ภาพหมู่เวที
สตูล / 11 มีนาคม 2568 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. จัดเวทีคืนข้อมูลโครงการวิจัยบูรณาการภาคีร่วมพัฒนาเพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย ที่มุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมจากผู้นำชุมชน หน่วยงานภาคีภาครัฐ ภาคเอกชน จากจังหวัด ตราด สตูล จำนวนกว่า 50 คน ณ ชมรมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล
เวทีคืนงานวิจัยฯจังหวัดสตูล ซึ่งจัดโดยสำนักพัฒนาองค์ความรู้และสื่อสารองค์กร เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้นักวิจัย นักพัฒนา และภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ นำเสนอผลการศึกษาที่สามารถนำไปใช้จริง และร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนโดยโครงการวิจัยบูรณาการภาคีร่วมพัฒนานี้ ได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.)ปีงบประมาณ 2567 โดยมีพื้นที่การศึกษาครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสตูล และจังหวัดยะลา ภายใต้กรอบแนวคิดที่ว่าด้วยการใช้ข้อมูลและงานวิจัยในการพัฒนา โดยทีมวิจัยได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูล วิเคราะห์ และสังเคราะห์ผลลัพธ์ เพื่อสะท้อนภาพรวมของสถานการณ์การพัฒนาชุมชนในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปใช้เป็นแนวทางในการออกแบบแผนพัฒนาชุมชนในระดับพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
มีวัตถุประสงค์เพื่อ บูรณาการองค์ความรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง นำเสนอผลวิจัยที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในภาคประชาสังคม การศึกษา และเศรษฐกิจชุมชน เปิดเวทีอภิปราย แลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างนักวิจัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่ตอบโจทย์ปัญหาสังคมจริง ยกระดับหุ้นส่วนการพัฒนาสังคม ส่งเสริมการร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผลักดันนวัตกรรมและแนวคิดใหม่จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายนักพัฒนาในพื้นที่
นางสาวสุทธิดา บัวสุขเกษม หัวหน้าโครงการวิจัยบูรณาการภาคีร่วม กล่าวว่า ตำบลนาทอนและตำบลละงู จังหวัดสตูล ที่เป็นพื้นที่นำร่องในการศึกษาวิจัย ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าจังหวัดที่เราลงพื้นที่ศึกษา งานวิจัยครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากการศึกษารูปแบบและองค์ประกอบของชุมชนเข้มแข็ง ซึ่งทาง พอช. มุ่งหวังให้ชุมชนสามารถจัดการตัวเองได้ และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเสริมพลัง การศึกษานี้จึงต้องการทำความเข้าใจว่ากลไกที่ช่วยสนับสนุนชุมชนมีอะไรบ้าง รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อความเข้มแข็ง เช่น การสนับสนุนจาก พ.ร.บ. งบประมาณ หรือการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ
นางสาวสุทธิดา กล่าวต่อ งานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "วิจัยบูรณาการภาคีร่วมพัฒนาเพื่อส่งเสริมชุมชนเข้มแข็งสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย" ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญในการศึกษารูปแบบการบูรณาการงานพัฒนาชุมชน ข้อมูลจากการวิจัยจะช่วยให้เราเข้าใจแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาอย่างเป็นระบบ และช่วยให้หน่วยงานภาคประชาสังคม รวมถึงองค์กรชุมชนสามารถใช้ข้อมูลนี้ไปออกแบบกลไกสนับสนุนที่เหมาะสม สตูลถือเป็นพื้นที่ที่มีภาคประชาสังคมเข้มแข็ง เช่น เครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อม และสภาองค์กรชุมชน ซึ่งสามารถนำข้อมูลจากการวิจัยไปใช้ประโยชน์ได้ ปีหน้าเรามีแผนศึกษากองทุนสวัสดิการชุมชนเพิ่มเติม และหวังว่างานวิจัยครั้งนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยพัฒนาชุมชนต่อไป
รูปธรรมตำบลนาทอน
รวมพลังฅนนาทอน สร้างความสุขเพื่อทุกคน
ตำบลนาทอน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เป็นชุมชนที่มีการบริหารจัดการตนเองอย่างเข้มแข็ง โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการพัฒนา ชุมชนเผชิญปัญหาด้านการเข้าถึงแหล่งทุนและความขาดแคลนด้านสวัสดิการในอดีต จึงได้รวมตัวกันจัดตั้ง กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลนาทอน ตั้งแต่ปี 2549 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการออม ช่วยเหลือสมาชิก และสร้างระบบสวัสดิการที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย กองทุนเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิก 3,681 คน และมีเงินทุนสะสมกว่า 18 ล้านบาท
จุดเด่นของตำบลนาทอนคือการจัดสวัสดิการครอบคลุมกว่า 20 ด้าน เช่น สวัสดิการเด็กแรกเกิด ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วย และครอบครัวที่ประสบภัยพิบัติ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการพัฒนาอาชีพ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ เช่น พอช. พมจ. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้ตำบลนาทอนเป็นต้นแบบของชุมชนที่เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
บทบาทสวัสดิการชุมชน
บทบาทของกองทุนสวัสดิการชุมชน
กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลนาทอนเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน โดยดำเนินงานบนพื้นฐานของหลักการ "รวมพลังคนในชุมชนเพื่อสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจ" ผ่านการจัดสวัสดิการที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงผู้สูงอายุ การพึ่งพาตนเอง: กองทุนได้รับเงินสนับสนุนจากสมาชิกชุมชนเป็นหลัก โดยส่งเสริมการออมและนำเงินกองทุนไปใช้ในการช่วยเหลือสมาชิกที่ประสบปัญหา การกระจายสวัสดิการ: จัดสวัสดิการมากกว่า 20 ประเภท เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ สวัสดิการผู้พิการ และการพัฒนาทางอาชีพ การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน: กองทุนไม่ได้เพียงแค่ช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา แต่ยังส่งเสริมกิจกรรมเชิงรุก เช่น การฝึกอบรมอาชีพ การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัว
บทบาทสภา
บทบาทของสภาองค์กรชุมชน
สภาองค์กรชุมชนตำบลนาทอนเป็นกลไกหลักที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนโดยใช้แนวคิดการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยมีบทบาทสำคัญดังนี้ เป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการ: สภาองค์กรชุมชนทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างองค์กรต่างๆ ในชุมชน เช่น กองทุนสวัสดิการ กลุ่มอาชีพ และเครือข่ายประชาสังคม สร้างการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน: ทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน เช่น พอช. (สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน), พมจ. (พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์), อบต., สถาบันการศึกษา เพื่อดึงทรัพยากรและองค์ความรู้มาพัฒนาชุมชนพัฒนานโยบายชุมชน: กำหนดแนวทางและวางแผนพัฒนาตำบล เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การจัดสวัสดิการ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน: เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชุมชนของตนเอง
การขับเคลื่อนร่วมกันระหว่างกองทุนสวัสดิการชุมชนและสภาองค์กรชุมชน การทำงานของทั้งสองหน่วยงานเป็นการขับเคลื่อนแบบ “บูรณาการ” ที่ส่งเสริมกันและกันเพื่อให้เกิดความยั่งยืน สภาองค์กรชุมชนเป็นผู้กำหนดทิศทางและวางแผนพัฒนาชุมชน ส่วนกองทุนสวัสดิการเป็นกลไกในการจัดสรรทรัพยากรเพื่อดำเนินโครงการและช่วยเหลือสมาชิก การจัดตั้ง “คลังชุมชน” เพื่อรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ เช่น องค์กรการเงิน ธุรกิจชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติ และกลุ่มอาชีพ ทำให้สามารถวางแผนพัฒนาได้อย่างแม่นยำ การเชื่อมโยงทรัพยากรจากภายนอก: ใช้เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนในการประสานขอสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐและเอกชน การส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน: ทั้งสององค์กรทำงานร่วมกันเพื่อสนับสนุนอาชีพ เช่น การพัฒนา OTOP, การจัดตั้งตลาดชุมชน และการฝึกอบรมอาชีพ
ภาพรวมละงู
สภาองค์กรชุมชนตำบลละงู “สภาสร้างคน สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง สู่การจัดการตนเองได้”
สภาองค์กรชุมชนตำบลละงูได้มีการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ตำบลละงูมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งพื้นที่ปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวนาปี ซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชน ก่อนการขับเคลื่อนของสภาองค์กรชุมชน ชุมชนยังขาดการรวมตัวและขาดการจัดการตนเองที่เข้มแข็ง
หลังจากการขับเคลื่อนของสภาองค์กรชุมชนตำบลละงู มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน เช่น การจัดตั้งโครงการบ้านพอเพียงและบ้านไทยเข้มแข็ง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย โดยมีการสำรวจความต้องการและจัดลำดับความสำคัญผ่านกระบวนการประชาคม นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการชุมชนเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในด้านต่าง ๆ เช่น การเจ็บป่วย การศึกษา และภัยพิบัติ
สภาองค์กรชุมชนยังได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมอาชีพ การป้องกันโรคเรื้อรัง การส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน และการรับมือภัยพิบัติ ซึ่งช่วยพัฒนาศักยภาพของชุมชนและสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชนในพื้นที่
โดยสรุป การขับเคลื่อนของสภาองค์กรชุมชนตำบลละงูได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชุมชน ทั้งด้านการจัดการตนเอง การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนผ่านการทำงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายและประชาชนในพื้นที่
โครงการบ้านพอเพียง
มีผลงานเด่นหลายด้านที่ช่วยพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โครงการบ้านพอเพียงและบ้านไทยเข้มแข็ง ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย โดยมีการสำรวจความต้องการและจัดลำดับความสำคัญผ่านกระบวนการประชาคม สร้างและปรับปรุงบ้านเรือนให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ได้รับบ้านเป็นสมาชิกกองทุนสวัสดิการชุมชน
กองทุนสวัสดิการชุมชน:จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในด้านต่าง ๆ เช่น การเจ็บป่วย การศึกษา ภัยพิบัติ และการส่งเสริมอาชีพ สร้างระบบสวัสดิการที่ยั่งยืนและเป็นธรรมสำหรับสมาชิกในชุมชน
โครงการส่งเสริมอาชีพและพัฒนาทักษะ จัดอบรมและส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ เช่น การปลูกผักปลอดสารเคมี การแปรรูปอาหาร และการเลี้ยงปลา ส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพให้กับกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนที่อยู่อาศัย (บ้านพอเพียง) เพื่อเพิ่มรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิต
โครงการป้องกันโรคเรื้อรังและส่งเสริมสุขภาพ จัดโครงการป้องกันโรคเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ (NCD) ในวัยทำงานส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน รวมทั้งป้องกันปัญหายาเสพติดในชุมชนการรับมือภัยพิบัติและการเตรียมความพร้อม: จัดอบรมและเตรียมความพร้อมให้กับชุมชนในการรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ สร้างเครือข่ายอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน
การบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย:ร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด และมูลนิธิชุมชนไท เพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ สร้างความร่วมมือและแบ่งปันทรัพยากรเพื่อพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน: จัดโครงการเพื่อส่งเสริมทักษะและความรู้ให้กับเด็กและเยาวชนในชุมชน สนับสนุนเด็กนอกระบบการศึกษาให้ได้เรียนรู้ทักษะอาชีพที่ตนเองถนัด
การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน: จัดเวทีพูดคุยและหารือเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชุมชน สร้างกระบวนการเรียนรู้และประสบการณ์ร่วมกันในชุมชน
กิจกรรมบูรณาการปล่อยปลา
ผลงานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จของสภาองค์กรชุมชนตำบลละงูในการพัฒนาชุมชนและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน
การขับเคลื่อนกลไกบูรณาการเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาชุมชน โดยมีสองระดับในการยกระดับการทำงาน และสามต้นแบบที่นำไปสู่การขยายผลเพื่อสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าการบูรณาการมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัยในชุมชน
เมื่อพูดถึงการทำงานเชิงบูรณาการ พี่น้องในชุมชนใช้แนวทางหลัก 3 ประการ ได้แก่ การเป็นที่ปรึกษากันและกัน การประสานงานระหว่างกัน และการปฏิบัติการร่วมกัน ซึ่งเรียกว่า "3 ป." แนวทางนี้ช่วยให้เกิดเป้าหมายร่วมกันและสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การทำงานแบบบูรณาการจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมี "พื้นที่กลาง" สำหรับการดำเนินงานร่วมกัน ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบขององค์กรในระดับตำบล อำเภอ หรือจังหวัด เช่น สภาอุปกรณ์ชุมชน หรือสมัชชาธรรมนูญ
กิจกรรมช่วยเหลือผู้เปราะบาง
กระบวนการบูรณาการสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในรูปแบบที่ไม่เป็นทางการและรูปธรรม โดยอาศัยเครือข่ายความร่วมมือในทุกระดับ ตั้งแต่ชุมชนจนถึงระดับจังหวัด เพื่อสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง จำเป็นต้องใช้ทุนในชุมชน ทั้งทุนมนุษย์ ทรัพยากร และภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงการรวมกลุ่มทำงานร่วมกัน ซึ่งต้องมีเครื่องมือและกิจกรรมที่ช่วยขับเคลื่อน เช่น ระบบสวัสดิการ การดูแลเด็ก การวางแผนร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ และการเสริมสร้างความรู้ให้กับชุมชน
ข้อมูลเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพัฒนาชุมชนที่เข้มแข็ง หากขาดข้อมูลที่ดี การบริหารจัดการจะไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น นอกจากการเสริมความรู้แล้ว ยังต้องมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือการสนับสนุนด้านงบประมาณหรือกองทุนเพื่อช่วยให้การพัฒนาเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม หากขาดแหล่งทุน การพัฒนาอาจหยุดชะงักการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนต้องครอบคลุมทุกช่วงวัย ตั้งแต่ระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ครอบคลุมทั้งเยาวชน ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง โดยประเด็นที่เกี่ยวข้องมีความหลากหลาย เช่น สุขภาพ อาชีพ รายได้ ปัญหาสิ่งเสพติด ภัยพิบัติ สวัสดิการ สิทธิชุมชน และวัฒนธรรม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเข้มแข็งของชุมชน
ข้อเสนอหนึ่งที่สำคัญคือ หน่วยงานที่เข้ามาสนับสนุนต้องมีการบูรณาการภายในองค์กรของตนก่อน แล้วจึงขยายไปสู่การบูรณาการร่วมกับชุมชน เช่น การจัดสวัสดิการที่เชื่อมโยงกันทั้งระบบ ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นเอกภาพ อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการหารือเพิ่มเติมว่ารูปแบบต้นแบบที่เข้มแข็งเหล่านี้สามารถขยายผลไปสู่ระดับประเทศได้อย่างไร และต้องปรับปรุงข้อบกพร่องใดบ้าง
สุดท้าย แนวทางการทำงานในอนาคตต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทุกหน่วยงานต้องทราบว่าจุดมุ่งหมายของการพัฒนาคืออะไรและจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด
ภาพชุมชนเข้มแข็ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"UN-Habitat" ชื่นชมไทย ขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคน – ดันเป็นเจ้าภาพ Habitat IV ปี 2026
รมว.พม. ต้อนรับรองเลขาฯ UN-Habitat ร่วมถกความร่วมมือระดับภูมิภาค พร้อมเปิดทางสู่การประชุมนานาชาติด้านเมืองและที่อยู่อาศัยในอนาคต
"วราวุธ" ผนึก พม.-ทส. เดินหน้า “กระเสียวโมเดล” แก้ปัญหาน้ำขาดแคลน หนุนเกษตรแปลงใหญ่ พัฒนานิคมสร้างตนเอง
วันที่ 21 เมษายน 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดโครงการกระเสียวโมเดล :
“เร่งฟื้นฟูชุมชนโรงธูป! ราชบุรี พอช. ผนึกภาคีท้องถิ่นช่วยผู้ประสบภัยไฟไหม้ วางแผนฟื้นฟูที่อยู่อาศัยทั้งระยะสั้น-ระยะยาว”
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ พอช. ผนึกกำลังภาคีท้องถิ่น-ชุมชน ร่วมวางแนวทางแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือน 17
เร่งแก้ปัญหาที่ดินรถไฟ! ลงพื้นที่ 5 ชุมชนสุไหงโก-ลก หาทางออกผู้อยู่อาศัยกว่า 700 ครัวเรือน
เดินหน้าพัฒนาชุมชนริมราง สุไหงโก-ลก เตรียมถกร่วมวางแผนแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย 5 ชุมชนเดือดร้อน
ผู้นำชุมชนรุ่นใหม่ต้องมีวุฒิฯ! เปิดหลักสูตรปริญญาโทเทียบโอนประสบการณ์จริง
พอช. x NIDA จับมือสร้างความเปลี่ยนแปลง "ผู้นำชุมชนพันธุ์ใหม่ ต้องมีวุฒิฯ! "เปลี่ยนโฉมพัฒนาชุมชนด้วยวิชาการ! หลักสูตรปริญญาโทสำหรับผู้นำชุมชนโดยเฉพาะ วิจัยแก้จนจากข้อมูลจริงในพื้นที่อีสาน เตรียมขยายผลสู่นวัตกรรมพัฒนาทั่วประเทศ!"
พลังหญิงไทย ขับเคลื่อนอนาคต สร้างชุมชนเข้มแข็ง
วันที่ 4 เมษายน 2568 เครือข่ายผู้หญิงไทย 77 จังหวัด ร่วมกับ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. จัดเวที สัมมนาเครือข่ายผู้หญิงไทย 77 จังหวัด