5 ข้อดีของ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ทำไมโครงการหรู ถึงเลือกติดตั้ง?

เมื่อพูดถึงวัสดุปูพื้นที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เรียบหรู และสวยงามเหนือกาลเวลา พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ มักถูกยกให้เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับโครงการบ้านระดับ Luxury และคอนโดระดับพรีเมียม ด้วยคุณสมบัติที่รวมข้อดีของไม้จริงและวัสดุสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ไม่เพียงแต่ดูดี แต่ยังตอบโจทย์เรื่องความทนทานและความคุ้มค่าในระยะยาว ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักข้อดีของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ พร้อมทั้งเปรียบเทียบกับพื้นไม้จริงแบบดั้งเดิม รวมถึงเจาะลึกแบรนด์ระดับโลกอย่าง Imondi ที่ได้รับความไว้วางใจจากนักออกแบบชั้นนำ

1. พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood Flooring) คืออะไร

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood Flooring) คือวัสดุปูพื้นที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านความสวยงามแบบไม้จริง และความเสถียรในการใช้งานที่มากกว่าวัสดุไม้แท้ทั้งแผ่น โครงสร้างของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ประกอบด้วยหลายชั้น โดยชั้นบนสุดเป็นไม้เนื้อแข็งแท้ เช่น ไม้โอ๊ค ไม้แอช หรือไม้สัก ซึ่งให้ลวดลายธรรมชาติ สัมผัสจริง และความรู้สึกหรูหราไม่ต่างจากพื้นไม้จริง

จุดเด่นของ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์คือ ชั้นแกนกลางและชั้นล่าง ซึ่งทำจากไม้อัดคุณภาพสูงหรือไม้เนื้อแข็งที่จัดเรียงเสี้ยนสลับทิศทาง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดการหด-ขยายตัวจากความชื้นหรือความร้อน จึงเหมาะกับบ้านที่เปิดแอร์ทั้งวัน คอนโดสูง หรือแม้แต่โครงการที่ใกล้พื้นที่ชื้น เช่น ครัว หรือบริเวณใกล้หน้าต่างบานใหญ่ นอกจากนี้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ยังสามารถติดตั้งได้ง่ายกว่าพื้นไม้จริง โดยมีให้เลือกทั้งระบบ Click Lock และ Tongue & Groove พร้อมผิวหน้าที่ผ่านการเคลือบสำเร็จจากโรงงาน ไม่ต้องขัดหรือทาน้ำยาเคลือบภายหลัง ช่วยลดฝุ่นและระยะเวลาทำงาน onsite ได้อย่างมาก

2. ข้อดีของ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ที่นักออกแบบเลือกใช้ในโครงการหรู

2.1 ความสวยงามแบบไม้จริง – ด้วยชั้นผิวบนที่เป็นไม้แท้ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์จึงให้ความรู้สึกหรูหราและอบอุ่นเหมือนพื้นไม้จริง โดยไม่ต้องกลัวเรื่องการบิดงอหรือโก่งตัว

2.2 ติดตั้งง่ายกว่า – พื้นไม้เอ็นจิเนียร์สามารถติดตั้งได้หลายระบบ เช่น Click Lock หรือ Tongue & Groove ทำให้งานเสร็จเร็ว ไม่ต้องขัดหรือเคลือบผิวหน้างาน

2.3 ทนความชื้นมากกว่าไม้จริง – โครงสร้างหลายชั้นช่วยเพิ่มความเสถียร ทำให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์เหมาะกับบ้านหรือคอนโดที่มีการควบคุมความชื้น

2.4 ประหยัดกว่าในระยะยาว – แม้จะมีต้นทุนสูงกว่าลามิเนต แต่เมื่อเทียบกับไม้จริง พื้นไม้เอ็นจิเนียร์คุ้มค่ากว่าในระยะยาว เพราะไม่ต้องดูแลบ่อยและสามารถขัดผิวใหม่ได้หลายครั้ง

2.5 รองรับงานออกแบบที่หลากหลาย – มีให้เลือกทั้งลายไม้ สี ผิวสัมผัส และรูปแบบการปู เช่น ลายก้างปลา ลายตรง หรือปูแบบไร้รอยต่อ

3. พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ดีกว่า พื้นไม้จริงสมัยก่อนอย่างไร

ในอดีต พื้นไม้จริงทั้งแผ่นอาจมีปัญหาเรื่องการบิดงอ หดตัว หรือไม่เสถียรเมื่อต้องเจอกับความชื้นหรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ แต่พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อลดปัญหาเหล่านั้น โดยยังคงคุณค่าของผิวสัมผัสแบบไม้แท้เอาไว้ ทำให้ได้ทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งในคอนโดสูง พื้นที่ใกล้ห้องน้ำ หรือห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ก็ยังคงเสถียร และไม่เสียรูปง่ายเหมือนพื้นไม้จริงสมัยก่อน

4. ไม้ที่นิยมนำมาปิดผิว พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ มีอะไรบ้าง

• ไม้โอ๊คยุโรป (European Oak) – ลายสวย เสถียร เหมาะกับงานโมเดิร์นและลักซ์ชัวรี
• ไม้แอช (Ash Wood) – ลายไม้เด่น น้ำหนักเบา ให้ความรู้สึกทันสมัย
• ไม้เมเปิล (Maple) – สีอ่อนเรียบ สะอาดตา เหมาะกับสไตล์มินิมอล
• ไม้สัก (Teak) – ทนปลวก ทนน้ำ ผิวไม้มีน้ำมันธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น
• วอลนัท (Walnut) – โทนเข้ม หรูหรา ใช้ในงาน high-end

ไม้แต่ละชนิดให้เอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน และสามารถเลือกลาย ผิวสัมผัส และการเคลือบผิวให้เหมาะกับดีไซน์แต่ละโปรเจกต์ได้อย่างยืดหยุ่น

5. Imondi แบรนด์ พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เกรดพรีเมี่ยม ที่นักออกแบบเลือกใช้

Imondi คือแบรนด์พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ชั้นนำจากยุโรปที่มีชื่อเสียงในด้านการใช้ไม้ FSC-certified และกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน โดดเด่นด้วยลวดลายไม้ธรรมชาติที่หลากหลาย รวมถึงนวัตกรรมพื้นไม้เอ็นจิเนียร์แบบลายก้างปลาและผิว Rustic ที่สวยงามไม่เหมือนใคร Imondi ยังเลือกใช้ไม้ไวท์โอ๊ค (White Oak) และ ไม้แอชคุณภาพสูง พร้อมเคลือบผิวด้วยน้ำยา UV ป้องกันรอยขีดข่วน เหมาะกับทั้งพื้นที่พักอาศัยและโครงการเชิงพาณิชย์ระดับ High-End โดยหลายโครงการ Luxury ในประเทศไทย ต่างเลือกใช้ Imondi เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ และ เพิ่มมูลค่าของงานออกแบบให้ดูพรีเมียม ธรรมชาติ รักโลก และน่าอยู่อย่างแท้จริง โดยปัจจุบันผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการของแบรนด์ Imondi คือ Vk Floor By Viwatchai Kamai ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายพื้นไม้เกรดพรีเมี่ยมจากทั่วโลก ในประเทศไทย ปัจจุบันVk Floor มีประสบการณ์งานไม้มามากกว่า 50 ปีที่บางโพ ส่งมอบผลงานไปแล้วมากกว่า 10,000 ยูนิต ทำให้เรามีบริการ และ สินค้าพื้นไม้ครบ เช่น  พื้นไวนิล (Vinyl Floor), พื้นลามิเนต (Laminate Floor), กระเบื้องยางSPC (SPC Flooring), พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood) จนไปถึง พื้นไม้คอมพาวด์ (Compound Wood)

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของโครงการหรูในยุคนี้ ด้วยคุณสมบัติที่รวมความงามแบบไม้จริงเข้ากับโครงสร้างที่ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และรองรับดีไซน์หลากหลาย แม้จะมีราคาสูงกว่าพื้นลามิเนต แต่เมื่อเทียบกับความคงทน ภาพลักษณ์ที่ได้ และการเพิ่มมูลค่าของโครงการ ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะหากเลือกใช้แบรนด์พรีเมียมอย่าง Imondi ที่มีทั้งคุณภาพ และดีไซน์ที่ตอบโจทย์คนรักโลก รักความเป็นธรรมชาติทุกระดับ

สนใจ พื้นไม้ ติดต่อ

• Line OA : @vkfloor
• Social Media : Vk Floor by Viwatchai
• website : viwatchai.com
• Showroom : ซอยประชานฤมิตร บางโพ กรุงเทพ หรือ บุญถาวรสาขาใกล้บ้านคุณ