'บิว-ภูริพล' แฮมสตริงเดี้ยง 'กกท.' ส่งเข้าโปรแกรมฟื้นฟู

“บิว” ภูริพล บุญสอน ลดกรดหนุ่มดาวรุ่งวัย 16 ปีทีมชาติไทย ได้รับบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง หรือแฮมสตริง โดยการกีฬาแห่งประเทศไทยส่งทีมแพทย์ และผู้เชียวชาญเข้ามาดูแลและทำการรักษาอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ คลินิกเวชกรรม อาคารศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. “บิว” ภูริพล บุญสอน และ จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน นักกรีฑาทีมชาติไทย ได้เข้ารับการตรวจร่างกาย กับ นพ.ณัฐพร แสงเพชร แพทย์ประจำศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก รพ.รามาธิบดี หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก 2022 ณ เมืองกาลิ ประเทศโคลอมเบีย

โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยถึงการนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาฟื้นฟูสภาพร่างกายและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยในการแข่งขันกีฬาระดับชาติและระดับนานาชาติว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากในวงการกีฬาเพราะจะช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพนักกีฬาให้มีความพร้อมก่อนการแข่งขัน และป้องกันการบาดเจ็บหลังการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการตรวจรักษา, การบาดเจ็บทางกายภาพบำบัด, การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ, จิตวิทยาการกีฬา, สรีรวิทยาการกีฬา, โภชนาการกีฬา, การฟื้นฟูสภาพร่างกายด้วยออกซิเจน และวิทยาศาสตร์การกีฬาด้านอื่นๆ อย่างครบถ้วน

ขณะที่ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผลการตรวจร่างกายในครั้งนี้ ภูริพล บุญสอน (บิว) พบว่ามีการบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstring) เล็กน้อย โดยจะส่งตรวจวิเคราะห์ด้วยเครื่อง MRI อีกครั้ง เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการให้โปรแกรมการดูแลรักษาก่อนลงโปรแกรมฝึกซ้อม นอกจากนั้นยังให้ทดสอบแรงกล้ามเนื้อขา ข้างที่ไม่ได้รับการบาดเจ็บ เพื่อใช้เป็นค่าอ้างอิงในการฟื้นฟูสภาพกล้ามเนื้อ ทั้งนี้ยังได้ดำเนินการบำบัด ฟื้นฟูสภาพร่างกายด้วยออกซิเจนความเข้มข้นสูง (Hyperbaric Chamber) เพื่อช่วยให้นักกีฬาหายจากการบาดเจ็บได้เร็วขึ้น และช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและสดชื่อมากขึ้น “

“ส่วน จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน พบว่าร่างกายปกติดี มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณหลังเล็กน้อย ทั้งนี้ นักกีฬาทั้งสองคนจะอยู่ในการบริการด้านการ Return to Train (RTT) และ Return to Play (RTP) จากฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป”

นอกจากนี้ผู้ว่ากกท. เปิดเผยต่อว่า “กกท. จะเตรียมพัฒนานักกีฬา และติดตามประเมินผลการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการเก็บตัวฝึกซ้อม การส่งแข่งขัน และหลังจบการแข่งขัน เพื่อต่อยอด และส่งเสริมศักยภาพของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ตลอดจนถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ได้พัฒนาขีดความสามารถของตนเองไปสู่เป้าหมายที่สูงยิ่งขึ้นต่อไป”