'นิด้าโพล' ชี้คนไทยค้านแนวคิด 'ซื้อเสียงถูกกฎหมาย?'

20 มีนาคม 2565 – ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ซื้อเสียงถูกกฎหมาย?” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2565 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,329 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่าง โดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบง่าย (Simple Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงความเชื่อของประชาชนว่า “ประเทศไทยมีการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง” ไม่ว่าจะเป็นในระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 76.75 ระบุว่า เชื่อมาก รองลงมา ร้อยละ 16.33 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 3.46 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย ร้อยละ 3.31 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ และร้อยละ 0.15 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับความเชื่อว่า “ปัญหาการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง” จะสามารถแก้ไขได้ ตัวอย่างที่ระบุว่าเชื่อมาก ค่อนข้างเชื่อ และเฉย ๆ ไม่ตอบ/ไม่สนใจว่า “ประเทศไทยมีการซื้อเสียงในการเลือกตั้ง” ไม่ว่าจะเป็นในระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ (จำนวน 1,239 หน่วยตัวอย่าง) พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 63.92 ระบุว่า ไม่เชื่อเลย รองลงมา ร้อยละ 17.76 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ ร้อยละ 11.46 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ ร้อยละ 6.62 ระบุว่า เชื่อมาก
และร้อยละ 0.24 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอที่จะให้ “การซื้อเสียงในการเลือกตั้ง” เป็นการกระทำที่ถูกกฎหมาย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 71.93 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 12.27 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 8.50 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย ร้อยละ 6.77 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 0.53 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอที่จะให้ “การจัดเลี้ยงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง” เป็นการกระทำที่ถูกกฎหมาย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.44 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 14.52 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 13.02 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 11.89 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 1.13 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ส่วนความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอที่จะให้ “การจัดมโหรสพ กิจกรรมบันเทิงของผู้สมัครรับเลือกตั้ง” เป็นการกระทำที่ถูกกฎหมาย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 61.17 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 13.54 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 12.27 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 12.19 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 0.83 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อการไม่อนุญาตให้เปิดเผยผลโพลการเลือกตั้ง ในระหว่างเจ็ดวันก่อนการเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 42.06 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 28.97 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 15.80 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย ร้อยละ 10.99 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย และร้อยละ 2.18 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไชยา เบอร์ 7 กล้าธรรม ชูผันน้ำโขง-เลย-ชีมูล ดัน สปก.เป็นโฉนด

“ไชยา” หมายเลข 7 เขต 2 จ. หนองบัวลำภู พรรคกล้าธรรม ประกาศนโยบายหาเสียง กับชาวหนองบัวลำภู ปัดฝุ่นระบบผันน้ำ "โครงการโขง เลย ชีมูล” แปลง สปก.เป็นโฉนดเพื่อการเกษตรครุฑแดง ลั่น หนี้สินเกษตรและครู ต้องมีโครงสร้างสหกรณ์กลางมาจัดการ

‘ดร.เจษฏ์’ ปูด ‘ทุนเทา’ ทุ่มแสนล้านในการเลือกตั้ง ซื้อประเทศไทย

นายเจษฏ์ โทณะวณิก แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครักชาติ (รช.) กล่าวถึงสถานการณ์การแทรกแซงทางการเมืองของกลุ่มทุนสีเทา ว่า ล่าสุดมี

‘ลูกชายเจ๊แดง’ หว่านนโยบายประชานิยม ขุด รถไฟ 20 บาท มาขายต่อ

ที่ตลาดวัดเกาะ เขตสายไหม กทม. นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์​​ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์​​ หัวหน้าพรร

‘เฮียบุ๊งสามนิ้ว’ แฉเอง ส้มเทายังมีอีก ทำเว็บพนัน เอาเงินมาใช้เลือกตั้ง

ปกรณ์ พรชีวางกูร   หรือเฮียบุ๊ง อดีตผู้สนับสนุนม็อบราษฎร โพสต์ข้อความว่า ไหนๆก็ฉาวขนาดนี้ มีผู้สมัครโดนจับเพราะฟอกเงินให้พวกค้ายา

กกต.ชี้ผู้สมัคร พรรคส้ม ถูกจับยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม

กกต.กทม. แจงผู้สมัคร ส.ส. เขต 33 ปชน. ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด ยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม หากศาลยังไม่ตัดสินเด็ดขาด พร้อมย้ำการเปลี่ยนผู้สมัครทำได้เฉพาะกรณีลาออก ตาย หรือมีคำพิ