
7 มี.ค.2566- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์การเมือง ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ว่า กระแสความนิยมของ พล.อ. ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม สูงอย่างต่อเนื่อง โดยประชาชนผู้สูงอายุได้สอบถาม เรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและส่วนนึงถามเกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อยากให้พรรครวมไทยสร้างชาติสานต่อนโยบายนี้ โดยขณะนี้พรรคมีนโยบายสวัสดิการรัฐ 1,000 บาท และกู้ฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท ขณะที่ผู้ไม่ผ่านเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีประมาณ 5,000,000 คน ขณะนี้กำลังเปิดให้อุทธรณ์อยู่ พร้อมกันนี้ยังมีการร้องเรียนเกี่ยวกับมิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนในเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วงเช้าที่ผ่านมา(7 มี.ค.) ตนได้พบพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทย ไปดำเนินการ กับกลุ่มที่หลอกลวงประชาชน
เมื่อถามว่าจากอาการป่วยของพล.อ.ประยุทธ์ พรรครวมไทยสร้างชาติจะจัดคิวการลงพื้นที่ใหม่ให้กับพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า จริงๆแล้วพล.อ.ประยุทธ์แข็งแรงมาก อาการที่มือเป็นการอักเสบไม่ได้มีอาการหนักอะไร จากการเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ท่านแข็งแรงดีไม่มีผลต่อการเดินสายปราศรัยหรือลงพื้นที่ แต่คงต้องปรับกันนิดหน่อยไม่ได้มีผลกระทบมาก วันนี้นายกฯใจยังสู้ และจากการติดตามการลงพื้นที่เห็นว่านายกฯใจสู้มากที่จะทำงานให้กับประชาชน เพราะฉะนั้นท่านสู้เต็มที่อยู่แล้ว เมื่อถามถึงกำหนด การลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา วันที่ 10มี.ค.ของพล.อ.ประยุทธ์ยังคงมีอยู่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เท่าที่ทราบยังมีอยู่และวันที่ 11 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการไปสงขลา อย่างไรก็ตามจากการลงพื้นที่ยังพบประชาชนส่วนหนึ่งมีความสับสน ไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ อยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะป้ายหาเสียงรูปคู่ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับผู้สมัคร เพิ่งทำออกไป ก็จะเร่งให้ว่าที่ผู้สมัครที่เราพิจารณาแล้วรีบขึ้นป้ายคู่
ทั้งนี้ไปที่ไหนคนก็ถามถึงลุงตู่ เราจึงต้องปรับให้ระยะ ระหว่างพรรคกับพล.อ.ประยุทธ์ เป็นหนึ่งเดียวกัน ผลโพลต่างๆก็สะท้อนตัวนายกฯมาอันดับหนึ่งในหลายพื้นที่ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติอยู่อันดับสองอันดับสาม ซึ่งเราต้องปรับให้ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับพรรคเป็นหนึ่งเดียว ให้ประชาชนรู้ว่าถ้าเลือกลุงตู่ต้องเลือกรวมไทยสร้างชาติทั้งคนและพรรค
นายธนกร กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะมีคิวปราศรัยตามพื้นที่ต่างๆ แต่ระบบของพรรคก็ต้องขับเคลื่อน หัวหน้าและเลขาธิการพรรค ก็ต้องลงพื้นที่มากขึ้น แกนนำพรรคที่แบ่งความรับผิดชอบแต่ละพรรค ก็จะลงพื้นที่หนักหน่วงขึ้นเพราะตอนนี้เข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้ว และจากการลงพื้นที่มั่นใจว่าประชาชนจะไว้ใจพล.อ.ประยุทธ์มากกว่าตอนปี 62 ที่เป็นเพียงแคนดิเดตนายกฯ แต่ตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงด้วยตัวเอง และเป็นประธานคณะกรรมการฯของพรรคเอง ด้วยความตั้งใจของท่านที่ทำงานให้กับประชาชน เชื่อว่าเราจะได้โอกาสจากประชาชนมากขึ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ลุงป้อม’ ส่งขุนศึกเหนือ ‘สุรเดช’ เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่
'ลุงป้อม'ลั่นกลองรบ ส่งขุนศึกทัพเหนือ 'สุรเดช ยะสวัสดิ์' เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัครเชียงใหม่ เผยเป็นอดีตสส. 9 สมัย-อดีตข้าราชการผู้ใหญ่ประสบการณ์เพียบ ทำคุณประโยชน์ให้ชาวเชียงใหม่มากมาย
'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล
"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ
'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง
"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา
‘เฉลิม’ ยืนยันลาออกพ้นเพื่อไทย เตรียมย้ายซบพลังประชารัฐ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เผยเซ็นลาออกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว เตรียมยื่น กกต. วันที่ 3 ธ.ค. ย้ำเป็นเหตุผลทางการเมือง ไม่มีการแจ้งแพทองธาร และยังไม่ได้คุยกับวัน อยู่บำรุง ก่อนประกาศชัด


