
จากจุดเริ่มต้นในการสร้างความตื่นตัวเรื่องความยั่งยืนในกลุ่มคนทั่วไปและองค์กรชั้นนำเมื่อ 6 ปีก่อน วันนี้งานมหกรรมความยั่งยืนประจำปี 2025 หรือ Sustainability Expo 2025 (SX2025) ได้ขยายผลด้านความร่วมมือเชิงธุรกิจออกไปอีกขั้น คาดว่าในปีนี้ จะมีองค์กรในภาครัฐและเอกชนหลายรายที่ได้เริ่มเปิดการเจรจาความร่วมมือในปีที่แล้ว จะสามารถสรุปผลและนำไปสู่ความร่วมมืออย่างจริงจังกันในปีนี้
นอกจากการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ สำหรับสาธารณชนแล้ว เวทีกิจกรรมเชิงธุรกิจซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลักของงาน SX2025 เป็นอีกหนึ่งกลไกที่ขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืนในหลายมิติ ที่ไม่ใช่แค่ระดับนโยบายเท่านั้น แต่เกิดกิจกรรมทางธุรกิจขึ้นจริงๆ
ออสเตรเลีย หนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการเกษตรและมีความก้าวหน้าเรื่องกิจกรรมด้านความยั่งยืนมากในภูมิภาคนนี้ เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจและมีบทบาทในเวทีกิจกรรมเชิงธุรกิจของงาน SX มาตลอด

ในปี 2024 ที่ผ่านมา สำนักงานการพาณิชย์และการลงทุนออสเตรเลีย (ออสเทรด) ได้นำทีม บริษัทและสถาบันชั้นนำของออสเตรเลียมาร่วมนำเสนอข้อมูลและพบปะกับหน่วยงานของไทย เพื่อสำรวจโอกาสที่จะร่วมมือกันสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ผ่านเทคโนโลยีการเกษตร เมืองอัจฉริยะ ทักษะสีเขียว (Green Skills) หรือทักษะที่จะทำให้คนยุคใหม่ใช้ชีวิตหรือดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโลกของเราได้มากขึ้น

อมีเลีย วอลช์ ทูตพาณิชย์และการลงทุนอาวุโสและอัครราชทูตที่ปรึกษา (การพาณิชย์) สำนักงานการพาณิชย์และการลงทุน (ออสเทรด) เล่าว่า หลังจากการเข้าร่วมงานในปีที่แล้ว ประเทศออสเตรเลียได้ทำงานอย่างต่อเนื่องร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้า และบริษัทเอกชนทั้งกลุ่มที่มีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอยู่แล้วและกลุ่มที่กำลังมองหาโอกาสร่วมเป็นพันธมิตรกับประเทศไทย
ขณะเดียวกันบริษัทของออสเตรเลียได้แสดงความสนใจที่จะมาทำธุรกิจหรือร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรของไทยหลายราย โดยเฉพาะในกลุ่มที่ทำธุรกิจด้านเทคโนโลยีการเกษตร Biochar หรือการนำของเสียของเหลือใช้จากการทำการเกษตร มาทำปุ๋ยหรือปรับปรุงคุณภาพดินแทนการเผาทิ้ง อุปกรณ์ติดปศุสัตว์เช่น สุกร เพื่อติดตามดูสุขภาพสัตว์ และมหาวิทยาลัยเมอร์ด็อก (Murdoch University) ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเปิดห้องปฏิบัติการวิจัยในหัวข้อ “การใช้ประโยชน์จากขยะและเศรษฐกิจหมุนเวียน” เพื่อส่งเสริมการวิจัยและการฝึกอบรมร่วมกันในการเปลี่ยนขยะ เช่น ฟางข้าว เศษอาหารและผลไม้ ให้เป็นไบโอพอลิเมอร์และพลาสติกชีวภาพ

นอกจากนี้ หลายบริษัทที่ได้มีการเจรจาเป็นพันธมิตรกับบริษัทในประเทศไทยยังเตรียมที่จะเซ็นสัญญาความร่วมมือเพื่อทำเรื่องความยั่งยืนให้เกิดเป็นรูปธรรม
นอกจากกิจกรรมที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างองค์กรของประเทศต่างๆ แล้ว เวทีกิจกรรมเชิงธุรกิจที่ชั้น 2 ภายในงาน SX2025 ยังมีการเสวนาและการพบปะของภาคธุรกิจอีกมากมาย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างองค์กรต่างๆ อาทิ การพบปะและแลกเปลี่ยนความเห็นและประสบการณ์ของวิสาหกิจชุมชน องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ทำงานด้านความยั่งยืน บทบาทของการศึกษาที่จะกำหนดอนาคตอุตสาหกรรมต่างๆ ในอาเซียน การเสวนาเรื่องความมั่นคงของทรัพยากรน้ำ การนำเสนอเทคโนโลยีเรื่องเมืองอัจฉริยะของประเทศจีน และการพบปะกันระหว่างประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายความยั่งยืนขององค์กรชั้นนำของไทยและประเทศต่างๆ ในภูมิภาค
แม้ว่ากิจกรรมเหล่านี้จะเป็นเวทีที่ไม่ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าฟัง แต่เป็นเวทีที่มีพลังและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืนที่ภาคเอกชนและภาคธุรกิจต่างก็ให้ความสำคัญ และส่งผลให้เกิดการลงมือทำจริง งานมหกรรมความยั่งยืนหรือ Sustainability Expo จึงเป็นแพลตฟอร์มสำหรับทุกคนในสังคม ที่จะผลักดันให้เกิดแรงกระเพื่อมได้จริงๆ
ติดตามข่าวสารด้านความยั่งยืนได้ทาง Facebook Page : Sustainability Expo, www.sustainabilityexpo.com “พอเพียง ยั่งยืน เพื่อโลก” เพราะโลกที่ดีกว่า...เริ่มต้นได้จากเราทุกคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มคริสตอลลา มอบคาร์บอนเครดิต 1,200 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ให้งาน SX2025
กลุ่มคริสตอลลา มอบคาร์บอนเครดิต 1,200 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ขับเคลื่อนมหกรรมด้านความยั่งยืนครั้งยิ่งใหญ่ สู่ CARBAR NEUTRAL EVENT
เสียชีวิตเฉียบพลัน ป้องกันได้ด้วยการหมั่นเช็คอาการหัวใจและคุณภาพการนอน
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมนักกีฬาฟุตบอลระดับโลก นักวิ่งมาราธอน นักไตรกีฬา หรือแม้แต่คนที่ออกกำลังกายในยิม ถึงเสียชีวิตเฉียบพลันคาสนามได้ทั้งที่อายุไม่ถึง 30 ปี
“กรกต อารมย์ดี” ยกระดับจักสานไทยสู่เวทีโลก คว้าแชมป์ Win Win War Season 7
จากลูกชาวประมง สู่แชมป์นักธุรกิจแบ่งปัน ผู้ปลุกภูมิปัญญาจักสานไทย สร้างรายได้ให้ช่างพื้นบ้าน 400 คนด้วยงานคราฟต์
From Climate Change to Disaster จากวิกฤตภูมิอากาศสู่หายนะซ้ำซ้อน เราจะปรับตัวทันหรือไม่?
ครั้งหนึ่งภัยพิบัติจากภาวะโลกร้อนถูกพูดถึงในฐานะ “ปัญหาในอนาคต” แต่ปัจจุบันความถี่และความรุนแรงของพายุที่ซัดถล่ม น้ำท่วมใหญ่ คลื่นความร้อนที่ยาวนาน
คณะเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 เรียนรู้แนวคิด Rapartment Store พร้อมต่อยอดธุรกิจ ในพื้นที่ภูมิลำเนา ขับเคลื่อนเศษฐกิจที่บ้านเกิด จุดประกายพลังเยาวชนเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
เมื่อวันจันทร์ 3 ตุลาคม 2568 คณะเยาวชน โครงการ “ สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 45 จากพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 320 คน ได้แก่ จังหวัดปัตตานี นราธิวาส สตูล ยะลา และสงขลา
เมื่อชาวบ้านเป็นเจ้าของตลาด: บทพิสูจน์ CBT ไทยที่ไม่ต้องพึ่งงบรัฐ 4 โมเดลท่องเที่ยวชุมชนที่ยืนหยัดได้หลังโควิด
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable Tourism) กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากขึ้น เพราะการท่องเที่ยวไม่ใช่เพียงกิจกรรมพักผ่อนหรือการสร้างรายได้


