วันที่ 9 มิถุนายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมภารกิจสำคัญในการประชุมใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Conference – ILC) สมัยที่ 113 ซึ่งเป็นเวทีไตรภาคีด้านแรงงานระดับโลก โดยได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงคะแนนเสียงอย่างเป็นทางการของประเทศไทย โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนภาครัฐใช้สิทธิลงคะแนนเสียง เพื่อรับรองแผนงานและงบประมาณขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ โดยมี นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เข้าร่วม ณ กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่มีมติเห็นชอบ ได้แก่ แผนงานและงบประมาณ ประจำปี 2569 – 2570 ซึ่งให้ความสำคัญกับมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศ องค์กรไตรภาคี การจ้างงานอย่างเต็มที่และมีผลิตภาพ วิสาหกิจที่ยั่งยืน ความเท่าเทียมระหว่างเพศ โอกาสที่เท่าเทียม ความคุ้มครองทางสังคม และการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล รวมถึงการรับรองอัตราค่าบำรุงสมาชิกในรอบแผนงานดังกล่าวด้วย
.
นายบุญสงค์ กล่าวปิดท้ายว่า การลงคะแนนเสียงครั้งนี้ สะท้อนบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของประเทศไทย ในการมีส่วนร่วมกำหนดทิศทางและความโปร่งใสของการบริหารทรัพยากรในองค์การแรงงานโลก เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อแรงงานทุกประเทศ รวมถึงแรงงานไทยทั้งในและต่างประเทศ
.
ต่อมา นายพิพัฒน์ รมว.แรงงาน ได้มอบนโยบายแก่คณะผู้แทนไทย ณ ที่ทำการคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา โดยเน้นย้ำความสำคัญของบทบาทไทยในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งในด้านสิทธิแรงงาน การพัฒนาทักษะ และหลักประกันทางสังคม เพื่อให้แรงงานไทยพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เช่น AI โครงสร้างประชากร และการจ้างงานยุคใหม่
.
การมอบนโยบายครั้งนี้สะท้อนจุดยืนของรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อน “แรงงานไทยคุณภาพ” ให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล พร้อมส่งเสริมให้ผู้แทนไทยทุกภาคส่วนทำงานอย่างมีเอกภาพในนามของประเทศไทย
.
ในโอกาสนี้ นางสาวปรารถนา ดิษยทัต อุปทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภารกิจดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการขับเคลื่อนภารกิจแรงงานไทยในรูปแบบไตรภาคีบนเวทีโลกในปี 2568 ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเดินหน้าทำงานอย่างใกล้ชิดกับนานาชาติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทย อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลูกจ้างเฮ! ประกันสังคมเพิ่มเงินว่างงาน ‘เลิกจ้าง’ รับสูงสุด 9,000 บาท/เดือน
สำนักงานประกันสังคมประกาศปรับเพิ่มเงินทดแทนกรณีว่างงานจากการถูกเลิกจ้าง จาก 50% เป็น 60% ของค่าจ้างรายวัน จ่ายสูงสุด 9,000 บาทต่อเดือน นาน 6 เดือน รวม 54,000 บาท เริ่มมีผล 28 มิถุนายนที่ผ่านมา
นายจ้างรู้หรือยัง? ลืมทำสิ่งนี้ เสี่ยงทั้งปรับ-ติดคุก ลูกจ้างเสียสิทธิทันที
สำนักงานประกันสังคม เตือนนายจ้างอย่าละเลยขึ้นทะเบียน-ส่งเงินสมทบตามกำหนด ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 20,000 บาท หรือจำคุก 6 เดือน ลูกจ้างอ
ครม. อนุมัติผ่อนผันแรงงานเมียนมา อยู่ในราชอาณาจักรชั่วคราว ทำงานต่อไปถึง 13 ก.พ.69
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเรื่อง การผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ซึ่งได้รับการขยายระยะเวลาการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568
ปลัดแรงงานสั่ง สปส. เร่งเยียวยา 16 ล้าน ครอบครัวเหยื่อไฟไหม้โรงงานสระบุรี
ปลัดกระทรวงแรงงานสั่งสำนักงานประกันสังคมเร่งดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปกระดาษใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยจ่ายสิทธิประโยชน์รวมกว่า 16 ล้านบาท พร้อมจัดทีมลงพื้นที่เยี่ยมญาติ ประสาน สปส.ทุกจังหวัดดูแลสิทธิครบถ้วน
มีผลแล้ว! ลูกจ้างเฮ ประกันสังคมเพิ่มเงินว่างงานกรณีเลิกจ้างเป็น 60%
สำนักงานประกันสังคมประกาศปรับสิทธิ ม.33 ถูกเลิกจ้าง รับเงินทดแทนว่างงานเพิ่มเป็น 60% ของค่าจ้างรายวัน จากเดิม 50% พร้อมขยายรับได้สูงสุด 180 วัน มีผลแล้วตั้งแต่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา
“ปลัดบุญสงค์” ลุยสุราษฎร์ฯ รุกสร้างหลักประกันสังคมแรงงานอิสระ เดินหน้าครอบคลุมทุกพื้นที่ เพิ่มผู้ประกันตน ม.40 ทั่วภาคใต้
วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานเปิด “โครงการประกันสังคมทั่วไทยสู่แรงงานภาคอิสระ รุ่นที่ 5 (ส่วนภูมิภาค)” เพื่อขยายความครอบคลุมของผู้ประกันตนมาตรา 40