ดีพร้อม(DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับวงการเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สร้างอนาคตที่ยั่งยืน

ดีพร้อม(DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับวงการเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สร้างอนาคตที่ยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ “4 ให้ 1 ปฏิรูป” ใช้นวัตกรรมพลิกโฉมธุรกิจ 40 กิจการเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถลดต้นทุนได้ถึง 528,900 บาทต่อปีและเพิ่มรายได้รวมทั้งสิ้น 25,978,520 บาทต่อปี ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้อย่างมหาศาล ชี้เป็นผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ถึงความสำเร็จของนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้”

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.68 นายบูรณะศักดิ์ มาดหมาย ผู้อำนวยการกลุ่มนโยบายและแผนเกษตรอุตสาหกรรม กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือดีพร้อม(DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมหรือดีพร้อม ได้เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายในปีงบประมาณ 2568 ตามแนวทาง “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ภายใต้กลยุทธ์ “4 ให้ และ 1 ปฏิรูป” โดย 4 ให้ ได้แก่ 1.ให้ทักษะใหม่ ผ่าน Upskill, Reskill และ New Skill 2.ให้เครื่องมือที่ทันสมัย ครอบคลุมมาตรฐาน ผลิตภาพ วิจัย นวัตกรรม และเครือข่าย 3.ให้โอกาสในการเติบโต เข้าถึงแหล่งทุน การเชื่อมโยงซัพพลายเชน และตลาดทั้งใน-ต่างประเทศและ 4.ให้ความยั่งยืน ผลักดันแนวคิด BCG และอุตสาหกรรมเชิงพื้นที่ เพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ขณะเดียวกัน ดีพร้อมยังเร่งปฏิรูปองค์กรและบุคลากร โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับการบริการ พัฒนาองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญบุคลากร รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่

นายบูรณะศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในปี 2568 นี้ กองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ใช้นวัตกรรมพลิกโฉมวงการเกษตรไทยโดยดำเนินกิจกรรมพัฒนาเกษตรอัจฉริยะ Smart farm ภายใต้โครงการยกระดับสินค้าเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรม โดยมีการนำเทคโนโลยีระดับโลกมาใช้เพื่อยกระดับธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมของไทยสู่การเป็นผู้นำในตลาดโลก กิจกรรมนี้ได้มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น IoT, AI, Automation Systems, และ Big Data Analytics เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจเกษตร โดยกิจกรรมนี้ไม่ได้แค่เปลี่ยนแปลงการเกษตรแบบเดิมๆ แต่เป็นการยกระดับเกษตรไทยสู่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยให้ธุรกิจเกษตรทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจชุมชน/OTOP สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในทุกมิติ

“การดำเนินการของกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มีสถานประกอบการ กว่า 40 กิจการในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และสมุทรปราการ ได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่เน้นการถ่ายทอดองค์ความรู้และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตและบริหารจัดการ ตั้งแต่การวินิจฉัยศักยภาพธุรกิจจนถึงการให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญ โดยผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงแค่ลดต้นทุนหรือเพิ่มผลผลิตเท่านั้น แต่ยังสร้างมูลค่าใหม่ในธุรกิจเกษตรไทยอย่าง ยั่งยืนและแข่งขันได้ในตลาดโลก โดย 4 กิจการเด่นที่สร้างแรงบันดาลใจและสร้าง Success Cases ที่ได้รับการยกย่องเป็นต้นแบบของความสำเร็จในการใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ได้แก่ ไร่ภูนวพันธุ์ วิสาหกิจชุมชนบ้านซับมะกรูด วิสาหกิจชุมชนเหรียญเจริญสวนสมุนไพรเกษตรธรรมชาติ วิสาหกิจชุมชนภูริธาราพรรณ กิจการเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยี สามารถนำไปสู่ ความสำเร็จ ในการพัฒนาธุรกิจเกษตรและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรไทยได้อย่างชัดเจน” ผอ.กลุ่มนโยบายและแผนเกษตรอุตสาหกรรม ดีพร้อม กล่าวและว่า

จากการดำเนินกิจกรรมพบว่า 40 กิจการที่เข้าร่วม ผลลัพธ์ที่เห็นชัดคือเกษตรกรสามารถลดต้นทุน เพิ่มรายได้และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้อย่างมหาศาล โดยกิจกรรมนี้สามารถ ลดต้นทุน ได้ถึง 528,900 บาทต่อปี และเพิ่มรายได้ รวมทั้งสิ้น 25,978,520 บาทต่อปี ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้ถึงความสำเร็จของกิจกรรมในการส่งเสริมการเกษตรอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน

นายบูรณะศักดิ์ กล่าวด้วยว่า กิจกรรมพัฒนาเกษตรอัจฉริยะ 2568 ไม่เพียงแต่พลิกโฉมธุรกิจเกษตรไทยให้สามารถทำกำไรได้อย่างมหาศาล แต่ยังยกระดับการผลิตไทยให้พร้อมสู่การแข่งขันในระดับสากลอย่างเต็มตัว ด้วยการเตรียมความพร้อมให้ธุรกิจเกษตรสามารถรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในภาคเกษตรอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง กิจกรรมนี้ไม่ใช่แค่การส่งเสริมเทคโนโลยีในเกษตรไทย แต่ยังเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและเป็นโมเดลที่โลกทั้งใบต้องจับตามอง ทั้งนี้ ติดตามความสำเร็จต่อเนื่องได้ที่เว็บไซต์: www.dip.go.th โทรศัพท์: 02-555-5555

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ดีพร้อม’อัดสินเชื่อช่วยเอสเอ็มอี

‘ธนกร’ สั่ง ‘ดีพร้อม’ เร่งเดินหน้า Quick Big Win อัดฉีดสินเชื่อ ‘เงินไว by DIPROM’ ช่วยเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการรายย่อยดอกเบี้ย 50 สตางค์ กระตุ้นโค้งสุดท้ายปลายปี ดีมานด์พุ่ง!! 30%

‘ดีพร้อม’ ปิดฉาก ‘มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM’ อย่างสวยงาม ตอกย้ำพลังซอฟต์พาวเวอร์อาหารและแฟชั่นไทย ดึงคนร่วมงานล้นหลาม สร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 330 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 27 ตุลาคม 2568 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือ ดีพร้อมประกาศความสำเร็จการจัดงาน ‘มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM’ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10–12 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา

‘ดีพร้อม’ ชวนเที่ยวมหกรรม ‘ดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM)’ พบ 4 โซนไฮไลท์ 400 ร้านค้า สัมผัสเสน่ห์อาหาร แฟชั่น วัฒนธรรมไทย ตั้งแต่วันนี้-12 ต.ค.นี้ ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) หรือดีพร้อม จัดงานมหกรรม ‘ดีพร้อมเสน่ห์ไทย (Thai Vibe by DIPROM) รสและศิลป์ไทย ก้าวไกลสู่สากล’ ระหว่างวันที่ 10–12 ตุลาคม 2568 เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย หรือซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ภายใต้นโยบาย ‘ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้

ดีพร้อมจัดใหญ่ ‘มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM’ โชว์ซอฟต์พาวเวอร์อาหารและแฟชั่นไทย สร้างอนาคตใหม่ให้ SMEs คาดดึงคน 30,000 รายเข้างาน กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท

มหกรรมไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยที่ยกระดับเสน่ห์ไทยสู่เวทีโลก โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3

‘เอกนัฏ’ลุยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

“รมว.เอกนัฏ” ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ชื่นชม “ดีพร้อม” โชว์ผลสำเร็จการยกระดับฐานราก สร้างมูลค่าวัตถุดิบพื้นถิ่น ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน