อดีตรองอธิการบดี มธ. ตามจี้ ‘ชัชชาติ’ แสดงจุดยืนให้ชัด เห็นด้วยหรือไม่ยกเลิก ม.112

แทนที่จะวางเฉยปล่อยให้เป็นความคลุมเครืออย่างนี้ต่อไป คุณชัชชาติน่าจะมีความกล้าหาญที่จะแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเสียทีว่า มีความเห็นอย่างไรต่อการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมีความเห็นอย่างไรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

12 มิ.ย.2565-รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า เมื่อคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครด้วยคะแนน 1.38 ล้านเสียง ตามปกติเราก็ต้องยอมรับให้คุณชัชชาติมานั่งเป็นผู้ว่าฯตามที่ชาวกทม ที่มาลงคะแนนเสียงส่วนใหญ่ต้องการ และก็ต้องให้โอกาสผู้ว่าฯคนใหม่ทำงานสักหลายเดือนจึงค่อยวิพากษ์วิจารณ์ แต่ปรากฏว่าสไตล์การทำงานของคุณชัชชาติตั้งแต่วันแรกที่รู้ผลการเลือกตั้ง แตกต่างจากผู้ว่าฯคนอื่นๆที่ผ่านมาเกือบเรียกได้ว่าอย่างสิ้นเชิง เช่น การพายเรือคายัคเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา มีสื่อมวลชนห้อมล้อมเต็มไปหมด  ทำให้มีทั้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และเสียงออกมาปกป้อง แก้แทนกันอย่างไม่เว้นแต่ละวันตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ จนอยากจะเรียกสิ่งที่เกิดนี้ว่า “ปรากฏการณ์ชัชชาติ”

“ปรากฏการณ์ชัชชาติ” ที่เราได้เห็นอยู่ในขณะนี้นับว่าเป็นครั้งแรกไม่เพียงเฉพาะในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยเลยทีเดียว

ยังไม่เคยมีผู้ว่าฯกทม ที่ได้รับคะแนนเสียงเกินกว่าล้านเสียงคนไหน ตั้งแต่คุณสมัคร สุนทรเวช คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน และม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร มีปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน ยังไม่เคยมีผู้ว่าฯกทม คนไหนที่มีสำนักข่าวใหญ่มากกว่า 1 สำนัก ทำหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่วนตัวให้ ยามฝนตกหนัก หากเป็นผู้ว่าฯคนอื่นก็ต้องเอาภาพรถติด หรือน้ำท่วมมาลง  แต่สำหรับผู้ว่าฯชัชชาติ ฝนตกเพียงทำให้เกิดความชุมฉ่ำเท่านั้น

ยังไม่เคยมีผู้ว่าฯคนไหน แม้แต่คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่มีคนคอยปกป้องให้เช่นนี้

ในสายตาของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลือกคุณชัชชาติเข้ามา อะไรที่ดีในกทม เป็นเพราะคุณชัชชาติ  อะไรที่ไม่ดีเป็นเพราะผู้ว่าฯคนก่อนๆ ทั้งยังคอยตอบโต้ ปกป้อง และแก้แทนให้ในทุกกรณีเมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์

ผมไม่ติดใจกับสไตล์การทำงานของคุณชัชชาติ เพราะผู้บริหารแต่ละคนย่อมมีสไตล์การทำงานที่เป็นของตัวเอง มีกูรูทางการบริหารคนหนึ่งเมื่อ 40 ก่อน ชื่อ Tom Peters ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้คำว่า “Excellence” หรือความเป็นเลิศเป็นศัพท์ที่นิยมใช้กันทั่วโลก Tom Peters เรียกสไตล์การทำงานแบบคุณชัชชาติว่า ” Management by Wandering Around ” ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องไม่ดี ผู้บริหารทุกคนควรจะใช้วิธีการทำงานแบบนี้บ้าง ดีกว่าเอาแต่นั่งอยู่ในห้องทำงาน แต่จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคน และวัฒนธรรมองค์กรของแต่ละแห่ง

ที่ผมติดใจคือ คุณชัชชาติสามารถทำให้ผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจำนวนมากเชื่ออย่างสนิทใจว่า คุณชัชชาติก็มีความจงรักภักดีเฉกเช่นกัน และจะไม่ไปข้องแวะร่วมมือกับพวก 3 นิ้วที่ต้องการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเด็ดขาด เขาเหล่านั้นจึงได้ตัดสินใจลงคะแนนให้ ทั้งยังให้คำยืนยันต่อเพื่อนๆและญาติพี่น้องว่าคุณชัชชาติไม่เป็นอย่างนั้นแน่ แต่พฤติกรรมของคุณชัชชาติที่แสดงให้เห็นในภาพต่างๆที่ทยอยออกมาทั้งในอดีตและปัจจุบันทำให้คนที่มีความจงรักภักดีเกิดความคลางแคลงใจ ท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งมีความจงรักภักดีและมีความใกล้ชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์ถึงกับกล่าวคำว่า “รับไม่ได้” เมื่อได้เห็นภาพๆหนึ่งของคุณชาติที่มีการเผยแพร่ออกมา ซึ่งภาพๆนี้เป็นภาพที่ผู้เชี่ยวชาญการถ่ายภาพที่ผมรู้จักดีคนหนึ่งมีความเห็นว่า เป็นภาพจริง ไม่ได้เป็นการตัดต่อแต่อย่างใด

แทนที่จะวางเฉยปล่อยให้เป็นความคลุมเครืออย่างนี้ต่อไป คุณชัชชาติน่าจะมีความกล้าหาญที่จะแสดงจุดยืนที่ชัดเจนเสียทีว่า มีความเห็นอย่างไรต่อการยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมีความเห็นอย่างไรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และให้คำอธิบายชี้แจงภาพต่างๆที่เผยแพร่ออกมาในระยะนี้ เพื่อคนที่เขามีความจงรักภักดีที่ตัดสินใจลงคะแนนให้คุณชัชชาติจะได้เกิดความสบายใจ

หวังว่าคุณชัชชาติจะไม่วางเฉยให้คลุมเครือเช่นนี้ต่อไป ขออย่าได้ลืมว่าตัวเองได้รับทุนอานันทมหิดลไปเรียนต่อต่างประเทศจนถึงปริญญาเอก แม้จะเป็นทุนการศึกษาที่ไม่มีเงื่อนไขให้ต้องชดใช้ทุนเมื่อเรียนจบแล้ว แต่ก็ต้องถือว่าคุณชัชชาติมีพันธะทางใจต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งทรงก่อตั้งทุนอานันทมหิดลสำหรับผู้ที่จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยภายในประเทศ ได้ไปเรียนต่อในต่างประเทศ ที่จะต้องแสดงความจริงใจต่อเรื่องนี้เสียทีนะครับ ผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจำนวนมากที่ลงคะแนนเสียงเลือกคุณชัชชาติเข้ามา กำลังรอฟังอยู่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำลายสถิติ! ผู้ต้องขังยังเพิ่มพุ่ง 46 คน คดี ม.112 เกินครึ่ง ผู้อดอาหารประท้วงยังถูกขังต่อ

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ปัจจุบัน (4 เม.ย. 2567) มีผู้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื่องจากคดีที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก อย่างน้อย 46 ราย ในจำนวนนี้เป็นคดีมาตรา 112 เกินกว่าครึ่ง เป็นจำนวน 28 คน

อดีตรองอธิการบดี มธ. หนุนสร้างภาพยนต์ animation 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ภาค2

คณะผู้สร้างภาพยนต์ animation 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ คงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ที่จะต้องสร้างภาพยนต์ภาค 2 ต่อจากนี้ เพราะครั้งนี้จะมีคนเสนอตัวสนับสนุนช่วยเหลือมากมาย

ธีรยุทธ ผู้ร้องคดีต่อ กกต. ศาล รธน.ไต่สวน-จบเร็ว นับถอยหลังยุบ'ก้าวไกล'

จากมติของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ให้ส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบ "พรรคก้าวไกล" เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อได้ว่ากระทำการล้มล้างการปกครอง