18 เม.ย.2565 - ที่สำนักงาน ก.พ.เดิม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคากว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสลากฯเกินราคาว่า จากการทำงานของตนที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาสลากฯเกินราคา เราต้องยอมรับความจริงว่าปัญหาคาราคาซังมาหลายยุคสมัย และวันนี้เป็นคณะกรรมการฯชุดเราที่ดำเนินการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรมตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯได้เริ่มทำงานตั้งแต่เดือนก.พ.จนถึงวันนี้ประชุมกันอย่างไม่รู้หยุดเพื่อหาข้อเท็จจริง หาแนวทางต่างๆเพื่อให้เกิดการควบคุมราคา โดยใช้รูปแบบทั้งการปรับเทคโนโลยีและการควบคุมกฎหมาย ซึ่งมติที่ประชุมในวันนี้จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯ ที่มีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 27 เม.ย.นี้
ด้าน พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันวันนี้ 1.การคัดสรรผู้ค้านอกระบบ โดยจากการสำรวจ 1 เดือนที่ผ่านมา พบผู้ค้าทั้งหมดโดยแบ่งเป็นผู้ค้าในระบบ 3,000 กว่าราย และผู้ค้านอกระบบ 4,367 ราย โดยในกลุ่มนี้ไม่มีสลากเป็นของตนเองทั้งระบบซื้อจองหรือโควตา เขาใช้วิธีไปซื้อสลากมาขายต่อจึงต้องขายในราคาเกินกว่ากำหนด มติของที่ประชุมจึงจะนำรายชื้อผู้ค้านอกระบบทั้งหมดให้คณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบอร์ดกองสลากให้ผู้ค้ากลุ่มนี้ได้รับสิทธิ์โควตากองสลาก เพื่อได้สลากในราคาต้นทุน ซึ่งจะยังมีข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ คาดว่ากว่าจะถึงวันเสนอชื่อจะมีเป็นหมื่นราย 2.การจำหน่ายโครงการสลาก 80 บาท 1,000 จุดทั่วประเทศที่ในส่วนของระดับอำเภอยังขาดผู้สมัครอยู่ ซึ่งสลากได้เดินทางไปแล้วทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังไม่ครบทุกอำเภอ ขณะนี้ขาดกว่า 300 กว่าอำเภอ จาก 900 กว่าอำเภอทั่วประเทศที่ประชุมจึงมีมติว่าตามโครงการเดิมเราใช้รูปแบบให้สิทธิ์แก่ตัวแทนสมัครเข้ามา แต่เมื่อตัวแทนไม่สมัครเราจะขยับไปให้สิทธิ์ผู้ซื้อจอง แต่หากผู้ซื้อจองไม่สมัครก็เป็นผู้ค้านอกระบบ
พันโท หนุน กล่าวอีกว่า และ 3.วันนี้ตนได้มาเสนอความคืบหน้าในโครงการที่ดำเนินการมาแล้ว เช่น โครงการผู้ลงทะเบียนในส่วนซื้อจองปี 2558 ที่มียอดทั้งสิ้น 1.2 แสนกว่าราย ที่ทางสำนักงานกองสลากให้ทดลองสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงสมัครขายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังและถุงเงินซึ่งจากตัวเลข 1.2 แสนรายเขาไปใช้สิทธิ์ดึงคิวอาร์โค้ดของตัวเองจากระบบ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบได้ 60,000 กว่าราย หรือคิดเป็น 50% รวมทั้งไปสมัครแอปพลิเคชันถุงเงินอีก 80,000 กว่ารายหรือคิดเป็น 67% ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ขายเริ่มมีความตื่นตัวสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้
“ 1 เดือนที่ผ่านมามีการรายงานการสแกนคิวอาร์โค้ดที่แผงจุดขาย ซึ่งสำนักงานสลากฯได้เก็บข้อมูลไว้ 3 ล้านกว่าครั้ง คิดเป็น 53,000 กว่ารายที่ซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท นี่เป็นตัวเลขยืนยันว่าที่ผ่านมามีสลาก 80 บาท และมีตัวเลขอย่างน้อยที่เก็บได้ 53,000 กว่ารายทั่วประเทศ ขณะที่ในเรื่องของแพลตฟอร์มเราจะเริ่มในงวดวันที่ 16 มิ.ย.”พันโท หนุน กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลอดหนี้! ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน 'แรมโบ้' 7.9 ล้านบาท
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิ
คอหวยเฮ! สำนักงานสลากฯ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสลาก อำนวยความสะดวกผู้ขาย-ผู้ซื้อ
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ ได้ออกประกาศเรื่องการจัดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก แบบดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม โดยใช้ช่องทางเว็บไซต์
'วีระ' บุก ปปป. แจง 'บิ๊กเต่า' ไม่เกี่ยวแก๊งตบทรัพย์
นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน บก.ปปป.
'แรมโบ้' เข้าให้ข้อมูล ปปป. ถูกแก๊งตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ขู่กรรโชกทรัพย์ 6 ครั้ง
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่ กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติไม่ชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนหลังจากเคยโดน
‘เพื่อไทย’ นำ ‘บิ๊กตู่’ วางมือ ‘แรมโบ้อีสาน’ อยู่ยาก โดนบล็อก-บีบ
ภายในวันที่ 24 ตุลาคม วันเดียว เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นมากมายใน ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ’
‘แรมโบ้’ ยื่นใบลาออกจากสมาชิก ‘พรรครวมไทยสรัางชาติ’
“แรมโบ้” ดร.เสกสกล ลาออกสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว ไม่ทราบเหตุผล ติดต่อไม่ได้ ส่งผลเลื่อนระบบบัญชีรายชื่อของพรรค แม่เลี้ยงติ๊กขึ้นมาลำดับ 15 แทน