'อดุลย์' ชู 'ชัชชาติโมเดล' หาเสียงสร้างสรรค์พร้อมแขวะ 'บิ๊กตู่' ตระบัดสัตย์

ปธ.ญาติวีรชนพฤษภา’35 ปลื้มแนวทางสมานฉันท์เกิดประกายขึ้นจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ทุกขั้วการเมืองเทคะแนนให้”ชัชชาติ”ที่ชูแคมเปญไม่ขัดแย้งกับใคร หวังเป็นโมเดลระดับชาตินักการเมืองหาเสียงไม่สร้างวาทะกรรมขัดแย้ง ตอก”ประยุทธ์”ไม่ต้องมากังขานโยบายว่าที่ผู้ว่าฯกทม.ทั้งที่ตัวเองก็ตระบัดสัตย์ เปรียบเป็นซากปรักหักพังใกล้ถูกปิดประตูตกจากอำนาจ หนุน”ฝ่ายค้าน-ธรรมนัส” ล้มให้ได้ บี้“ประวิตร”ต้องตัดสินใจก่อนประชาชนจะพิพากษา “3ป.”

29 พ.ค. 2565 – นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวถึงผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ส่งผลต่อการเมืองระดับชาติ ว่า คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 ได้จัดการครบรอบ30ปีพฤษภาประชาธรรม เมื่อวันที่ 17 -18พ.ค. ที่ผ่านมา ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการหยุดยั้งวงจรอุบาทว์รัฐประหาร สร้างรัฐธรรมนูญของประชาชน และความปรองดองสมานฉันท์ เป็นเจตจำนงของญาติวีรชนฯที่พยายามทำให้สังคมไทยเกิดความรักสามัคคีมาตลอดระยะเวลา 30 ปี แม้มีความแตกต่างกันทางความคิดแต่ไม่แตกแยกและใช้ความรุนแรงต่อกัน ปีนี้เป็นปีที่ครอบครัวญาติวีรชนฯ คาดหวังรอคอย การรู้รักสามัคคี สมานฉันท์ เอื้อเฟื้อต่อกันของคนในชาติตามพระราชดำริของ ในหลวงรัชกาลที่10 ซึ่งได้บังเกิดประกายขึ้นแล้วในกรณีที่ชาวกรุงเทพมหานคร เลือกบุคคลที่มาทำหน้าที่รับใช้ประชาชน คือ ผู้ว่าฯกทม. ดังปรากฏตามข่าวที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง จากการลงสมัครในนามอิสระไม่สังกัดพรรคการเมือง ชูแคมเปญไม่ขัดแย้งกันกับใคร มุ่งทำงานรับใช้ประชาชน และสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้ยืนข้างขั้วการเมืองใด จนทำให้ชาวกทม.จากทุกฝ่ายไว้วางใจเทคะแนนให้อย่างถล่มทลาย

นายอดุลย์ กล่าวว่า คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 จึงคาดหวังอยากได้เห็นปรากฎการณ์ดังกล่าวในการเลือกตั้งสนามใหญ่ระดับชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ด้วยการแข่งขันเป็นตัวแทนประชาชนทุกจังหวัดตามภูมิภาคต่างๆ นำความปรารถนาดีของญาติวีชนฯและแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งของว่าที่ผู้ว่าฯกทม.ไปเป็นโมเดล โดยมีแนวทางการหาเสียงที่สร้างสรรค์ไม่สร้างวาทะกรรมความขัดแย้ง ไม่ใส่ร้ายป้ายสีคู่แข่งทางการเมือง และไม่ปลุกเร้าให้สังคมไทยกลับไปสู่บรรยากาศความขัดแย้งทางการเมือง 2 ขั้วอีก เพราะจะยิ่งตอกย้ำความแตกแยกของสังคมไทยให้ร้าวลึก นอกจากนี้หวังว่าพรรคการเมืองต่างๆจะชูนโยบายและคำมั่นสัญญาที่ประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะมุ่งเน้นทำงานรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริงไม่สร้างความขัดแย้งกับใคร และพร้อมสร้างความสมัครสมานสามัคคีหลอมรวมหัวใจของประชาชนทุกฝ่ายที่มีความแตกต่างทางความคิดมาร่วมกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองให้ฟื้นจากวิกฤตในทุกด้านเพื่อให้ชาติบ้านเมืองของเราเกิดการพัฒนาอยู่กันอย่างร่มเย็นสันติสุขตลอดไป

“บทเรียนการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคการเมืองและนักการเมืองคนใดสัญญาอะไรไว้กับประชาชนและผิดคำพูดที่ให้สัญญาไว้ต่อสาธารณะย่อมจะรู้ตัวเองดี โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องมากังขานโยบายของว่าที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ว่าจะทำได้หรือไม่ เพราะตัวเองให้สัญญาประชาคมตั้งแต่ยึดอำนาจผ่าน8ปีมาแล้วได้ตระบัดสัตย์อย่างชัดเจน ไม่ได้สร้างความสามัคคีปรองดองคนในชาติ ไม่มีการปฏิรูปประเทศ จนบ้านเมืองถอยหลังลงคลอง เศรษฐกิจพังพินาศ เกิดความเหลื่อมล้ำมากที่สุด กระบวนการยุติธรรมยิ่งไร้ความน่าเชื่อถือ ความขัดแย้งลุกลามถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในสภาผู้แทนราษฎรก็คือ ผู้แทนฯประชาชนเลือกมากลับย้ายค่ายย้ายพรรคโดยลืมอุดมการณ์ถูกซื้อ-ขายตัวเหมือนตลาดวัวตลาดควายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นการเมืองที่น้ำเน่าที่สุดกว่าทุกยุคสมัย ผลพวงจากการมีบุคคลที่ไร้ความรู้ความสามารถและไร้จิตสำนึกยึดกุมอำนาจนำพาบ้านเมืองหลงทางมา8ปีนั่นเอง” นายอดุลย์ กล่าว

นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ เปรียบเหมือนคนที่ล่มละลายทางความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งชำรุดและซากปรักหักพังทางการเมืองไทยไปแล้ว เป็นเรื่องน่าสมเพชที่ไม่สำนึกตัวเองด้วยการหาทางออกจากอำนาจก่อนที่บานประตูจะปิดลง ยิ่งอยู่ในอำนาจนานเท่าไหร่ประเทศชาติยิ่งเสียหาย หากลงจากอำนาจเร็วเท่าไหร่จะเป็นโอกาสของประเทศ ดังนั้นใครก็ตามที่สามารถทำให้พล.อ.ประยุทธ์ลงจากอำนาจได้ต้องให้การสนับสนุนทั้งฝ่ายค้านรวมทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย หากร่วมกันล้มพล.อ.ประยุทธ์ ได้ จะเป็นคุณูปการของบ้านเมือง ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะชายชาติทหารดื่มน้ำพิพัฒน์สัตยาว่าจะจงรักภักดีต่อประเทศชาติและราชบัลลังก์ หากมัวแต่เล่มเกมสองหน้าทำให้อึมคลึม ไม่รู้สำนึกว่าการแก้ไขความบกพร่อง ของพล.อ.ประยุทธ์คือ การทดแทนบุญคุณแผ่นดิน แก้ไขสิ่งผิดที่เคยเสียสละให้น้องเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ทำให้บ้านเมืองหายนะ คงต้องเตือนว่าเวลาของท่านเริ่มหมดลงแล้ว ครั้งนี้เป็นโอกาสุดท้าย หากไม่กล้าตัดสินใจไถ่บาป ประชาชนจะพิพากษา”พี่น้อง 3 ป.”ไปพร้อมๆกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อดุลย์’ แนะฝ่ายค้านไม่ควรยื่นซักฟอก เหตุทำแก้รธน.เสียของ

“อดุลย์”เบรกฝ่ายค้านไม่ควรยื่นญัตติซักฟอกเพราะนายกฯจะชิงยุบสภาฯก่อนทำให้ร่างแก้ไขรธน.ตกไปทั้งหมด แนะไม่ต้องมีสสร.จะขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.และเสียเวลา กมธ.ยกร่างรธน.ต้องมาจากหลากลายปิดช่องการครอบงำ ‘คนละครึ่งพลัส’ ช่วยกระตุ้นศก.แต่ไม่ควรทำต่อเนื่องสร้างภาระหนี้ให้ลูกหลาน จี้นายกฯใช้ความเด็ดขาดล้างบ้างขรก.ทุจริตต้นเหตุทุนสีเทา

‘อดุลย์’ บี้ 'อนุทิน' ยึด MOA เคร่งครัด วอนหนุนร่างนิรโทษฯ

‘อดุลย์’บี้นายกฯอนุทิน ทำตาม MOA อย่างเคร่งครัด เร่งพิสูจน์ผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่าให้ประชาชนผิดหวังเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา เตือนอย่าให้เกิดทุจริตคอร์รัปชันจะเกิดวิกฤตศรัทธานักการเมืองซ้ำรอยอีก  วอนหนุนร่างกฎหมายนิรโทษกรรมคดีการเมืองให้มีผลบังคับใช้ก่อนเลือกตั้ง และสร้างอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ตามติครม.30ธ.ค.46ให้แล้วเสร็จ

'ญาติวีรชนพฤษภา 35' ยื่น กมธ.นิรโทษฯ แปรญัตติต้องไม่รวมคดี 112 ชี้เป็นพระราชอำนาจ

"ญาติวีรชนพฤษภา 35" ยื่นข้อเสนอถึง "กมธ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข" นำแนวทางสร้างความปรองดอง ของ สปช. มาใช้พิจารณา ย้ำ ต้องยึดหลักการที่สภาฯ ลงมติวาระหนึ่ง-แปรญัตติ ม.112 ที่ยังไม่ได้รับความเห็นชอบไม่ได้ เพื่อป้องซ้ำรอยนิรโทษกรรมสุดซอย

ญาติวีรชนพฤษภา'35 จี้รัฐบาลหาคำตอบคนสูญหาย เชื่อความจริงไม่ได้ตายไปพร้อมกับ 'สุจินดา'

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา' 35 และรักษาการเลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า

‘อดุลย์’ แนะ ‘ทักษิณ’ ทำเพื่อแผ่นดินสลายความขัดแย้ง

'อดุลย์” แนะ”ทักษิณ”ทำเพื่อแผ่นดิน สลายความขัดแย้ง สร้างความสามัคคีของคนในชาติ ดันร่างกม.นิรโทษกรรม  หนุน “แพทองธาร” ปรับครม.สร้างนวัตกรรมใหม่ไม่ยึดโควตานำบุคคลมีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยรัฐบาล รู้จักใช้คนให้เป็นเหมือน “พล.อ.เปรม”  ชี้งบฯ 69 ไม่ตอบโจทย์ เหตุประเทศใกล้”รัฐล้มเหลว”

ตระบัดสัตย์ในโลกสวย! เมื่อ 'แพทองธาร' ต้อนรับ 'มิน อ่อง หล่าย'

แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เคยประกาศไว้อย่างชัดเจนในช่วงหาเสียงว่า “จะไม่จับมือกับเผด็จการคนทำรัฐประหาร” ซึ่งในขณะนั้น คำพูดนี้มุ่งเป้าไปที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือที่ถูกเรียกกันว่า “สองลุง”