
รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ผนึกกำลัง 2 กระทรวง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานงานสัมมนาเครือข่ายสหกรณ์บ้านมั่นคง พร้อมมอบบ้านมั่นคงให้สมาชิกสหกรณ์ฯ นนทบุรี ก่อนลงนาม MOU 4 ฝ่าย และรับข้อเสนอเชิงนโยบายจากขบวนคนจนฯ เพื่อผลักดัน "สหกรณ์ชุมชนบ้านมั่นคง" ให้ก้าวสู่การเป็นสหกรณ์ประเภทที่ 8 สร้างรากฐานความมั่นคงที่ยั่งยืนให้ชุมชนทั่วประเทศ

ผนึก 2 กระทรวงใหญ่ ขับเคลื่อน "ชุมชนเข้มแข็ง" ด้วยกลไกสหกรณ์
นนทบุรี – วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ร่วมลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและส่งมอบโครงการ "บ้านมั่นคง" ให้แก่สมาชิก สหกรณ์บริการเคหสถานสามัคคีติวานนท์ จำกัด ณ เทศบาลนครปากเกร็ด

การลงพื้นที่ดังกล่าว เพื่อติดตามผลการดำเนินงานของโครงการบ้านมั่นคง และร่วมในพิธี มอบบ้านมั่นคง จำนวน 59 หลัง เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มั่นคงให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ โครงการนี้ถือเป็นรูปธรรมความสำเร็จที่เปลี่ยนจากการบุกรุกมาเป็นการพัฒนาที่ดินด้วยกลไกสหกรณ์ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมความพยายามของสมาชิกในการรวมกลุ่มและจัดการตนเอง พร้อมตอกย้ำว่า "กลไกสหกรณ์คือเครื่องมือสร้างความมั่งคั่ง" ที่สอดคล้องกับภารกิจบูรณาการของทั้งสองกระทรวง
ลงนาม MOU 4 ฝ่าย และรับข้อเสนอดันตั้ง "สหกรณ์ประเภทที่ 8"

รองนายกฯ ธรรมนัส พรหมเผ่า และ รมว.พม. อัครา พรหมเผ่า ได้เดินทางไปเป็นประธานงานสัมมนา“เครือข่ายสหกรณ์ชุมชนบ้านมั่นคง เครื่องมือการพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง” พร้อมเป็นสักขีพยาน พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ๔ ฝ่าย ระหว่าง กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เครือข่ายสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคง ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการและการบัญชีให้กับสหกรณ์ทั่วประเทศ พร้อมได้มอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่สหกรณ์ที่มีระบบบริหารจัดการที่ดี นักบัญชีอาสา และหน่วยงานสนับสนุน จำนวน 294 รางวัล
โดยมีผู้เข้าร่วมจาก ผู้แทนจากสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคง หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง กว่า 1,200 คน ณ ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพคฟอรั่ม ฮอลล์๔ เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

ย้ำสิทธิพื้นฐานประชาชน ดัน 'สหกรณ์ชุมชนบ้านมั่นคง' สู่ 'ประเภทที่ 8'
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สหกรณ์ฯ เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบาย “บ้านมั่นคง” ของรัฐบาล ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ กลุ่มเปราะบาง และ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ในเมืองและชนบทที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัยมาอย่างยาวนานโครงการบ้านมั่นคงและการจัดตั้งสหกรณ์เคหสถานทั่วประเทศ เป็น เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างเป็นระบบ ที่ผ่านมาได้เห็นความสำเร็จในการสร้างบ้านที่มั่นคง การจัดหาที่ดิน การรวมกลุ่มออมทรัพย์ และการจัดตั้งสหกรณ์ที่สามารถบริหารจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสะท้อนถึงพลังของชุมชนและความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคีเครือข่าย

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อ ในฐานะตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะขับเคลื่อนนโยบายในการยกระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้น การส่งเสริม ธรรมาภิบาล และ การบริหารจัดการที่โปร่งใส การพัฒนาศักยภาพบุคลากรและการนำ เทคโนโลยี มาใช้ในการบริหาร การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง

เห็นด้วยและพร้อมในการสนับสนุนการขับเคลื่อนสหกรณ์ชุมชนบ้านมั่นคงให้เป็น “สหกรณ์ประเภทที่ ๘” ผลักดัน ให้เกิดการจัดตั้ง “ชุมนุมสหกรณ์ชุมชนบ้านมั่นคง จำกัด” เพื่อเป็นกลไกกลางในการประสานงาน ส่งเสริม และพัฒนาความเข้มแข็งของเครือข่ายสหกรณ์ทั่วประเทศ และขอให้ทุกภาคส่วน ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และทำความเข้าใจหลักการสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์ชุมชนบ้านมั่นคงเป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ สังคม และที่อยู่อาศัย พร้อมทั้งขับเคลื่อนให้เกิดความเป็นธรรมและความเสมอภาคในสังคมไทย ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว
พม. ชู ‘บ้านมั่นคง’ กลไกหลักสร้างความเป็นธรรมในสังคม

นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าวว่า “เครือข่ายสหกรณ์ชุมชนบ้านมั่นคง เครื่องมือการพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง” โดยเน้นย้ำถึงภารกิจหลักในการ ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยเฉพาะสิทธิในการมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมได้มอบหมายให้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสิทธิการมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ผ่านการสนับสนุน การดำเนิน โครงการบ้านมั่นคง และ การพัฒนาชุมชนริมคลอง การแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยจากการพัฒนาระบบราง เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานและปลอดภัย
นายอัครา เน้นย้ำว่า การพัฒนาคุณภาพชีวิตภายใต้โครงการบ้านมั่นคง มุ่งเน้นการ มีส่วนร่วมของประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยการส่งเสริมให้เกิด การ รวมกลุ่มออมทรัพย์และการจัดตั้งสหกรณ์ชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อเพื่อการอยู่อาศัย การสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ในการจัดตั้งองค์กรชุมชนที่สามารถ บริหารจัดการตนเอง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งด้านการเงิน การก่อสร้าง และการพัฒนาสวัสดิการภายในชุมชน การเกิดความร่วมมือและ บูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
“การดำเนินงานภายใต้โครงการบ้านมั่นคง ถือเป็น กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคม โดยมีหน่วยงานจากภาคส่วนต่าง ๆ เป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อสร้างความเป็นธรรมและความเสมอภาคในสังคมไทย” รมว.พม. กล่าว
พอช. เดินหน้าตามแผนแม่บท ๒๐ ปี เน้นชุมชนมีส่วนร่วม

นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย พอช. ดำเนินการสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อยในเมืองและชนบท ตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) วิสัยทัศน์ คือ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนหน้าและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี ๒๕๗๙ (Housing For All)” โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสร้างโอกาสด้านที่อยู่อาศัย พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการแก้ไขปัญหาและพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน มีสภาพแวดล้อมที่ดี และสามารถเข้าถึงระบบการเงินและสินเชื่อเพื่อการอยู่อาศัย โดยเน้น การมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกระดับ

นายกฤษดา กล่าวถึง ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาว่า ระหว่างปี พ.ศ. 2560 – 2568 ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ครอบคลุม 60 จังหวัด 378 เมือง/ตำบล รวมทั้งสิ้น 1,931 ชุมชน และ 55,288 ครัวเรือน โดยแบ่งเป็น 3 โครงการหลัก คือ โครงการบ้านมั่นคง 44,531, ครัวเรือน โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลอง 7,528 ครัวเรือน โครงการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยจากการพัฒนาระบบราง 3,229 ครัวเรือน ปัจจุบันดำเนินงานภายใต้สหกรณ์บ้านมั่นคง 515 แห่ง ทั่วประเทศ โดยมีผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นคือ การสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยและที่ดิน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนผ่านการรวมกลุ่มออมทรัพย์และจัดตั้งสหกรณ์ และการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีพัฒนา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัยกรุงเทพมหานคร จัดเวทีดำเนินโครงการบ้านมั่นคงพลัส ระดมความคิด เดินหน้าแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย วางแผนขับเคลื่อนสู่อนาคต
นายจิตรกร พยัฆโส รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย จัดเวทีโครงการบ้านมั่นคงพลัส แบ่งกลุ่มย่อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกับสำนักงานเขต ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนงาน
คนจนทั่วประเทศกว่า 5 พันคน รวมพลังยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาล “ที่อยู่อาศัย คือสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน” ไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2568
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’
จากความไม่มั่นคงสู่ชุมชนต้นแบบ....บ้านมั่นคงเจริญชัยนิมิตใหม่
เรื่องราวของ ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เป็นบทพิสูจน์ที่ว่า การรวมพลังและหัวใจของ "คนในชุมชน" พวกเขาพลิกจากอดีตชุมชนแออัดริมทางรถไฟที่มีอายุเก่าแก่กว่า 50 ปี
ชุมชนสวนพลู จากสลัม สู่บ้านมั่นคงโมเดล ใจกลางกรุงเทพฯ
ในอดีต ชุมชนสวนพลูเป็นพื้นที่แออัดใจกลางเมืองที่ประสบปัญหามากมาย ทั้งการอยู่อาศัยอย่างไม่มั่นคงบนที่ดินกรมธนารักษ์, ปัญหาอาชญากรรม, และเศรษฐกิจที่เปราะบาง
หินเหล็กไฟ “ชุมชนผู้ไม่ยอมแพ้"
คำกล่าวที่ว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ๆ และไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" ดูจะตรงกับเรื่องราวของ "ชุมชนหินเหล็กไฟ" มากที่สุด ที่ซึ่งอดีตผู้บุกรุกที่ดินรถไฟริมทางรถไฟหัวหิน
แหลมโพธิ์ จากปัญหาสู่การพัฒนาที่เข้มแข็ง
บ้านในความหมายของคนตำบลแหลมโพธิ์ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี คือรากฐานของชีวิต ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่เป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล ทำให้พื้นที่จำกัดและเกิดปัญหาความแออัด ที่อยู่อาศัยทรุดโทรมจากการสร้างด้วยวัสดุไม่คงทน และการรวมตัวกันของครอบครัวขยาย รวมถึงรายได้ที่ไม่แน่นอนจากการประกอบอาชีพประมง นำไปสู่ปัญหาทางสังคมอื่นๆ ตามมา


