“ศุภมาส” เปิดศูนย์ “MUT – Imperial SABER Lab” แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือกระทรวง อว.- Imperial มหาวิทยาลัย Top 5 ของโลก

“ศุภมาส” เปิดศูนย์ “MUT – Imperial SABER Lab” แห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือกระทรวง อว.- Imperial มหาวิทยาลัย Top 5 ของโลก ยกระดับเทคโนโลยีขั้นสูงต่อยอดงานวิจัยด้านเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์และไบโอเซนเซอร์ ขับเคลื่อนไทยสู่การเป็น “ศูนย์กลางนวัตกรรม” ภูมิภาคอาเซียน เผย SABER Lab เป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของการสร้างเครือข่ายนักวิจัยรุ่นใหม่ของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล

เมื่อวันที่ 22 พ.ค.68 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดห้องปฏิบัติการ MUT – Imperial Semiconductor AI & BioSensor Electronics Research Laboratory (SABER Lab) และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (MUT) และ Imperial (Imperail College London) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ต่อยอดงานวิจัยด้านเซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ และไบโอเซนเซอร์ พร้อมขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ ภายในงานมีผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวง อว.เข้าร่วม อาทิ ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ดร.พันธุ์เพิ่มศักดิ์ อารุณี ผู้ช่วยปลัดกระทรวง อว. ศ.ดร.สุรินทร์ คำฝอย รอง ผสอวช. โดยมี รศ.ดร.ภานวีย์ โภไคยอุดม อธิการบดีและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครพร้อมด้วย Provost of Imperial College, Prof. Ian Walmsley Prof. Pantelis Georgiou, Director of Research & SABER Lab Prof. Nigel Brandon, Dean of the Faculty of Engineering และ Prof. Tim Green, Head of Department of Electrical and Electronic Engineering ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

น.ส.ศุภมาส เปิดเผยว่า กระทรวง อว. มุ่งมั่นที่จะเตรียมความพร้อมและพัฒนากำลังคนเพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวง อว.มีแผนงานที่ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่บุคลากรในภาคอุตสาหกรรม นักวิจัย ไปจนถึงการผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรี โท และเอก โดยในอีก 5 ปีข้างหน้า กระทรวง อว. ตั้งเป้าผลิตกำลังคนด้านเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง 80,000 คน, ด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) 150,000 คน และด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) 50,000 คน พร้อมทั้งสนับสนุนโครงการพัฒนากำลังคนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเหล่านี้

“การเปิด SABER Lab ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการวิจัยด้าน AI, เซมิคอนดักเตอร์ และไบโอเซนเซอร์อิเล็กทรอนิกส์ ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทย ห้องปฏิบัติการอันทันสมัยแห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครและ Imperial ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมกันในการสร้างสรรค์อนาคตแห่งนวัตกรรม และที่สำคัญคือการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ที่มีทักษะสูงเพื่อเป็นผู้ขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน ความร่วมมือนี้สอดคล้องกับวาระสำคัญระดับชาติของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมกำลังคนสำหรับอนาคต เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของเราในด้านเซมิคอนดักเตอร์, ไบโอเซนเซอร์ และ AI ดังที่นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่าการลงทุนในบุคลากรสำหรับภาคส่วนที่มีศักยภาพสูงเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย” น.ส.ศุภมาส กล่าวและว่า

ที่สำคัญ SABER Lab ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์วิจัยเท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาไทยได้ทำงานร่วมกับนักวิจัยชั้นนำระดับโลก ได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานอันทันสมัย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีของโลกในศตวรรษที่ 21

รมว.กระทรวง อว. กล่าวต่อว่า MUT–Imperial SABER Lab เป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนนโยบายของกระทรวง อว. ในการพัฒนา "ศูนย์พัฒนากำลังคนด้านเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ" ซึ่งดำเนินการโดย 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดย MUT มีบทบาทสำคัญในการฝึกอบรมเพื่อ Upskill และ Reskill บุคลากร รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับนานาชาติ หนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญคือกับ Imperial ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้ง SABER Lab แห่งนี้และเพื่อเติมเต็มเป้าหมายการพัฒนากำลังคน ทาง MUT ได้จัดสรรทุนการศึกษาระดับปริญญาเอกจำนวน 5 ทุนต่อปี สำหรับนักศึกษาไทยที่สนใจศึกษาต่อด้านเซมิคอนดักเตอร์ที่ Imperial อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี โดย SABER Lab จะเป็นศูนย์กลางในการสนับสนุนงานวิจัย การพัฒนา และการสร้างเครือข่ายนักวิจัยรุ่นใหม่ของไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล

น.ส.ศุภมาส กล่าวทิ้งท้ายว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าห้องปฏิบัติการแห่งนี้จะเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราสามารถบรรลุได้ เมื่อสถาบันการศึกษา รัฐบาล และพันธมิตรระหว่างประเทศมารวมพลังกัน กระทรวง อว. ตั้งตารอที่จะได้เห็นความก้าวหน้าด้านการวิจัย การพัฒนาบุคลากร และการนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นจากความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศและประชาคมโลก ในการร่วมกันสร้างสรรค์อนาคตที่ชาญฉลาดและยั่งยืนยิ่งขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จัดเต็มเทคโนโลยีเฝ้าระวัง-ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์-ฟื้นฟูหลังน้ำลด "ศุภมาส" นำทัพ อว. ระดมทุกหน่วยงานลุยช่วยน้ำท่วม 68

จัดเต็มเทคโนโลยีเฝ้าระวัง-ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์-ฟื้นฟูหลังน้ำลด "ศุภมาส" นำทัพ อว. ระดมทุกหน่วยงานลุยช่วยน้ำท่วม 68 ตอบโจทย์วาระแห่งชาติ “รับมือน้ำ” ตามนโยบายรัฐบาล พัฒนาระบบ AI ครบวงจร แอปเตือนภัยล่วงหน้า 48 ชั่วโมงในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับตำบล แบบเรียลไทม์

บพค. ขานรับนโยบายรัฐมนตรี ศุภมาส “เรียนดี มีความสุข มีรายได้” ผนึกกำลังสภาอุตสาหกรรมฯ ดันบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงร่วมงาน “อว. Job Fair 2025” เปิดรับสมัครกว่า 600 ตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Exhibition Hall 1–2 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดงาน “อว. Job Fair 2025” อย่างเป็นทางการ โดยมีนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อว.

'ศุภมาส' นำทีมผู้บริหารกระทรวง อว. รับฟังข้อเสนอความต้องการของประชาชน อ.นาแก ก่อนการประชุม ครม.สัญจร จ.นครพนม 'ชูกัน กุลวงษา' นักการเมืองคนยาก สส.นครพนม เขต 4 พรรคภูมิใจไทย

กระทรวง อว. พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว “หลุบอีเลิดและดานสาวคอย” 2 แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บนเทือกเขาภูพาน ขณะที่ “ศุภมาส” นำนวัตกรรมโดรนเพื่อการเกษตร ไก่สายพันธุ์ศรีโครตบูรณ์ ปุ๋ยอินทรีย์ เครื่องแปรรูปสมุนไพร แจกจ่ายประชาชนชื่นมื่น

“ศุภมาส” เดินหน้าขับเคลื่อน Soft Power จัดแข่งขันวาดภาพ Thai Youth Street Art ระดับอุดมศึกษา ในหัวข้อ “Dreams of Thailand

กระทรวง อว. นำโดย “ศุภมาส” รมว.อว. และ “สุชาดา” เลขานุการ รมว.อว. เดินหน้าขับเคลื่อน Soft Power ตามนโยบายรัฐบาล จัดประกวดแข่งขันวาดภาพ