“นาจำปา” ก่อร่างสร้างบ้าน สู่ชีวิตใหม่บนที่ดิน ส.ป.ก.

ตำบลนาจำปา อำเภอดอนจาน จังหวัดกาฬสินธุ์ ในอดีตคือพื้นที่ป่ายูคาลิปตัส พื้นดินทรายเสื่อมคุณภาพ แห้งแล้ง และเต็มไปด้วยปลวก ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานรับจ้างทั่วไป เช่น กรีดยาง ก่อสร้าง หรือรับจ้างรายวัน หลายครอบครัวไม่มีที่ดินของตนเอง บางส่วนต้องบุกรุกป่าเพื่ออยู่อาศัย

ปี 2557 คือจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อรัฐบาลมีนโยบายจัดที่ดินทำกิน (คทช.) ให้เกษตรกร โดยจัดสรรที่ดินในเขต ส.ป.ก. ครอบครัวละ 2 ไร่ 2 งาน ชาวบ้าน 90 ครัวเรือนเข้ามาเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ด้วยสภาพดินแข็ง น้ำประปาและไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง หลายครัวเรือนท้อใจและย้ายออกไป เหลือเพียง 23 ครัวเรือนที่ยืนหยัดต่อสู้ร่วมกัน พวกเขาเริ่มต้นด้วยการรวมกลุ่มตั้งสหกรณ์การเกษตรบ้านดงกล้วยในเขตปฏิรูปที่ดิน จำกัด โดยมีเงินหุ้นตั้งต้นเพียง 2,300 บาท แต่เต็มไปด้วยพลังศรัทธาและความมุ่งมั่นที่จะสร้างชีวิตใหม่

บ้านมั่นคงก้าวแรกสู่รากฐานชีวิต

ปี 2559–2560 สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เข้ามาสนับสนุน “โครงการบ้านมั่นคง” มอบงบประมาณกว่า 3.4 ล้านบาท ให้กับ 90 ครัวเรือนเพื่อก่อสร้างบ้านถาวร สหกรณ์ทำหน้าที่บริหารจัดการ ทั้งการจัดซื้อวัสดุ การจ้างช่างในพื้นที่ และการสร้างงานเสริมรายได้

ปี 2565–2566 มีการพัฒนาสาธารณูปโภคเพิ่มเติม เช่น ถนนลูกรัง หอถังน้ำ ไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบสูบน้ำโซลาร์เซลล์ และตู้น้ำหยอดเหรียญ รวมงบประมาณกว่า 1.3 ล้านบาท ปัจจุบันมีครัวเรือนที่อยู่อาศัยจริงราว 70 ครัวเรือน

สู่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ

สหกรณ์นาจำปาได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์กว่า 1.8 ล้านบาท สร้างอาคารสหกรณ์และให้ทุนหมุนเวียนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อส่งเสริมอาชีพเกษตรผสมผสานและเกษตรอินทรีย์ หน่วยงานต่าง ๆ ยังเข้ามาช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง กรมประมง สนับสนุนการเลี้ยงปลาดุกและกระชังบก กรมหม่อนไหม ส่งเสริมการเลี้ยงไหมและสาวไหม สำนักงานปศุสัตว์ แจกโคเนื้อครัวเรือนละ 5 ตัว และอบรมเลี้ยงไก่ไข่–จิ้งหรีด กรมพัฒนาที่ดิน สนับสนุนปุ๋ยอินทรีย์และไดโลไมต์ ศูนย์วิจัยเกษตรฯ ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านสารชีวภัณฑ์แทนเคมี

วันนี้ชุมชนมีรายได้หลายทาง ทั้งกลุ่มเลี้ยงไหม 17 ราย เลี้ยงจิ้งหรีด 7 ราย เลี้ยงปลาดุก 30 ราย และปลูกผัก 23 ราย รวมทั้งยังคงรับจ้างกรีดยางควบคู่ไปด้วย

สหกรณ์คือหัวใจการจัดการ

สหกรณ์บ้านมั่นคงนาจำปาไม่ใช่แค่แหล่งเงินทุน แต่เป็น “ศูนย์กลางการจัดการชุมชน” ครอบคลุม 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ การจัดหา เมล็ดพันธุ์คุณภาพราคาย่อมเยา ธุรกิจรวบรวมผลผลิต รับซื้อจากสมาชิกเพื่อนำไปขายต่อธุรกิจสินเชื่อ ปล่อยกู้ไม่เกิน 30,000 บาท ดอกเบี้ย 5% ธุรกิจเงินฝาก ดอกเบี้ย 2% ฝากขั้นต่ำปีละ 400 บาทธุรกิจบริการ เช่น เตาถ่าน ตู้น้ำหยอดเหรียญ โรงเรือนปลูกผัก บริการซ่อมระบบน้ำ ปี 2567 สหกรณ์มีทุนเรือนหุ้นสะสมกว่า 320,000 บาท และทุนสำรองกว่า 500,000 บาท ปล่อยกู้ให้สมาชิกไปแล้วกว่า 800,000 บาท และปิดหนี้กับกรมส่งเสริมสหกรณ์เรียบร้อย

สวัสดิการดูแลกันทุกช่วงชีวิต

สหกรณ์กันรายได้ 5–10% เพื่อกองทุนสวัสดิการ ได้แก่ กองทุนบ้านมั่นคง ช่วยเหลือผู้ประสบภัย 5,000–10,000 บาท กองทุนฌาปนกิจ มอบเงินทำศพ 3,000 บาท สำหรับสมาชิกและครอบครัว ทุนสาธารณประโยชน์ แจกถุงยังชีพช่วงโควิด-19 ทุนการศึกษาและอบรม ส่งเสริมการเรียนรู้ให้เยาวชนและสมาชิก

ชุมชนสีเขียวและหลุมพอเพียง

ชุมชนยังปรับพื้นที่ให้เป็นระบบนิเวศยั่งยืน มีการปลูกยางนาและไม้ใหญ่เพื่อสร้างป่าเห็ดระโงก จัดโซนเลี้ยงสัตว์และบ่อปลาให้พึ่งพากันได้ เช่น ใช้มูลสัตว์ทำปุ๋ย และนำน้ำจากบ่อเลี้ยงปลาไปรดผัก อีกหนึ่งนวัตกรรมคือ “หลุมพอเพียง” แปลงเกษตรผสมผสานขนาดเล็กที่ปลูกผัก สมุนไพร ไม้ผล และไม้ยืนต้นร่วมกัน ช่วยลดรายจ่าย เพิ่มอาหารปลอดภัย และสร้างรายได้เสริมจากการขายผักส่วนเกิน

ความท้าทายและอนาคต

แม้จะพัฒนามาก แต่ชุมชนนาจำปายังเผชิญปัญหาหลัก 3 ด้าน คือ 1.อ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ยังไม่พอรองรับหน้าแล้ง 2. ถนนลูกรังภายในชุมชนต้องการการพัฒนาเพิ่มเติม 3. ชุมชนจึงมีแผนต่อยอด เช่น การพัฒนา โฮมสเตย์เชิงเรียนรู้ การสร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชน และการร่วมมือกับ อบต. เพื่อเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและระบบน้ำ

จากกระท่อมหลังคารั่วที่เคยต้องหนีฝนใต้ต้นไม้ วันนี้คนในชุมชนมีบ้านที่มั่นคง ถนน น้ำประปา ไฟฟ้า และรายได้ที่เลี้ยงดูครอบครัวได้ เรื่องราวของบ้านมั่นคงนาจำปา คือบทพิสูจน์ว่า เมื่อคนในชุมชนลุกขึ้นจับมือกัน “ความฝัน” ก็สามารถกลายเป็น “ความจริง” ได้ นี่คือการสร้างระบบชุมชนที่เข้มแข็ง ยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ต้นเรื่อง : เกศราภรณ์ โพธิ์ศรี
เรียบเรียง : ศิริพร ฉุนตู

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต

นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน

“ธรรมนัส-อัครา” มอบบ้านมั่นคง พร้อมประกาศชัด ดัน “สหกรณ์บ้านมั่นคง” ยกระดับสู่ “สหกรณ์ประเภทที่ 8”

รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง

คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568

ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’

จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่

เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี

ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ

ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง

หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"

คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน