เปิดทำงานหลังสงกรานต์มา หลายพรรคการเมืองมีปฏิทินประชุมใหญ่สามัญพรรคตามที่กฎหมายกำหนด ล่าสุด พรรคไทยสร้างไทย เพิ่งประชุมไปเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา

สำหรับแนวคิดจะทำสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีการศึกษาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แต่มีอันต้องพับไปก่อนเพราะขับเคลื่อนประเด็นทางสังคมแล้วหลายเรื่อง ทั้งกัญชาเสรี กระท่อมเสรี

ขณะที่ “รัฐบาลเสี่ยนิด” กำลังโดนทัวร์ลงอย่างเมามันส์ อันเนื่องมาจากโครงการเงินดิจิตทัล 1 หมื่นบาท หาเสียงไว้อย่าง แต่ตอนจะทำเป็นอีกอย่าง พลิกลิ้นหลายประเด็น ไม่ได้ทำตามรายละเอียดที่บอกไว้

“ก้าวไกล”แย่แล้ว! อุตส่าห์โฆษณากับชาวบ้านว่าจะเล่นการเมืองรูปแบบใหม่ และมีประชาชนไม่น้อยอยากเห็น สะท้อนจากผลการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมาไม่นานนัก

สภาฯชุดนี้ แม้ไร้ชื่อ “จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร” รักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสส. แต่ความจริงสาวเจ้าขยับตัวอะไรก็อยู่ในสายตาคนการเมืองอยู่ตลอด ก่อนหน้านี้ก็เป็นข่าวคราว

เข้าวินนั่งเก้าอี้ฝ่ายสื่อสารงานของรัฐบาลอีกคน สำหรับทีมหัวกะทิจากค่ายรวมไทยสร้างชาติ หรือ รทสช. อย่าง “ลอรี่” พงศ์พล ยอดเมืองเจริญ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ล่าสุดได้รับแต่งตั้งอีกหนึ่งตำแหน่ง คือ “โฆษกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน” ป้ายแดง เพื่อทำหน้าที่สื่อสาร ประชาสัมพันธ์

จับตาการเมืองไทยรอบปลายสัปดาห์เดือนตุลาคมนี้ มีอยู่ 2-3 ประเด็นที่น่าสนใจ

กลายเป็นว่าทุกวันพุธและวันพฤหัสบดีที่เป็นการประชุมสภาผู้แทนราษฎร “ที่จอดรถรัฐสภา” อัตคัดถึงขั้นวิกฤต แต่คนที่ไม่เดือดร้อนเรื่องนี้เลย คือ สส. ผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกของประชาชน

ภายหลังสภาผู้แทนราษฎร เซ็ตคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ได้เกือบหมด จากนี้ก็ถือว่ารันงานนับหนึ่งทันที ในส่วนของ “ประชาธิปัตย์” ได้โควต้าเก้าอี้ประธานคณะกมธ. 2 ชุด ประกอบด้วย คณะกมธ.ตำรวจ และคณะกมธ.พาณิชย์

ธรรมชาติของมนุษย์ที่แต่ละคนจะมีสุขทุกข์แตกต่างกัน สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ภาคเหนือ ภาคกลางก็กำลังกังวลว่าน้ำจะเข้าท่วมขยายกว่าเดิมตามบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรของประชาชนหรือไม่ ซึ่ง นายกฯก็ได้ลงไปติดตามสถานการณ์น้ำด้วยตัวเองแล้ว จึงพออุ่นใจได้บ้างว่าอยู่สายตาของรัฐบาลและหน่วยงานรัฐแล้ว

วงการสีกากีมีอะไรให้ตื่นเต้นตลอด เป็นดินแดนสนธยาไม่ต่างจากกระทรวงศึกษาธิการ โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่25ก.ย. จู่ๆก็มีข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจถือหมายค้นไปบุกบ้านตำรวจชั้นผู้ใหญ่บิ๊กเบิ้ม

ขณะที่สังคมกำลังว้าวุ่นจับตาตรวจสอบอยู่กับการใช้งบประมาณไปเยือนต่างประเทศ ทั้งทริป “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่78 ที่สหรัฐอเมริกา ที่ใช้งบถึง 30 ล้านบาท

เก็บตกควันหลงวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ภาพรวมเรียบร้อยดี ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ “นโยบายแจกเงินดิจิตอลวอลเล็ท” ให้แก่ประชาชน 10,000 บาท ด้วยตัวเลขที่หวือหวา ใครก็ต่างอยากได้

ภายหลังคณะรัฐมนตรี(ครม.)เข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตน ถือเป็นอาณัติสัญญาณ “รัฐบาลเศรษฐา1” เริ่มทำงานได้อย่างเป็นทางการ นักวิชาการหลายท่านฝากถึงข้อห่วงใยไปยังรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ

ขณะที่การเมืองในสภากำลังวุ่นวายจนตกเป็นประเด็นสนใจ “จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร” อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่งข่าวคราวความไม่ชอบมาพากลในวงการกีฬามาฟ้องสังคมให้จับตาคู่ขนานกับการเมืองที่กำลังเข้มข้น

โหวตนายกฯ กำหนดแบบคร่าวๆ ต้องรอผลวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าจะรับคำร้องหรือไม่รับคำร้อง กรณีห้ามเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน ยกเว้นมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป

“การเมือง” ตอนนี้อลเวงเหลือเกิน มีแต่ความขมุกขมัว ที่บอกว่า “ลุงโทนี่” จะได้ของขวัญเนื่องในวันเกิด 26 ก.ค. ครบ 73 ปี สงสัยต้องรอไปก่อน สรุปว่าที่เคยประกาศไว้จะกลับก่อนวันแฮปปี้เบิร์ธเดย์ก็ต้องอดทนต่อไปอีก

ว่าด้วยการโหวตนายกรัฐมนตรี วันนี้(19 ก.ค.) ลงมติเป็นครั้งที่สอง 8พรรคร่วมรัฐบาลยังคงมีมติเสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ แต่ดูเหมือนว่าจะกินแห้วอีกแล้ว เพราะสว. ยังคงผนึกเหนียวแน่นไม่เห็นชอบ “พิธา” เป็นนายกฯ

“รัฐสภา” เปิดเทอมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว สารพัดเรื่องราวทั้งความสนุกสนานและความโกลาหลก็เกิดขึ้น

เปิดประชุมสภาฯ นัดแรก บรรยากาศรัฐสภากลับมาคึกคัก ส.ส.หน้าเก่า หน้าใหม่ แบ่งกันครึ่งๆ ส่วนกระจอกข่าวมากันเป็นกองทัพ ทั้งสื่อหนังสือพิมพ์ ทีวี ออนไลน์ ช่างภาพนิ่ง ช่างภาพวิดีโอ