ทัวร์นาเมนต์ลูกหนังเวิลด์ คัพ 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ใกล้ได้บทสรุปเข้ามาทุกขณะ คืนวันที่ 13 ธันวาคม จะเป็นการลงสนามในรอบ 4 ทีมสุดท้าย เป็นการระหว่าง โครเอเชีย ยอดทีมตัวแทนจากทวีปยุโรป ดีกรีรองแชมป์เมื่อปี 2018 ที่เพิ่งหักปากกาเซียนโค่นเต็งหนึ่ง อย่าง บราซิล ในรอบที่แล้ว จะพบกับ อาร์เจนตินา อดีตแชมป์โลก 2 สมัย ภายใต้การนำทัพของ ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง แข่งขันในเวลา 02.00น. (เช้าวันที่ 14 ธันวาคม) ตามเวลาประเทศไทย ณ สังเวียนลูซาอิล ไอคอนิก สเตเดียม ช่องทรูโฟร์ยู และทรูสปอร์ต 2 ถ่ายทอดสด
- เส้นทางสู่รอบ 4 ทีมสุดท้าย
โครเอเชีย ภายใต้การคุมทีมของ สลัตโก ดาลิช ยังไม่พ่ายแพ้ให้แก่ผู้ใดในฟุตบอลโลกหนนี้ รอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาเก็บชัยได้ 1 นัด เสมอ 2 นัด ผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์ในฐานะรองแชมป์ของกลุ่ม เอฟ ก่อนจะปราบญี่ปุ่น ตัวแทนจากเอเชียในรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการดวลจุดโทษ 3-1 และล่าสุดพวกเขาก็โชว์ความเป็น "เจ้าพ่อจุดโทษ" อีกครั้ง สามารถลาก บราซิล ให้เล่นครบ 120 นาที ก่อนดวลเป้าเอาชนะไป 4-2
ด้าน อาร์เจนตินา ของกุนซือลิโอเนล สกาโลนี ประเดิมสนามในเวิลด์ คัพ 2022 ไม่สวย พ่ายแพ้แบบสุดช็อกให้กับซาอุดิอาระเบีย 1-2 อย่างไรก็ตามพวกเขารวบรวมสมาธิงัดฟอร์มเก่งของตัวเองออกมา เก็บชัยเหนือคู่แข่งอีก 2 เกมในรอบแรก เข้ารอบน็อกเอาท์ในฐานะแชมป์กลุ่ม ซี ก่อนจะเฉือน ออสเตรเลีย 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และรอบ 8 ทีมสุดท้ายปราบเนเธอร์แลนด์แบบหืดจับสุดๆ ซึ่งถือเป็นเกมที่มีดราม่าตลอดทั้ง 120 นาที "ฟ้าขาว" นำ 2-0 ก่อนถูก "อัศวินสีส้ม" ไล่เจ๊า 2-2 ก่อนจะมาเอาชนะในการดวลจุดโทษ 4-3
- สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
ถือเป็นความโชคดีที่ โครเอเชีย ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ หรือติดโทษแบน ทำให้ สลัตโก ดาลิช สามารถเลือกผู้เล่นชุดที่แข็งแกร่งที่สุดมาต่อกรกับอดีตแชมป์โลก 2 สมัยได้ เพื่อกรุยทางสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน "ทีมตราหมากรุก" ยังนำทัพมาโดย 3 กองกลางระดับพระกาฬ ทั้ง ลูกา โมดริช, มาร์เซโล โบรโซวิช และมาเตโอ โควาซิช โดยมี อีวาน เปริซิช และอังเดรจ์ ครามาริช ทำเกมด้านข้าง รวมไปถึงผู้รักษาประตูที่เปรียบเสมือนฮีโร่ใน 2 รอบก่อนหน้านี้ อย่าง โดมินิค ลิวาโควิช ก็พร้อมลงเฝ้าเสา
ขณะที่ อาร์เจนตินา จะไม่สามารถใช้งาน 2 ผู้เล่นแนวรับ อย่าง มาร์กอส อาคุนญา และกอนซาโล มอนเทียล ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง และยังต้องเช็กสภาพความฟิตของ เปาโล ดิบาลา ดาวเตะจากโรม่า ที่ทัวร์นาเมนต์นี้เจ้าตัวยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลยแม้แต่วินาทีเดียว แต่คนอื่นๆ ยังอยู่กันพร้อมหน้า นำโดย ลิโอเนล เมสซี ที่หมายมั่นปั้นมือจะพา "ฟ้าขาว" เดินหน้าเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ เพื่อคว้าแชมป์โลกมาประดับบารมีของตัวเองให้ได้ ส่วนคนอื่นๆในเกมรุก ทั้ง อังเกล ดิ มาเรีย, ฆูเลียน อัลบาเรซ, ปาปู โกเมซ, เลาตาโร มาร์ติเนซ พร้อมเป็นตัวเลือกให้ได้ใช้งาน โดยแนวรับคาดว่าจะใช้บริการ นิโคลัส โอตาเมนดี จับคู่ คริสเตียน โรเมโร
- สถิติการเจอกันของทั้งคู่
ทั้งสองทีมเคยปะทะแข้งกันมา 4 นัด ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะทีมละ 2 ครั้ง โดยการเจอกันหนล่าสุดคือในฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม โครเอเชีย ไล่ต้อนเอาชนะอาร์เจนตินา 3-0 ก่อนจะควงแขนเข้ารอบน็อกเอาท์มาด้วยกัน และปีดังกล่าว "ฟ้าขาว" ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือของฝรั่งเศส ส่วน โครแอต ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ
เกมนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก อาร์เจนตินา ที่มีจุดเด่นในเรื่องของเกมรุก จะโครจรมาพบกับทีมที่แข็งแกร่งมากในเรื่องของเกมรับ อย่าง โครเอเชีย แน่นอนว่า "ฟ้าขาว" ไม่อยากยืดเยื้อ หวังปิดบัญชีให้ได้ในเวลา 90 นาที ส่วน "โครแอต" รู้ตัวเองดีว่าเป็นรองพอสมควร แต่พวกเขาปราบเต็งหนึ่ง บราซิล มาแล้ว ก็คงไม่ใช่งานง่ายสำหรับอดีตแชมป์โลก 2 สมัย ถ้า อาร์เจนตินา จบสกอร์ไม่คมพอ เกมคืนนี้เราอาจได้เห็นการต่อเวลาพิเศษ หรือยาวไปจนถึงจุดโทษเลยก็ได้
แต่เชื่อว่านักเตะ"ฟ้าขาว"อาร์เจนติน่า จะเหนือกว่านิดๆ จะเร่งปิดฉากนักเตะโครเอเชียได้ภายใน 90 นาที เพื่อเข้าไปรอบชิงฯ