Music and Night at the Museum ครั้งที่ 2 ตามรอย..เสน่ห์สงขลาในมิติใหม่

ททท. สำนักงานหาดใหญ่ เชิญชวนนักท่องเที่ยวตามรอยเสน่ห์เมืองสงขลาช่วงกรีนซีซั่น พบกับความงดงามของการผสมผสานทางวัฒนธรรม ทั้งไทย จีน มุสลิม และตะวันตก จนกลายเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น ผ่านร่องรอยสถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน ตลอดจนอาหารการกิน พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์สงขลาในพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน ผ่านกิจกรรม Music and Night at the Museum ครั้งที่ 2

โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์การจัดงาน

นางสาวมัณฑนา ภูธรารักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ กล่าวว่า จังหวัดสงขลาเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าและเมืองท่าที่มีความสำคัญมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้อยู่อาศัย ทั้งชาวไทย ชาวจีน ชาวมุสลิม และชาวตะวันตก ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว จนได้ชื่อว่าเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ของเมือง อันเป็นเอกลักษณ์ ประกอบกับการคมนาคมที่สะดวก  นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ทั้งทางบก ได้แก่ รถไฟ รถยนต์ และทางอากาศโดยเครื่องบิน ซึ่งมีสนามบินนานาชาติหาดใหญ่รองรับ ทำให้สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ในช่วงฤดูฝน หรือ กรีนซีซั่น (Green Season)  แบบนี้ นับเป็นอีกช่วงหนึ่งที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวแบบชิลๆ ด้วยอากาศเย็นสบาย ค่าใช้จ่ายไม่แพง  เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ทำให้ราคาที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร มีราคาถูกกว่าปกติ ขณะเดียวกันก็มีสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาที่น่าสนใจที่เกิดขึ้นใหม่ เตรียมพร้อมต้อนรับนักเดินทางให้ได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในมุมมองที่แตกต่างจากเดิม ซึ่ง ททท. สำนักงานหาดใหญ่ ขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่เดินทางได้สะดวก พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจ ดังนี้

อาคารบ้านเรือนย่านเมืองเก่าสงขลา

เดินชิลย่านเมืองเก่าสงขลา ย่านเมืองเก่าสงขลาเคยเป็นแหล่งธุรกิจการค้าที่สำคัญของจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บนถนน 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม เป็นย่านที่เดินแล้วเพลิดเพลิน เหมาะสำหรับคนที่ท่องเที่ยวแบบละเลียดทัวร์ ชอบเก็บภาพ เก็บมุมน่ารัก ไว้เป็นความทรงจำส่วนตัว

ตลอดสองข้างทางที่เดินผ่านนั้น เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่อายุไม่ต่ำกว่า 200 ปี มีรูปทรงสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย แบ่งได้เป็น 4 กลุ่มหลัก คือ แบบจีนดั้งเดิม จีนประยุกต์ จีนร่วมสมัย และชิโนโปรตุกีส ผสมผสานศิลปะแบบจีนและศิลปะแบบตะวันตกได้อย่างลงตัว เมื่ออาคารเหล่านี้ตั้งเรียงรายเคียงคู่ไปกับธุรกิจสมัยใหม่ ทำให้ย่านแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่เงียบเหงา

สีสันย่านเมืองเก่าสงขลา

สำหรับถนนนครนอก เป็นถนนที่ติดกับฝั่งทะเลสาบ ในอดีตบริเวณนี้เป็นท่าเทียบเรือเพื่อการค้าขายและขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ มีโรงสีข้าวขนาดใหญ่ชื่อ “หับ โห้ หิ้น” ที่ชาวสงขลาเรียกว่า “โรงสีแดง” ซึ่งภายหลังปิดกิจการ เพราะสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมแห่งหนึ่งในจังหวัด ที่นี่มีอาคารจัดแสดงนิทรรศการถาวรเรื่องราวและภาพถ่ายเมืองเก่าสงขลาให้ชมกัน

ถนนนครใน เป็นถนนเส้นในเมืองที่อยู่ตรงกลางระหว่างถนนนครนอกและถนนนางงาม มีสถานที่สำคัญ คือ บ้านนครใน เป็นบ้านไม้แบบจีนโบราณ และบ้านตึกสีขาว ภายในมีการจัดแสดงของเก่า ของอนุรักษ์ให้ได้ชมกัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนถนนนางงาม เดิมชื่อถนนเก้าห้อง หรือย่านเก้าห้อง มีอาคารตึกแถวแบบจีนโบราณของชาวฮกเกี้ยนตั้งอยู่สองฟากฝั่ง มีสถานที่สำคัญ คือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ศาลเจ้าพ่อกวนอู เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนนิยมมากราบไหว้บูชา และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่

จุดเช็กอินยอดนิยมย่านเมืองเก่าสงขลา

ในบริเวณย่านเมืองเก่า มีจุดเช็กอินที่เหมาะสำหรับสายถ่ายภาพมากๆ เพราะมีการเพิ่มภาพวาดสตรีทอาร์ต (Street Art) ซึ่งเป็นภาพวาดงานฝีมือของคนรุ่นใหม่ตามผนังอาคารบ้านเรือน มีทั้งหมด 15 จุด บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวสงขลารุ่นเก่าที่น่าประทับใจ เช่น ภาพวิถีชาวประมงหาปลา, ภาพคนขายกาแฟ, ภาพอาแปะเปิดประตูยื่นหมวกกันน็อก, ภาพเด็ก 3 เชื้อชาติ ไทย มุสลิม และจีน ซึ่งเป็นตัวแทนของคน 3 เชื้อชาติที่มาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข,  ภาพเรือสำเภา, ภาพร้านบะหมี่, ภาพการทำข้าวเกรียบ, ภาพหมา แมว หนู, ภาพกำแพงศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ฯลฯ เห็นแล้วทำให้รู้สึกเหมือนเดินย้อนกลับไปในอดีตอีกครั้ง

เดินถ่ายรูปกันจนเหนื่อยแล้ว พลาดไม่ได้กับอาหารการกิน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณถนนนางงาม  ที่มีให้เลือกชิมครบครันทั้งอาหารคาว อาหารหวาน  และมีความหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารจีน ที่มีชื่อเสียง เช่น สุกียากี้นครใน ข้าวสตู เกียดฟั่ง ซึ่งเป็นสตูน้ำซุปกระดูกหมูและเครื่องเทศ ผสมหางกะทิ ใส่เครื่องที่มีให้เลือกได้ว่าจะเป็น เนื้อแดง หมูกรอบ เครื่องใน เวลาเสิร์ฟจะโรยด้วยต้นหอมซอย เป็นอาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรมของอังกฤษ อินโดนีเซีย จีน และไทย ที่มีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

นอกจากนี้ยังมี ก๋วยเตี๋ยวหางหมู ก๋วยเตี๋ยวใต้โรงจิ๋ว ก๋วยเตี๋ยวสงขลา โรตีนางงาม โจ๊กเกาะไทยเป็นโจ๊กเนื้อเนียนกินกับปาท่องโก๋กรอบๆ ไอติมโอ่ง ขนมไข่เตาถ่าน ร้านกาแฟ ร้านซาลาเปา ไก่ทอด ขนมค้างคาว ขนมสำปันนี ขนมทองเอก ข้าวมันแกงไก่ ฯลฯ บางชื่อเราอาจไม่คุ้นหู แต่นักชิมทั้งหลายล้วนแต่ยกนิ้วให้กับความอร่อยมาแล้วทั้งนั้น 

ภาพ Street Art เด็ก 3 เชื้อชาติ

การเดินชมย่านเมืองเก่า ทำได้ตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งร้านรวงอาจจะยังไม่เปิดให้บริการ แต่จะเห็นภาพวิถีชีวิตของชาวสงขลาตามร้านโจ๊ก ร้านกาแฟ และทำให้มีเวลาโพสท่าถ่ายรูปกับภาพวาดสตรีทอาร์ตได้แบบจุใจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้ด้วยตนเอง หรือใช้บริการรถรางนำเที่ยว ซึ่งเปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ วันละ 5 รอบ รอบเวลา 09.00 น.,  10.30 น., 12.00 น., 13.30 น., 15.00 น. ค่าบริการคนละ 30 บาท หรือถ้ามาเป็นหมู่คณะ คิดราคาเหมา   โดยจุดเริ่มต้นอยู่ที่เส้นทางสวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เทศบาลนครสงขลา โทร. 09-1048-6673

เห็นเมืองเก่าที่มีสีสันเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหาแบบนี้แล้ว แนะนำให้ไปกันต่อที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดสงขลา เพื่อศึกษาถึงความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของเมืองสงขลากัน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จ.สงขลา

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ที่ถนนวิเชียรชม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา มีอายุกว่า 140 ปี เดิมเป็นบ้านพักส่วนตัวของพระยาสุนทรารักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา ต่อมาใช้เป็นสถานที่ราชการของหน่วยงานต่างๆ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ.2516 และทำการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

ตัวเรือนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เป็นอาคารหมู่ สถาปัตยกรรมแบบจีนผสมตะวันตก ลักษณะเป็นตึกสองชั้น โดดเด่นด้วยสีแดงและขาวที่ตัดกันแบบชัดเจน จัดแสดงโบราณวัตถุในศิลปะทวารวดี ศรีวิชัย  และรัตนโกสินทร์ ซึ่งแสดงบทบาทการเป็นเมืองท่าค้าขายที่สำคัญมาแต่โบราณของเมืองสงขลา รวมทั้งจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุที่เกี่ยวกับตระกูล ณ สงขลา  เจ้าเมืองสงขลาในอดีตอีกด้วย

การจัดแสดงวัตถุโบราณในพิพิธภัณฑ์

อาคารจัดแสดงมี 2 ชั้น ชั้นล่าง แบ่งการจัดแสดงเป็น 8 ส่วน ได้แก่ วิถีชีวิตสงขลา, ภูมิลักษณ์คาบสมุทรสงขลา, สงขลาก่อนยุคประวัติศาสตร์, สงขลาสมัยแรกเริ่มประวัติศาสตร์, เมืองสงขลาหัวเขาแดง เมืองสงขลาแหลมสน, เมืองสงขลาบ่อยาง และเมืองสงขลาย้อนยุค

ชั้นที่ 2 มีห้องจัดแสดง 5 ห้อง ได้แก่ ความสัมพันธ์ทางการค้ากับต่างประเทศ, บันทึกสงขลา, ศิลปกรรมสงขลา, ประวัติศาสตร์โบราณคดีภาคใต้ตอนล่าง, สุนทรียภาพในวิถีชีวิตของชาวภาคใต้ตอนล่าง

ผู้สนใจเข้าชมได้ตามวันเวลาทำการ วันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. โทรศัพท์ 0-7431-1728 ค่าเข้าชมชาวไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 150 บาท

บรรยากาศพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน

พิเศษสุดสำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินชมพิพิธภัณฑ์ พลาดไม่ได้กับกิจกรรม Music and Night at the Museum หรือ งานพิพิธบรรเลงเพลงวัฒนธรรม ครั้งที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม 2566 เวลา 16.30-21.00 น. โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา ร่วมกับ ททท.สำนักงานหาดใหญ่ และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ เปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน ดื่มด่ำกับเสียงดนตรีไพเราะ พร้อมทั้งชมการแสดงและร่วมกิจกรรมภายในงานมากมาย ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กิจกรรมภายในอาคารและกิจกรรมด้านนอกอาคาร

สำหรับกิจกรรมภายในอาคาร ได้แก่ Museum Tour พบกับประสบการณ์ใหม่ในการชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ที่มาครบทั้ง “รูป รส กลิ่น เสียง” ด้วยการเล่าประวัติศาสตร์ผ่าน Site Specific Dance ซึ่งได้รับการออกแบบโดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปลุกการแสดงจากข้อมูลในหน้าบันทึกประวัติศาสตร์และงานศิลปกรรมออกมาร่ายรำให้ชมกันแบบเต็มอิ่ม มี 4 ชุด คือ “โนราห์” สร้างสรรค์จากจิตรกรรมฝาผนังวัดมัชฌิมาวาสวรวิหาร ภาพถ่ายเก่า และมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม “นาฏกรรมสร้างสรรค์ชุด รุจิระสงขลาปุราณ”,นางละคร” สร้างสรรค์จากข้อมูลในบันทึกของรัชกาลที่ 4 เมื่อคราวเสด็จประพาสสงขลา และ “นาฏกรรมสร้างสรรค์ชุดซวงฝู” ว่าด้วยความเชื่อชาวไทยเชื้อสายจีนเกี่ยวกับ “ค้างคาว” ซึ่งมีหลักฐานปรากฏอยู่ในลักษณะลวดลายประดับสถาปัตยกรรม ประติมากรรม ตลอดจนโบราณวัตถุประเภทต่างๆ

กิจกรรม Museum Tour

พร้อมเสิร์ฟสำรับ “เสน่ห์สงขลา” ขนมและเครื่องดื่มที่บอกเล่าวิถีชีวิตชาวสงขลา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่

การแสดงมีให้ชมจำนวน 2 รอบ รอบละ 30 คน (มีค่าใช้จ่าย) รอบที่ 1 เวลา 17.00-18.00 น. รอบที่ 2 เวลา 18.00-19.00 น. สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งที่ โทร. 0-7431-1728 หรือทางกล่องข้อความ Facebook Fan page: Songkhla National Museum : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Night at the Museum ชวนยลพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน พร้อมเพลิดเพลินไปกับมุมบรรเลงดนตรีไทยโดยโรงเรียนมหาวชิราวุธ และดนตรีสากล โดยนักศึกษาหลักสูตรดุริยางคศิลป์ตะวันตก มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ในกิจกรรมย่อย Music Corner รับชมฟรี ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น.

กิจกรรมชวนหนุ่มสาวดูดาว

สำหรับคนที่ชื่นชอบความมหัศจรรย์บนฟากฟ้ายามค่ำคืน พบกับกิจกรรม NARIT Public Night ชวนหนุ่มสาวดูดาว เล่าเรื่องราวจากระเบียงพิพิธภัณฑ์ ส่องดวงจันทร์ขึ้น 4 ค่ำ และกลุ่มดาวสิงโตที่อวดโฉมบนฟากฟ้าทิศตะวันตก โดยหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น.

ส่วนพื้นที่บริเวณด้านนอกตัวอาคาร พบกับ กิจกรรม Music in Museum ณ บริเวณสนามหญ้าด้านหลังอาคาร ในเวลา 17.30-18.30 น. ชมการแสดงและบรรเลงดนตรี ขับเคลื่อนและสื่อสารด้วย Soft Power โดยกลุ่มเยาวชน Youth In Charge จากนั้นเวลา 18.30-19.30 น. ฟังการบรรเลงแซ็กโซโฟน โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ หลักสูตรดุริยางคศิลป์ตะวันตก มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และในช่วงเวลา 19.45-20.30 น. รับชม Mini Concert โดย Tinn (ติณณ์ นภาลัย)

สำหรับคนที่ชอบสร้างสรรค์งานฝีมือ พบกับกิจกรรม Craft & Workshop ณ สนามหญ้าด้านหลังอาคาร มีการออกร้านสินค้าสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมที่รังสรรค์จากพลังสมองและสองมือ โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา ตลอดจนงานฝีมือ เครื่องดื่ม และกิจกรรม Workshop โดยเครือข่ายภาคประชาชน

นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม Music and Night at the Museum ได้ตามความสะดวก โดยสแกน QR Code บนโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์กิจกรรม  หรือลงทะเบียนได้ที่ Facebook Fan Page “Songkhla National Museum : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา” หรือลงทะเบียนหน้างาน หรือลงทะเบียนผ่าน https://docs.google.com/forms/d/1c54NiQcReGGXoObZTiHGvRFvMWDmtwAusx8-rlB4RWA/edit

หาดเก้าเส้ง

นอกจากนี้ หากใครยังพอมีเวลา และต้องการไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง แนะนำให้ไปที่ หาดเก้าเส้ง ที่มีคำนิยามจากนักท่องเที่ยวว่าเป็น “หาดลับ” เพราะซ่อนตัวท่ามกลางโขดหินที่สลับซับซ้อนบริเวณปลายสุดของแหลมที่ทอดยาวมาจากหาดชลาทัศน์ ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม และเป็นจุดถ่ายภาพที่มีทัศนียภาพสวยงามแตกต่างจากชายหาดอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งมีความเป็นมาที่น่าสนใจอีกด้วย

ส่วนคนที่ต้องการสถานที่เพื่อการพักผ่อนและหามุมถ่ายภาพสวยๆ นอกเมือง แนะนำ “ลิวงค์” ตั้งอยู่ที่บ้านลิวงค์ ตำบลท่าหมอไทร อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดสงขลา ที่มีความสวยงามและมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

ลิวงค์ แหล่งท่องเที่ยวที่ อ.จะนะ จ.สงขลา

ด้วยลักษณะของสถานที่เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ที่เคยเป็นเหมืองแร่เก่าแก่มาก่อน และปัจจุบันได้รับการฟื้นฟู มีการปลูกต้นสนโอบล้อมแอ่งน้ำ ซึ่งเป็นสีเขียวมรกตสวยงามสะท้อนภาพทิวทัศน์ของภูเขา  บวกกับบรรยากาศที่ค่อนข้างเงียบสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อนอย่างยิ่ง มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทำ เช่น กางเต็นท์แคมป์ปิ้ง ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกท่ามกลางธรรมชาติ เปิดให้เข้าชมเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์   และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00-19.00 น. ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 09-5924-1492 หรือเข้าไปดูได้ที่ Facebook Fan Page ลิวง สวิตเซอร์แลนด์แดนจะนะ

ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานหาดใหญ่ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับคนที่มีโอกาสได้มาท่องเที่ยวยังจังหวัดสงขลาในช่วงฤดูฝนนี้ เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะได้รับความสุขและประทับใจกับเสน่ห์ของสงขลา เมืองเก่าแก่แต่ยังมีชีวิตชีวาหลากหลาย ผสมผสานและอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากกิจกรรมงานดนตรี Music and Night at the Museum ที่เป็นการเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์แนวใหม่ ให้ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมของสงขลา ด้วยความตื่นตาตื่นใจ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ ททท. ที่ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงการท่องเที่ยวเชิงคุณค่า เพื่อนำไปสู่การร่วมกันอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมให้ยั่งยืนตลอดไป”

ผู้สนใจติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fan Page : TAT Hatyai - ททท. สำนักงานหาดใหญ่  หรือ โทร. 0-7424-3747 หรือ โทร. 1672 Travel Buddy

สรณะ รายงาน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ผนึก ททท. ชวนตามรอยหนัง เที่ยวเมืองรอง กับแคมเปญ MOVIECATION SEASON 4

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมส่งเสริมเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในประเทศเจาะกลุ่มผู้รักภาพยนตร์

NCC. ผนึก ททท. ขยายตลาดท่องเที่ยวมูลค่าสูง ชี้ตลาดท่องเที่ยวเฉพาะทาง (Niche Market) โต ลุยจัดงาน “Thailand Golf & Dive Expo plus OUTDOOR Fest 2024”

เอ็น.ซี.ซี.ฯ จับมือ ททท. และภาคธุรกิจท่องเที่ยว จัดงาน “Thailand Golf & Dive Expo plus OUTDOOR Fest 2024” มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งขยายตลาดท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟ - ดำน้ำ - ท่องเที่ยวกลางแจ้ง

ททท. ร่วมฉลองวันขึ้นปีใหม่ไทย จับมือ TikTok Thailand จัดกิจกรรม 'สงกรานต์ 2567'

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย จึงได้ร่วมมือกับ TikTok Thailand จัดทำกิจกรรม “สงกรานต์ 2567” ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ไทย

"บิ๊กซี" จับมือ "ททท." สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวไทย ผ่าน 2 แคมเปญใหญ่

บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าส่งเสริมท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำจุดหมายของนักท่องเที่ยว

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ร่วมกับ ททท. จัดกิจกรรม “คาราวาน xEV สามสมุทร สนุกคูณสาม”

เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าสานต่อข้อตกลง (MOU) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มุ่งเชื่อมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า