
โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย อดีตเจ้าของสโมสรเชลซี ออกมาเปิดใจต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับแต่ถูกบีบให้ต้องขายทรัพย์สิน และกิจการในสหราชอาณาจักร สืบเนื่องมาจากการทำสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน โดยเรื่องที่เจ้าตัวอยากขอโอกาส คือการเข้าไปชมเกมเหย้าที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เพื่อลาแฟนบอลด้วยตัวเอง
ย้อนไปเมื่อต้น 2022 เริ่มต้นเกิดสงครามระหว่าง รัสเซีย ปะทะ ยูเครน และด้วยควมสัมพันธ์ทับซ้อน ระหว่าง โรมัน อับราโมวิช กับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ก็ทำให้เรื่องดังกล่าวดูวุ่นวายมากยิ่งขึ้น
โดยรัฐบาลอังกฤษกดดันมหาเศรษฐีชาวรัสเซียรายนี้ ด้วยการสั่งแช่แข็งทรัพย์สินที่มีในสหราชอาณาจักร รวมถึงบังคับขาย “สิงห์บลูส์” ทิ้ง เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงที่อาจส่งไปหนุนกองทัพของประเทศรัสเซีย
สุดท้ายบทสรุปของเรื่องทั้งหมด คือการได้ ท็อดด์ โบห์ลี มหาเศรษฐีจากสหรัฐอเมริกา พร้อมกลุ่มพันธมิตร ที่เข้ามาเทกโอเวอร์ไป 2.5 พันล้านปอนด์ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2022
แม้จะทำกำไรได้หลายเท่าตัวจากตอนซื้อ เชลซี ที่จำนวนเงิน 140 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2003 แต่ “เสี่ยหมี” กลับไม่คิดอยากซื้อกิจการสโมสรไหนมาบริหารอีก เพราะเขาเชียร์แค่ทีมเดียว คือ “สิงห์บลูส์” เท่านั้น
“บางทีในสักวันหนึ่งอาจมีสถานการณ์ที่ผมสามารถชมแมตช์ ณ สนามเหย้ าและกล่าวลาแฟนบอลจริงๆจังๆ ไม่อยากได้อะไรมากกว่านั้น” โรมัน อับราโมวิช เปิดใจผ่านหนังสือของ นิค เพียวร์วอล
“ผมไม่เหลือความสนใจตำแหน่งใดๆในสโมสรฟุตบอลอีก หรือแม้บทบาทผู้ชำนาญการใดๆ มันอาจมีจุดไหนบางอย่างที่ตัวเองสามารถช่วยในสถาบันฝึกลูกหนัง ช่วยนักเตะหนุ่มๆ หรือมอบโอกาสดีๆ แก่คนที่มีปูมหลังยากลำบาก หากมันคือการริเริ่มที่สามารถสร้างความแตกต่าง”
“แต่ให้ไปเป็นเจ้าของทีมหรือบทบาทบริหารสโมสร ชีวิตนี้ผมพอแล้ว” อดีตเจ้าของ เชลซี กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้ เมื่อพ้นจากยุค โรมัน อับราโมวิช เป็นต้นมา เชลซี เพิ่งได้แชมป์เพิ่มอีกรายการเดียวนั้นคือ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2025 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป