุมชนเพื่อสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ" ผ่านการจัดสวัสดิการที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ การพึ่งพาตนเอง: กองทุนได้รับเงินสนับสนุนจากสมาชิกชุมชนเป็นหลัก โดยส่งเสริมการออมและนำเงินกองทุนไปใช้ในการช่วยเหลือสมาชิกที่ประสบปัญหา การกระจายสวัสดิการ: จัดสวัสดิการมากกว่า 20 ประเภท เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ สวัสดิการผู้พิการ และการพัฒนาทางอาชีพ การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน: กองทุนไม่ได้เพียงแค่ช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา แต่ยังส่งเสริมกิจกรรมเชิงรุก เช่น การฝึกอบรมอาชีพ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว

บทบาทสภา

บทบาทของสภาองค์กรชุมชน

สภาองค์กรชุมชนตำบลนาทอนเป็นกลไกหลักที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนโดยใช้แนวคิดการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยมีบทบาทสำคัญดังนี้ เป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการ: สภาองค์กรชุมชนทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างองค์กรต่างๆ ในชุมชน เช่น กองทุนสวัสดิการ กลุ่มอาชีพ และเครือข่ายประชาสังคม สร้างการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน: ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน เช่น พอช. (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน), พมจ. (พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์), อบต., สถาบันการศึกษา เพื่อดึงทรัพยากรและองค์ความรู้มาพัฒนาชุมชนพัฒนานโยบายชุมชน: กำหนดแนวทางและวางแผนพัฒนาตำบล เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การจัดสวัสดิการ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน: เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชุมชนของตนเอง

การขับเคลื่อนร่วมกันระหว่างกองทุนสวัสดิการชุมชนและสภาองค์กรชุมชน การทำงานของทั้งสองหน่วยงานเป็นการขับเคลื่อนแบบ “บูรณาการ” ที่ส่งเสริมกันและกันเพื่อให้เกิดความยั่งยืน  สภาองค์กรชุมชนเป็นผู้กำหนดทิศทางและวางแผนพัฒนาชุมชน ส่วนกองทุนสวัสดิการเป็นกลไกในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อดำเนินโครงการและช่วยเหลือสมาชิก การจัดตั้ง “คลังชุมชน” เพื่อรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ เช่น องค์กรการเงิน ธุรกิจชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ และกลุ่มอาชีพ ทำให้สามารถวางแผนพัฒนาได้อย่างแม่นยำ การเชื่อมโยงทรัพยากรจากภายนอก: ใช้เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนในการประสานขอสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและเอกชน การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน: ทั้งสององค์กรทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนอาชีพ เช่น การพัฒนา OTOP, การจัดตั้งตลาดชุมชน และการฝึกอบรมอาชีพ

ภาพรวมละงู

สภาองค์กรชุมชนตำบลละงู สภาสร้างคน สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง สู่การจัดการตนเองได้

สภาองค์กรชุมชนตำบลละงูได้มีการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ตำบลละงูมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งพื้นที่ปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวนาปี ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชน ก่อนการขับเคลื่อนของสภาองค์กรชุมชน ชุมชนยังขาดการรวมตัวและขาดการจัดการตนเองที่เข้มแข็ง

หลังจากการขับเคลื่อนของสภาองค์กรชุมชนตำบลละงู มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เช่น การจัดตั้งโครงการบ้านพอเพียงและบ้านไทยเข้มแข็ง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย โดยมีการสำรวจความต้องการและจัดลำดับความสำคัญผ่านกระบวนการประชาคม นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในด้านต่าง ๆ เช่น การเจ็บป่วย การศึกษา และภัยพิบัติ

สภาองค์กรชุมชนยังได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมอาชีพ การป้องกันโรคเรื้อรัง การส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน และการรับมือภัยพิบัติ ซึ่งช่วยพัฒนาศักยภาพของชุมชนและสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนในพื้นที่

โดยสรุป การขับเคลื่อนของสภาองค์กรชุมชนตำบลละงูได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชุมชน ทั้งด้านการจัดการตนเอง การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนผ่านการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายและประชาชนในพื้นที่

โครงการบ้านพอเพียง

มีผลงานเด่นหลายด้านที่ช่วยพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โครงการบ้านพอเพียงและบ้านไทยเข้มแข็ง  ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย โดยมีการสำรวจความต้องการและจัดลำดับความสำคัญผ่านกระบวนการประชาคม สร้างและปรับปรุงบ้านเรือนให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ได้รับบ้านเป็นสมาชิกกองทุนสวัสดิการชุมชน

กองทุนสวัสดิการชุมชน:จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในด้านต่าง ๆ เช่น การเจ็บป่วย การศึกษา ภัยพิบัติ และการส่งเสริมอาชีพ สร้างระบบสวัสดิการที่ยั่งยืนและเป็นธรรมสำหรับสมาชิกในชุมชน

โครงการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาทักษะ จัดอบรมและส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ เช่น การปลูกผักปลอดสารเคมี การแปรรูปอาหาร และการเลี้ยงปลา ส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพให้กับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนที่อยู่อาศัย (บ้านพอเพียง) เพื่อเพิ่มรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิต

โครงการป้องกันโรคเรื้อรังและส่งเสริมสุขภาพ จัดโครงการป้องกันโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ (NCD) ในวัยทำงานส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน รวมทั้งป้องกันปัญหายาเสพติดในชุมชนการรับมือภัยพิบัติและการเตรียมความพร้อม: จัดอบรมและเตรียมความพร้อมให้กับชุมชนในการรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ สร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน

การบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย:ร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด และมูลนิธิชุมชนไท เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ สร้างความร่วมมือและแบ่งปันทรัพยากรเพื่อพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน: จัดโครงการเพื่อส่งเสริมทักษะและความรู้ให้กับเด็กและเยาวชนในชุมชน สนับสนุนเด็กนอกระบบการศึกษาให้ได้เรียนรู้ทักษะอาชีพที่ตนเองถนัด

การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน: จัดเวทีพูดคุยและหารือเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชุมชน สร้างกระบวนการเรียนรู้และประสบการณ์ร่วมกันในชุมชน

กิจกรรมบูรณาการปล่อยปลา

ผลงานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จของสภาองค์กรชุมชนตำบลละงูในการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

การขับเคลื่อนกลไกบูรณาการเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาชุมชน โดยมีสองระดับในการยกระดับการทำงาน และสามต้นแบบที่นำไปสู่การขยายผลเพื่อสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าการบูรณาการมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัยในชุมชน

เมื่อพูดถึงการทำงานเชิงบูรณาการ พี่น้องในชุมชนใช้แนวทางหลัก 3 ประการ ได้แก่ การเป็นที่ปรึกษากันและกัน การประสานงานระหว่างกัน และการปฏิบัติการร่วมกัน ซึ่งเรียกว่า "3 ป." แนวทางนี้ช่วยให้เกิดเป้าหมายร่วมกันและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การทำงานแบบบูรณาการจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมี "พื้นที่กลาง" สำหรับการดำเนินงานร่วมกัน ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบขององค์กรในระดับตำบล อำเภอ หรือจังหวัด เช่น สภาอุปกรณ์ชุมชน หรือสมัชชาธรรมนูญ

กิจกรรมช่วยเหลือผู้เปราะบาง

กระบวนการบูรณาการสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการและรูปธรรม โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือในทุกระดับ ตั้งแต่ชุมชนจนถึงระดับจังหวัด เพื่อสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง จำเป็นต้องใช้ทุนในชุมชน ทั้งทุนมนุษย์ ทรัพยากร และภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงการรวมกลุ่มทำงานร่วมกัน ซึ่งต้องมีเครื่องมือและกิจกรรมที่ช่วยขับเคลื่อน เช่น ระบบสวัสดิการ การดูแลเด็ก การวางแผนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ และการเสริมสร้างความรู้ให้กับชุมชน

ข้อมูลเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็ง หากขาดข้อมูลที่ดี การบริหารจัดการจะไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น นอกจากการเสริมความรู้แล้ว ยังต้องมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือการสนับสนุนด้านงบประมาณหรือกองทุนเพื่อช่วยให้การพัฒนาเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม หากขาดแหล่งทุน การพัฒนาอาจหยุดชะงักการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนต้องครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่ระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ครอบคลุมทั้งเยาวชน ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง โดยประเด็นที่เกี่ยวข้องมีความหลากหลาย เช่น สุขภาพ อาชีพ รายได้ ปัญหาสิ่งเสพติด ภัยพิบัติ สวัสดิการ สิทธิชุมชน และวัฒนธรรม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเข้มแข็งของชุมชน

ข้อเสนอหนึ่งที่สำคัญคือ หน่วยงานที่เข้ามาสนับสนุนต้องมีการบูรณาการภายในองค์กรของตนก่อน แล้วจึงขยายไปสู่การบูรณาการร่วมกับชุมชน เช่น การจัดสวัสดิการที่เชื่อมโยงกันทั้งระบบ ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นเอกภาพ อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการหารือเพิ่มเติมว่ารูปแบบต้นแบบที่เข้มแข็งเหล่านี้สามารถขยายผลไปสู่ระดับประเทศได้อย่างไร และต้องปรับปรุงข้อบกพร่องใดบ้าง

สุดท้าย แนวทางการทำงานในอนาคตต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทุกหน่วยงานต้องทราบว่าจุดมุ่งหมายของการพัฒนาคืออะไรและจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด

ภาพชุมชนเข้มแข็ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยกคณะบินหาดใหญ่ บิ๊กคลีนนิ่งหลังน้ำลด เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย-มอบถุงยังชีพชาวสตูล

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร2 กองบิน6 (บน.6) ดอนเมือง เพื่อตรวจราชการจังหวัดสงขลาและจังหวัดสตูล

สตูลวิกฤต! น้ำป่าทะลัก-ดินถล่ม ท่วมทั้ง 7 อำเภอ ดับ 1 ราย

ฝนยังถล่มมาอย่างต่อเนื่องจนน้ำท่วมทุกพื้นที่ น้ำยังคงไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองอำเภอละงู รวมถึงขยายวงสู่ในตัวอำเภอเมืองสตูลหลายจุดระดับน้ำท่วมสูง

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพ นร. ตชด. เสียชีวิตเหตุโคลนถล่ม

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพวงมาลาแก่นักเรียนโรงเรียน ตชด. เสียชีวิตจากเหตุดินโคลนถล่มทับบ้าน ในพื้นที่ จ.สตูล "ผบ.ตร."สั่ง ตชด.สร้างบ้านหลังใหม่ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต

นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน

“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”

รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง