ปล่อย ‘ปลานักล่า’ กรมประมงผนึกซีพีเอฟ ใช้วิถีธรรมชาติ ลดปลาหมอคางดำ ฟื้นสมดุลแหล่งน้ำ

การปล่อยปลานักล่า ช่วยลดปลาหมอคางดำได้ผล กรมประมงผนึกกำลังทุกภาคส่วนและชุมชน เดินหน้ามาตรการควบคุมและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วประเทศ ผ่านกิจกรรมการปล่อยพันธุ์ปลาผู้ล่าอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมสนับสนุนผลิตและส่งมอบลูกพันธุ์ปลากะพงขาว ขนาด 4–5 นิ้ว เพื่อปล่อยลงในจังหวัดต่างๆ 

ตามที่ กรมประมงเปิดปฏิบัติการปล่อยปลาผู้ล่า เป็นมาตรการที่ 2 จาก 7 มาตรการภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ ปี 2567 – 2570 เพื่อกำจัดลูกปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ มุ่งเน้นการจัดหาพันธุ์ปลาผู้ล่า ประกอบด้วย ปลากะพงขาว ปลาอีกง ปลากดเหลืองที่มีความเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่  ปฏิบัติการกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติโดยการปล่อยปลาผู้ล่า โดยในปีนี้ ซีพีเอฟมีส่วนร่วมสนับสนุนผลิตและส่งมอบลูกพันธุ์ปลากะพงขาวจำนวน 400,000 ตัว  ที่ผ่านมา ซีพีเอฟได้ทยอยส่งมอบพันธุ์ปลากะพงขาวให้แก่ประมงจังหวัดเพื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ตามแผนงานของกรมประมง อาทิ จังหวัดเพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม ฉะเชิงเทรา นครศรีธรรมราช เป็นต้น ซึ่งส่งมอบไปแล้วกว่า 80,000 ตัว

นายประจวบ เจี้ยงยี่ ประมงจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า การปล่อยปลาผู้ล่าเป็นมาตรการที่ 2 จากทั้งหมด 7 มาตรการ ภายใต้  “แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ ปี 2567–2570” ที่กรมประมงวางแนวทางไว้อย่างเป็นระบบ โดยมาตรการนี้เน้นการใช้วิธีทางธรรมชาติ เป็นกลไกสำคัญในการควบคุมการระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องกับการลงแขกลงคลอง เพื่อลดจำนวนปลาต่างถิ่นขนาดใหญ่ออกจากแหล่งน้ำ  ปลาผู้ล่าจะทำหน้าที่ช่วยกำจัดลูกปลาหมอคางดำ เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดไม่ให้ขยายวงกว้าง

ด้านนายสมพร เกื้อสกุล ประมงจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า การปล่อยปลานักล่าเห็นผลช่วยควบคุมประชากรปลาหมอคางดำได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง  จากการสำรวจหลังปล่อยปลากะพงขาว ทำให้ปริมาณปลาหมอคางดำลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และยังมีส่วนช่วยเพิ่มพันธุ์ปลาในแหล่งน้ำ เมื่อปลากะพงขาวเติบโตเต็มที่ เกษตรกรสามารถจับมาบริโภคหรือจำหน่ายเป็นรายได้เสริม นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมงปล่อยปลายังช่วบสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูความสมดุลของระบบนิเวศของแหล่งน้ำในท้องถิ่นตนเอง

นอกจากการสนับสนุนพันธุ์ปลาเพื่อปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติแล้ว ซีพีเอฟยังได้ร่วมมือกับสำนักงานประมงจังหวัดใน 5 พื้นที่ ได้แก่ เพชรบุรี สมุทรสงคราม นครศรีธรรมราช สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ดำเนินโครงการ “กองทุนปลากะพง” เพื่อสนับสนุนเกษตรกรรายย่อยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสามารถจัดการปัญหาปลาหมอคางดำในบ่อเลี้ยง ลดความเสียหายต่อผลผลิต สร้างโอกาสทางอาชีพ และเสริมรายได้ให้กับชุมชน  โดยที่ผ่านมา ได้ดำเนินการส่งมอบลูกพันธุ์ปลากะพงขาวให้เกษตรกรในจังหวัดเพชรบุรี สมุทรสงคราม และนครศรีธรรมราชแล้วรวม 30,000 ตัว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อิ่มบุญ อิ่มท้อง กับบูธ CPF ในงานกาชาด 68 ร่วมส่งพลังแห่งการให้ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 21 ธ.ค. ที่สวนลุมฯ

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สานต่อความตั้งใจ จัดกิจกรรม “ทุกการซื้อ คือพลังแห่งการให้” พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนมีส่วนร่วมส่งต่อพลังแห่งการให้ไปด้วยกัน

“นวัตกร” ซีพีเอฟ มุ่งยกระดับการผลิตอาหารสัตว์ด้วย AI และดิจิทัล ขับเคลื่อนการสร้างอาหารปลอดภัยสู่ผู้บริโภค หนุนความมั่นคงทางอาหาร

“นวัตกรรม” คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการยกระดับศักยภาพการแข่งขัน ช่วยผลักองค์กรให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมากขึ้น การพัฒนา

ซีพีอาสา ลุยช่วยน้ำท่วมใต้ 10 จังหวัด

ซีพีอาสา ร้อยเรียงใจช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ตั้งศูนย์ช่วยเหลือครอบคลุม 10 จังหวัด ระดมทุกบริษัทในเครือเข้าช่วยทันที ซีพีเอฟ ส่งทีมเคลื่อนที่เร็วสนับสนุนวัตถุดิบสดให้ครัวสนามพระราชทาน–ครัวกลางคู่ค้า ซีพีเอ็กซ์ตร้า แม็คโคร–โลตัส เติมไข่ไก่และวัตถุดิบช่วยนิสิต–ชุมชน ทรู คอร์ปอเรชั่น มอบเน็ตฟรี แถมขยายวันใช้งาน พร้อมเสริมสัญญาณมือถือ–เน็ตบ้านทุกจุดเสี่ยง เครือซีพีร่วมส่งพลังใจให้พี่น้องภาคใต้ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้โดยเร็ว

เก็บตกจากงานเสวนา...กรมประมงชี้ปลาหมอคางดำลดลงชัดเจน สะท้อนผลสำเร็จมาตรการบูรณาการทั่วประเทศ

กรมประมงรายงานสถานการณ์ปลาหมอคางดำจากการสำรวจในพื้นที่ระบาดและพื้นที่กันชนล่าสุด มีความคืบหน้าเชิงบวกจากการดำเนินมาตรการอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลสำรวจเดือนกันยายน 2568 พบว่าพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดลดลงเหลือ 17 จังหวัด จากเดิม 19 จังหวัด

“ซีพีเอฟอยู่เคียงข้างทุกวิกฤต” ส่งความช่วยเหลือถึงคนอ่างทอง เติมกำลังใจฝ่าน้ำท่วม

สถานการณ์น้ำในหลายจังหวัดของประเทศไทยขณะนี้ยังคงต้องจับตา หลายพื้นที่โดยเฉพาะในลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนและ