สสส. ผนึกกำลัง 10 หน่วยงาน 100 ภาคี เตรียมจัดงานThailand National PM 2.5 Forum #2 เปลี่ยนระบบ เชื่อมข้อมูล ขับเคลื่อนอากาศสะอาด

            สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการประชุมระดับชาติ เรื่อง มลพิษทางอากาศ PM2.5 ครั้งที่ 2 (Thailand National PM2.5 Forum #2) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20-21 ม.ค. 2569 ภายใต้แนวคิดหลัก Transforming Systems Together : เปลี่ยนระบบ เชื่อมข้อมูล ขับเคลื่อนอากาศสะอาดร่วมกัน โดยเชื่อมข้อมูล-วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี ขับเคลื่อนนโยบาย เปิดพื้นที่ปฏิบัติการ สรรค์สร้างอากาศสะอาด ร่วมกันออกแบบกลไกการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างเป็นระบบ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ประเทศไทยเผชิญปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 ต่อเนื่องยาวนานกว่า 20 ปี ซึ่งปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ซับซ้อน จำเป็นต้องแก้ไขด้วยข้อมูลวิทยาศาสตร์ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน งานประชุมวิชาการระดับชาติ เวทีที่รวมผู้กำหนดนโยบาย นักวิจัย นักวิชาการ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และเครือข่ายท้องถิ่นที่จะมาร่วมกันในการจัดการปัญหา สร้างการเปลี่ยนระบบ เพื่ออากาศสะอาดอย่างยั่งยืน

ดร.สุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า การแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เป็นปัญหาเชิงระบบ ไม่สามารถแก้ไขได้โดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อจัดการที่ต้นเหตุอย่างยั่งยืน การประชุมระดับชาติ จึงเป็นพื้นที่สำคัญที่ช่วยเชื่อมโยงงานวิชาการ ข้อมูล และความร่วมมือ ไปสู่การกำหนดทิศทางการทำงาน ตลอดจนพัฒนานโยบายและมาตรการที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในพื้นที่ ​ เพื่อเป้าหมายร่วมคือการทำให้อากาศสะอาดเป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนเข้าถึงได้”

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานสภาลมหายใจกรุงเทพฯ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นควันเกิดจากหลายสาเหตุ ที่ผ่านมาสภาลมหายใจกรุงเทพฯ ได้ประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อหาทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นควันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีปัญหาต่อเนื่องยาวนาน

งานประชุม Thailand National PM 2.5 Forum ครั้งที่ 2 จะเชื่อมโยง ผู้กำหนดนโยบาย (ภาครัฐ) นักวิจัย ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคท้องถิ่น ร่วมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5  โดยจะสะท้อนให้เห็นว่าปัญหา PM 2.5 นี้ เป็นผลลัพธ์ของระบบที่ซับซ้อนในหลายมิติทั้งสุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม การคมนาคม ต่างประเทศ การใช้พลังงาน ความมั่นคงของมนุษย์ และการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบโครงสร้างของสังคม จึงเป็นหัวใจและจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยการเปิดเผยข้อมูล การแลกเปลี่ยนความรู้ และการประสานความร่วมมือข้ามเขต ข้ามหน่วยงาน ข้ามพรมแดน พร้อมเปิดมุมมองใหม่ ๆ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนสู่การหายใจที่สะอาดและปลอดภัยของทุกคน

โดยจะมีภาคีเข้าร่วม 100 องค์กร ร่วมผลักดันให้เกิดข้อเสนอเชิงนโยบาย มาตรการปฏิบัติการเชิงพื้นที่ โมเดลการจัดการที่สามารถนำไปใช้ในทุกภูมิภาคของประเทศ และผลักดัน พ.ร.บ.บริหารจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมการประชุมฯ ได้ที่ https://www.breathebangkok.org/pm25forum/  โดยจะจัดขึ้นในวันที่ 20-21 มกราคม 2569 ณ อิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“เติมพลังใจ” สร้างการเรียนรู้ 1 ปีบัสนร.ไฟไหม้

กิจกรรม “เติมพลังใจ” สร้างการเรียนรู้ความปลอดภัยทางถนนแก่เด็กนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และชุมชน เพื่อยกระดับมาตรฐาน “รถรับส่ง-คนขับ” สร้างการเรียนรู้ ป้องกันเหตุซ้ำรอย

“พลังรัก–ศรัทธา"ร่วมวางรากฐานใหม่ สู่ประเทศไทยปลอดภัยจากยาเสพติด

ปัญหายาเสพติดยังคงเป็นบาดแผลเรื้อรังของสังคมไทยมานานนับทศวรรษ และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และความเสี่ยงรอบด้าน

“12.12 สายชอปปิ้งต้องระวัง” สสส.-ม.อ. เปิดเวทีสะท้อนปัญหา “ผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย” ในไทย เผยผลตรวจสอบผลิตภัณฑ์ไร้คุณภาพผ่านแพลตฟอร์ม “TaWai for Health”

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ธ.ค. 2568 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์

83% คนไทยเหงา! สังคมโดดเดี่ยวพุ่งสูง ขับเคลื่อนเปลี่ยนประเทศด้วยพลังการรับฟัง

ในวันที่สังคมไทยเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีเกือบตลอด 24 ชั่วโมง กลับเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ผู้คนจำนวนมากรู้สึก “เหงา” มากที่สุดในชีวิต

สสส. สานพลังภาคี ลงศูนย์อพยพ จ.สงขลา ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม หนุนหน่วยงาน-อาสาสมัคร-อสม.-ผู้ปกครอง ใช้คู่มือ “ปลูกกล้ากลางไฟ”

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้เด็กและเยาวชนต้องกลายเป็นผู้ประสบภัยและพักอาศัยในศูนย์อพยพต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และโรงเรียนในพื้นที่ แม้ว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายแล้ว แต่หลายครอบครัวยังคงต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง