ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2024" เดินทางมาถึงการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ค่ำคืนวันที่ 29 มิถุนายน มีลงสนามกัน 2 คู่ เกมที่น่าสนใจ เจ้าภาพ "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี แชมป์กลุ่ม เอ พบกับ "โคนม" เดนมาร์ก รองแชมป์ของกลุ่ม ซี แข่งขันในเวลา 02.00น. (เช้าตรู่ 30 มิ.ย.เวลาไทย) พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 3 ถ่ายทอดสด
- ผลงาน 5 นัดหลังสุด
เยอรมนี
23/06/24 เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2024
19/06/24 ชนะ ฮังการี 2-0 (สนามกลาง) ยูโร 2024
14/06/24 ชนะ สกอตแลนด์ 5-1 (สนามกลาง) ยูโร 2024
08/06/24 ชนะ กรีซ 2-1 (เหย้า) กระชับมิตร
04/06/24 เสมอ ยูเครน 0-0 (เหย้า) กระชับมิตร
เดนมาร์ก
25/06/24 เสมอ เซอร์เบีย 0-0 (สนามกลาง) ยูโร 2024
20/06/24 เสมอ อังกฤษ 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2024
16/06/24 เสมอ สโลวีเนีย 1-1 (สนามกลาง) ยูโร 2024
09/06/24 ชนะ นอร์เวย์ 3-1 (เหย้า) กระชับมิตร
06/06/24 ชนะ สวีเดน 2-1 (เหย้า) กระชับมิตร
- สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
เจ้าภาพ เยอรมนี ของกุนซือยูเลียน นาเกลส์มันน์ มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นเป็นอย่างมากในรอบแรก แม้นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มจะต้องไล่เจ๊า สวิตเซอร์แลนด์ แบบหืดจับ 1-1 แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่าน
เกมนี้พวกเขามีปัญหาในแนวรับโดยไม่สามารถใช้งาน โจนาธาน ทาห์ ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง และยังต้องรอเช็กสภาพความฟิตของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ อีกหนึ่งเซ็นเตอร์แบ็คตัวเก่งที่บาดเจ็บแฮมสตริงก่อนหน้านี้
ส่วนนักเตะตัวหลักคนอื่นๆ อยู่กันพร้อมหน้า นำทัพโดย โทนี โครส กองกลางจอมคลาสสิก ที่จะลงมาคุมแดนกลางร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน และโรเบิร์ต อันดริช ส่วน 3 แนวรุก ยังคงใช้บริการ ไค ฮาแวร์ตซ์, จามาล มูเซียลา และฟลอเรียน เวิร์ตซ์
ด้าน เดนมาร์ก ภายใต้การคุมทัพของ แคสเปอร์ ฮูลมันด์ ผ่านเข้ารอบน็อกเอาท์มาแบบหืดจับ ด้วยผลงานที่ไม่สามารถเก็บชัยเหนือผู้ใดได้เลย เสมอ 3 เกมรวด มี 3 คะแนน เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มเพราะกฎแฟร์เพลย์ที่ดีกว่า สโลวีเนีย
สภาพความพร้อมของทีมเกมนี้ไม่สามารถใช้งาน มอร์เทน ฮูลมันด์ ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลือง แต่คนอื่นๆ อยู่กันพร้อมหน้า ทั้ง หัวหอกตัวเก่ง อย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์, โจนาส วินด์ หรือมิดฟิลด์จอมเก๋า คริสเตียน อีริกเซน ส่วนแนวรับมี อันเดรส คริสเตนเซน, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด และโจอาคิม แอนเดอร์เซน
สถิติการเจอกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีมค่อนข้างสูสี ผลัดกันแพ้-ชนะ กันคนละ 1 แมตช์ ที่เหลือเสมอกัน 3 แมตช์ โดย 2 เกมหลังสุดเสมอกันไปด้วยสกอร์เดียวกัน 1-1 ในเกมอุ่นเครื่องปี 2017 และ 2021
- รายชื่อ 11 ตัวจริง ที่คาดว่าจะลงสนาม
เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์ (GK), โจชัว คิมมิช, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นิโค ชล็อตเตอร์เบ็ค, แม็กซ์ มิตเตลสตั๊ดต์, โรเบิร์ต อันดริช, โทนี โครส, อิลคาย กุนโดกัน, จามาล มูเซียลา, ฟลอเรียน เวิร์ตซ์, ไค ฮาแวร์ตซ์
เดนมาร์ก : แคสเปอร์ ชไมเคิล (GK), อันเดรส คริสเตนเซน, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, โจอาคิม แอนเดอร์เซน, โจอาคิม มาห์เล, ปิแอร์ เอมิล-ฮอยจ์แบร์ก, โธมัส เดลานีย์, อเล็กซานเดอร์ บาห์, คริสเตียน อีริกเซน, ราสมุส ฮอยลุนด์, โจนาส วินด์
- สกอร์ที่คาด
ฟอร์มการเล่นของ เยอรมนี ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดในช่วงหลังโดยเฉพาะผู้เล่นในแนวรุกที่สอดประสานสลับกันทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงผลงานอันโดดเด่นของ โทนี โครส ดูแล้ว "อินทรีเหล็ก" มีดีพอปราบ เดนมาร์ก ด้วยสกอร์ 2-0
ส่วนการแข่งขันในอีก 1 คู่ อิตาลี พบ สวิตเซอร์แลนด์ ดูแล้วไม่ใช่งานง่ายของแชมป์เก่า "อัซซูรี" เพราะ สวิตเซอร์แลนด์ ไม่แพ้ใครในรอบแบ่งกลุ่ม แถมนัดก่อนก็เกือบทำเซอร์ไพรส์เอาชนะเจ้าภาพได้ด้วย ดูแล้วเกมนี้อาจมียืดเยื้อ เสมอในเวลา 90 นาที 1-1 และอาจยิงยาวไปถึงการดวลจุดโทษตัดสิน